กูเกิล เผยรายงานเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ร่วมกับ Temasek และ Bain & Company ในการสำรวจข้อมูล พบไทยยังใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน โดยคาดการณ์ว่ามูลค่าสินค้ารวม (GMV) จะสูงถึง 5.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.8 ล้านล้านบาท จากปัจจัยขับเคลื่อนหลักคืออีคอมเมิร์ซ และการท่องเที่ยวออนไลน์
ราฟาเอล ซิสโลว์สกี ผู้จัดการประจำประเทศไทย กูเกิล ประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล มีร่วมกันทั้งเสถียรภาพของเศรษฐกิจมหภาคที่ดีขึ้น การเข้ามาของ AI กลายเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนการเติบโต จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รวมถึงดาต้าเซ็นเตอร์ ที่กูเกิล ประกาศการลงทุน 1 พันล้านเหรียญ ที่คาดว่าจะเพิ่มโอกาสในการใช้งานถึง 3 เท่า รวมถึงการเติบโตของ วิดีโอ คอมเมิร์ซ อย่างก้าวกระโดด
“อีคอมเมิร์ซ นับเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจดิจิทัลไทย มีการเติบโตเร็วถึง 22% ที่คาดว่าจะแตะ 3.3 หมื่นล้านเหรียญในปีนี้ โดยมาจากวิดีโอคอมเมิร์ซที่กำลังเฟื่องฟู โดยพบว่ามีผู้ขายสินค้าผ่านวิดีโอมากถึง 850,000 ราย ซึ่งพุ่งสูงขึ้นถึง 175% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา กลายเป็นตลาดที่ใหญ่ และเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาค”
ไทยเป็นตลาดวิดีโอคอมเมิร์ซที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในภูมิภาคฯ ด้วยปริมาณธุรกรรมที่สูงถึง 1.3 พันล้านครั้ง กลุ่มสินค้าที่ได้รับการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคสูง เช่น สินค้าแฟชั่นและเครื่องประดับ ซึ่งมีสัดส่วนคิดเป็น 21% ของมูลค่าสินค้ารวมของวิดีโอคอมเมิร์ซ
สำหรับภาพรวมของมูลค่าสินค้ารวมจากเศรษฐกิจคาดว่าจะอยู่ที่ 5.6 หมื่นล้านเหรียญ หรือราว 1.8 ล้านล้านบาท ซึ่งมาจากอีคอมเมิร์ซ 3.3 หมื่นล้านเหรียญ และท่องเที่ยว 1.1 หมื่นล้านเหรียญ เติบโตขึ้น 6% ยังมีบริการทางด้านการเงินดิจิทัล และธุรกิจสื่อออนไลน์ที่เติบโต 8% จากความนิยมของ T-Pop และอีสปอร์ต
เหตุผลหนึ่งที่ธุรกิจท่องเที่ยว ยังสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจดิจิทัลสูงอยู่มาจากการที่พฤติกรรมการท่องเที่ยวของผู้คนในอาเซียน มีการปรับลดวันในการเดินทางลง ทำให้เลือกการท่องเที่ยวในระยะสั้นมากขึ้น โดยประเทศไทย ยังเป็นหมุดหมายอันดับ 3 ของการท่องเที่ยวในภูมิภาคอาเซียน ตามจากญี่ปุ่น และมาเลเซีย
ประกอบกับการสนับสนุนของภาครัฐในการขยายกลุ่มนักท่องเที่ยว อย่างเช่นอินเดีย ตะวันออกกลาง เช่นเดียวกับการใช้จ่ายต่อหัวที่เพิ่มขึ้นของนักท่องเทีย่ว ที่เข้ามาชดเชยรายได้จากปริมาณของนักท่องเที่ยวที่ขาดหายไป
ในส่วนของบริการการขนส่งและบริการส่งอาหารออนไลน์ ที่เติบโตขึ้น 15% มีการทำแคมเปญที่ต่อเนื่องทั้งการสร้างโมเดลธุรกิจที่ยั่งยืนมากขึ้น การนำเสนอแพ็กเกจสมาชิก บัตรกำนัลรับประทานอาหารในร้าน ประกอบกับจำนวนผู้แข่งขันในตลาดนที่ลดลง ทำให้รายที่เหลือปรับตัวสู่การสร้างผลกำไรมากขึ้นด้วย ซึ่งสร้างรายได้ให้เศรษฐกิจดิจิทัลราว 5 พันล้านเหรียญ
***เครื่องมือ AI ผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล
สิ่งที่น่าติดตามหลังจากนี้ คือการนำ AI เข้ามาช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจดิจิทัล เติบโตขึ้นไปอีก จากประสบการณ์ใหม่ของผู้บริโภค การที่ธุรกิจปรับตัวนำ AI มาใช้เพื่อให้อยู่รอดทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพ และความคิดสร้างสรรในการใช้งาน ปิดท้ายที่การสนับสนุนอีโคซิสเตมส์ให้เหมาะสม
ผู้ใช้งาน AI ในประเทศไทย ถือว่าสูงที่สุดในภูมิภาคอาเซียน ในปีที่ผ่านมาการสมัครใช้งานบริการ หรือแอปฯ ที่เกี่ยวเนื่องกับ AI เพิ่มสูงขึ้นถึง 79% โดยกว่า 76% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ข้อมูลว่ามีการใช้งานเครื่องมือ AI ทุกวัน 56% มีการถามคำถามกับ AI Chatbots โดย 40% คาดหวังว่า AI จะตัดสินใจได้เร็วขึ้น
นอกจากนี้ AI ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูล หรือเลือกสินค้าออนไลน์ได้สะดวกขึ้น กว่า 77% มองว่าเครื่องมืออย่าง Chatbots เครื่องมือแปลภาษา และการค้นหาด้วยรูปภาพ ทำให้การค้นหาข้อมูลต่างๆ ทำได้สะดวกขึ้น


