เร้ดแฮท (Red Hat) ประกาศเปิดตัว Red Hat Enterprise Linux (RHEL) 10.1 อย่างเป็นทางการ อัปเดทใหญ่ครั้งแรกในตระกูล 10.x ดัน Linux องค์กรสู่ยุคปัญญาประดิษฐ์ (AI) เต็มรูปแบบ ชู AI ผู้ช่วยออฟไลน์ ลดดาวน์ไทม์ พร้อมรับรองชิปเร่ง Accelerators จาก AMD, Intel, NVIDIA สะท้อนทิศทางใหม่ของระบบปฏิบัติการสำหรับองค์กร
กุนนาร์ เฮลเลกสัน (Gunnar Hellekson) รองประธานและผู้จัดการทั่วไป เร้ดแฮท เอ็นเตอร์ไพรส์ ลินุกซ์ (Red Hat Enterprise Linux) จากเร้ดแฮท ระบุว่าการสานต่อความร่วมมือกับ AMD, Intel และ NVIDIA นั้นมีจุดประสงค์เพื่อให้ลูกค้า Red Hat Enterprise Linux ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่คล่องตัว ช่วยปลดล็อกให้ลูกค้าได้ใช้ AI accelerators ที่ผ่านการตรวจสอบแล้ว เพื่อให้สามารถสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ได้อย่างราบรื่น นำไปใช้ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น และปรับขนาด AI ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม
"Red Hat Enterprise Linux ในฐานะแพลตฟอร์ม Linux ระดับองค์กรชั้นนำของโลกได้ทำหน้าที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักให้กับองค์กรระดับแนวหน้าหลายพันแห่งทั่วโลก องค์กรต่าง ๆ จำเป็นต้องเคลื่อนไหวให้เร็วขึ้นกว่าเดิมในยุคที่ AI กำลังเติบโต เพื่อนำธุรกิจสู่อนาคต เราจึงยินดีที่จะสานต่อความร่วมมือกับ AMD, Intel และ NVIDIA เพื่อให้ลูกค้า Red Hat Enterprise Linux ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่คล่องตัวขึ้น"
ความเคลื่อนไหวครั้งนี้แสดงว่า Red Hat กำลังกลายเป็นแพลตฟอร์มหลักสำหรับเวิร์กโหลด AI, Cloud-native และความมั่นคงปลอดภัยขั้นสูงในยุคดิจิทัล โดยไฮไลต์สำคัญของ RHEL 10.1 คือการยกระดับประสบการณ์ผู้ดูแลระบบ ด้วยเทคโนโลยี AI ที่ออกแบบมาใช้งานได้จริงในสภาพแวดล้อมองค์กร ตั้งแต่ดาต้าเซ็นเตอร์ ไปจนถึงระบบที่ไม่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต (air-gapped) พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยลดเวลาระบบหยุดทำงาน (downtime) ได้อย่างมีนัยสำคัญ
*** AI ผู้ช่วยออฟไลน์ ตอบโจทย์องค์กรที่ต้องการความปลอดภัยสูง
หนึ่งในจุดเด่นของ RHEL 10.1 คือการเปิดตัว AI command-line assistant แบบใช้งานออฟไลน์ ซึ่งเป็นเวอร์ชันโลคอลของ Red Hat Lightspeed ทำงานร่วมกับเครื่องมือบริหารจัดการ Red Hat Satellite ผู้ดูแลระบบสามารถขอคำแนะนำด้านการตั้งค่า การแก้ไขปัญหา และการดูแลระบบ Linux ได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อคลาวด์
AI ผู้ช่วยตัวนี้ยังขยายขนาด context window จากเดิม 2KB เป็น 32KB ทำให้สามารถวิเคราะห์ log ขนาดใหญ่และชุดคำสั่งที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น ตอบโจทย์องค์กรที่มีข้อจำกัดด้านความปลอดภัยของข้อมูล และไม่สามารถส่งข้อมูลออกนอกระบบได้
***รองรับ AI Accelerator ครบค่าย เร่ง AI ทำงานเร็วขึ้น
RHEL 10.1 ยังตอกย้ำบทบาทของ Linux ในฐานะแพลตฟอร์ม AI ระดับองค์กร ด้วยการเปิดให้ใช้งานไดรเวอร์ AI accelerator ที่ผ่านการรับรองจากผู้ผลิตโดยตรงผ่าน Red Hat ช่วยลดความซับซ้อนและความเสี่ยงในการติดตั้ง
แนวทางนี้ช่วยให้องค์กรสามารถนำ GPU, NPU และ accelerator อื่น ๆ มาใช้งานกับเวิร์กโหลด AI/ML ได้เร็วขึ้น ลดคอขวดด้านการอัปเดตไดรเวอร์ และเพิ่มความเชื่อมั่นด้านเสถียรภาพในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริง
ที่สุดแล้ว การเปิดตัว RHEL 10.1 สะท้อนชัดว่า Linux ไม่ได้เป็นเพียงระบบปฏิบัติการเบื้องหลังอีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของยุทธศาสตร์ AI ในโลกองค์กร ที่ต้องการทั้งความเร็ว ความมั่นคง และความยืดหยุ่นในระยะยาว.
