สำนักข่าวรอยเตอร์ส (Reuters) เผยแพร่ข้อมูลช็อคโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบ "เมต้า" (Meta) ปล่อยให้การฉ้อโกงผ่านโฆษณาเกิดขึ้นในระดับมหาศาล โดยเฉพาะโฆษณาที่มาจากจีน ซึ่งสร้างรายได้ให้บริษัทถึงปีละหลายพันล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะรู้ดีว่ามีการหลอกลวงปะปนอยู่จำนวนมาก
Reuters รายงานว่า ปี 2024 Meta ได้รายได้จากโฆษณาที่มาจากจีนประมาณ 18,000 ล้านดอลลาร์ คิดเป็น 10% ของรายได้โฆษณาทั้งหมดของบริษัท แต่ภายในนั้น มีเกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ที่มาจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับการหลอกลวง การพนันผิดกฎหมาย สื่อลามก และสินค้าต้องห้ามอื่นๆ
เอกสารภายในของ Meta เองยังระบุว่าจีนคือ “ประเทศที่ส่งออกการหลอกลวงมากที่สุด” คิดเป็น 25% ของโฆษณาหลอกลวงทั่วโลก
***จีนบล็อก Facebook แต่ยังโกยเงิน
ที่น่าสนใจคือแม้ Facebook และ Instagram จะถูกบล็อกในจีน แต่บริษัทจีนจำนวนมากยังสามารถซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Meta เพื่อเจาะกลุ่มผู้ใช้ทั่วโลกได้ปกติ
ร็อบ เลเธิร์น (Rob Leathern) อดีตผู้บริหารระดับสูงของ Meta ที่เคยดูแลฝ่ายความซื่อสัตย์ทางธุรกิจจนถึงปี 2019 ให้สัมภาษณ์กับ Fortune ว่าผลการสืบสวนนี้ “น่าผิดหวังอย่างมาก” โดยบอกว่าเป็นความขัดแย้งชัดเจนระหว่างการเติบโตของรายได้กับความเสียหายที่เกิดกับผู้ใช้
รายงานยังชี้ว่าบางพันธมิตรธุรกิจของ Meta หรือพนักงานของพันธมิตรเหล่านั้น อาจไม่ได้ปฏิบัติตามจรรยาบรรณอย่างที่ควรจะเป็น ดังนั้น Meta ควรตัดพันธมิตรที่ทำผิดซ้ำๆ และเพิ่มความโปร่งใสในการบังคับใช้กฎมากกว่านี้
ทางฝั่ง Meta ออกแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การหลอกลวงกำลังเพิ่มขึ้นทั่วทั้งอินเทอร์เน็ต และบริษัทกำลังใช้เทคโนโลยีขั้นสูงและเครื่องมือใหม่ๆ รวมถึงร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายเพื่อปราบปรามอย่างจริงจัง
ด้าน "แอนดี้ สโตน" (Andy Stone) หัวหน้าฝ่ายสื่อสารของ Meta ได้โพสต์บน Threads โต้กลับ Reuters ว่าข่าวนี้บิดเบือนข้อเท็จจริง และยืนยันว่าทีมต่อต้านการหลอกลวงของบริษัททำงานหนักขึ้น ทำให้รายงานโฆษณาหลอกลวงจากผู้ใช้ลดลงกว่า 50% ในช่วง 15 เดือนที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม รายงานของ Reuters ยังเปิดเผยข้อมูลภายในที่น่าตกใจ เช่น Meta เคยตั้งเกณฑ์ว่าต้องมั่นใจถึง 95% จึงจะแบนบัญชีโฆษณาที่น่าสงสัย และยอมรับรายได้จากโฆษณาเสี่ยงสูงปีละประมาณ 7,000 ล้านดอลลาร์ บางครั้งยังอนุญาตให้โฆษณาที่เสี่ยงทางกฎหมายเดินหน้าต่อเพราะ “ผลกระทบต่อรายได้สูง” แม้แต่การลงโทษพันธมิตรจีนที่ใช้เงินมหาศาล ก็ตอบภายในว่า “ไม่” เพราะกลัวเสียรายได้
ยิ่งไปกว่านั้น ปลายปี 2024 Meta ยังปลดล็อกบัญชีเอเจนซี่โฆษณาจีนระดับรองกว่า 4,000 รายที่เคยถูกพักการใช้งาน ส่งผลให้ได้รายได้เพิ่มปีละ 240 ล้านดอลลาร์ แต่ครึ่งหนึ่งมาจากโฆษณาที่ละเมิดนโยบายความปลอดภัยของบริษัทเอง
Leathern บอกว่าปัญหานี้แก้ได้ถ้าบริษัทจริงจังมากกว่านี้ และเตือนว่าถ้าผู้ใช้ไม่ไว้ใจแพลตฟอร์ม สุดท้ายรายได้จากโฆษณาก็จะลดลงตามไปด้วย เพราะตอนนี้มีผู้เสียหายทั่วโลก ทั้งในอเมริกา แคนาดา ไต้หวัน ที่สูญเงินเก็บทั้งชีวิตจากการหลอกลวงผ่านโฆษณาบน Meta และยิ่ง AI ทำให้การสร้างเนื้อหาหลอกลวงง่ายขึ้น ปัญหาก็ยิ่งหนักและบานปลาย
สรุปแล้ว ประเด็นนี้กำลังเป็นที่จับตา Meta จะจัดการอย่างไรต่อไป เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์ม รวมถึงลบข้อหาว่า "รู้แต่ยอม" และกอบกู้ชื่อเสียงของ Meta ให้กลับมา.


