เมื่อพูดถึงเทศกาลช็อปปิ้งออนไลน์อย่าง 11.11, Black Friday, Cyber Monday หรืองานลดราคาปลายปี หลายคนคงเคยพลาดโอกาสซื้อของที่ต้องการ เพราะไม่กี่เสี้ยววินาทีที่คลิกเข้าไปของชิ้นที่เล็งไว้ก็หมดซะแล้ว
ปลายปีนับเป็นช่วงเวลาแห่งการให้ หลายคนมอบของขวัญแด่คนที่เคารพรักหรือให้รางวัลตัวเอง เมื่อจะช็อปปิ้งออนไลน์ทั้งที ก็ต้องเตรียมความพร้อมกันหน่อย อาจเริ่มตั้งแต่กดโค้ดส่วนลดไว้ กดสินค้าใส่ตะกร้าเตรียมชำระเงิน แต่คุณอาจไม่รู้เลยว่ากำลังก้าวเข้าสู่สนามแข่งที่มนุษย์ธรรมดาแทบไม่มีวันชนะ เพราะคู่แข่งของคุณไม่ใช่มนุษย์ ซึ่งต้องยอมรับว่าในตลาดออนไลน์ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่เรื่องของราคา แต่คือความเร็ว “Buyer Bots” จึงถูกสร้างขึ้นเพื่อมาแย่งชิงคูปองหรือกดสั่งซื้อสินค้าภายในเสี้ยววินาที แบบที่มนุษย์ยังไม่ทันกระพริบตาเลยด้วยซ้ำ สุดท้ายมนุษย์อย่างเราก็พลาดสินค้าที่เล็งไว้ และอาจต้องจ่ายแพงกว่าเดิมเพราะกดไม่ทันบอต
โดยรายงานปี 2024 ของ Radware ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ระบุว่า ยอดการเข้าใช้งานบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ มากกว่า 57% มาจากบอต และมีเพียง 43% เท่านั้นที่มาจากผู้ใช้จริง หรือหมายความว่าในทุกๆ การเข้าชม 100 ครั้ง บอตจะได้เริ่มก่อนถึง 57 ครั้ง นี่จึงเป็นคำอธิบายได้ว่าทำไมคุณถึงไม่เคยกดซื้อรองเท้าผ้าใบรุ่นลิมิเต็ดหรือเครื่องเล่นเกมรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดขายได้เลย ในขณะเดียวกันตลาดอีคอมเมิร์ซของประเทศไทยยังคงเติบโตต่อเนื่องและคาดว่าจะทะลุ 2 ล้านล้านบาท ภายในปี 2573 แต่การเติบโตที่ว่าก็อาจจะมาพร้อมต้นทุนที่ต้องจ่าย เพราะบอตกำลังเขียนกติกาใหม่อย่างเงียบๆ อย่างการสร้างความต้องการปลอม ปั่นราคาสินค้า และสร้างแรงกดดันให้ผู้ซื้อรู้สึกว่าต้องรีบคว้าไว้ก่อนจะสาย สำหรับผู้ซื้อจริง ๆ นั่นหมายความว่า โอกาสได้ของดีมีน้อยลง ข้อเสนอที่เห็นก็เริ่มไม่โปร่งใสเหมือนเดิม และความรู้สึกที่ว่า “โลกช้อปปิ้งออนไลน์มันไม่แฟร์อีกต่อไป” ก็ค่อยๆ ชัดขึ้นทุกวัน
แม้แต่ฝั่งคนขายเองก็ไม่ได้พักหายใจ เพราะ ‘Buyer Bots’ มีกลยุทธ์ลวงแบบใหม่ ส่งออเดอร์ปลอมจำนวนมากเพื่อสร้างความนิยมบนพื้นที่ของโลก Live-commerce ณ ปัจจุบัน ในประเทศไทยก็เริ่มเห็นชัดจากกรณีดาราและอินฟลูเอนเซอร์ที่ไลฟ์ขายของบนโซเชียลมียอดสั่งซื้อพุ่งแตะหลักล้านในระหว่างไลฟ์ แต่พอจบการถ่ายทอดตัวเลขเหล่านั้นกลับหายวับไปพร้อมกับคำสั่งออเดอร์ ‘ปลอม’ ที่ไม่มีอยู่จริง ทิ้งไว้เพียงสต๊อกที่รวน ยอดขายที่บิดเบือน และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ที่เสียไป บางร้านต้องเจอเคสที่เอาช่องโหว่นโยบายคืนของมาเล่น หรือไม่ก็โดนถล่มด้วยรีวิวปลอมจนเสียหาย ส่งผลกระทบทั้งด้านต้นทุน ความเชื่อใจที่ลดลง หรือความวุ่นวายอีกหลายอย่าง
เมื่อการแข่งกับบอตแทบเป็นไปไม่ได้ การแยกให้ออกว่าใครคือ “มนุษย์จริง” จึงไม่ใช่แค่ทางเลือกอีกต่อไปแต่คือสิ่งจำเป็น เทคโนโลยี “Proof of Human” จึงถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยขีดเส้นแบ่งที่ชัดเจนระหว่างคนกับ Bot สร้างเป็นพื้นที่ปลอดบอตในโลกออนไลน์ ที่มีเพียงมนุษย์เท่านั้นที่สามารถรับข้อเสนอและทำธุรกรรมได้จริง
“Proof of Human” ได้รับการยอมรับและนำไปใช้อย่างแพร่หลายทั่วโลก ด้วยเป็นเครื่องมือที่ช่วยยืนยันว่าผู้ใช้งานเป็น “มนุษย์จริง” อีกทั้งไม่จัดเก็บข้อมูลส่วนตัวหรือเปิดเผยตัวบุคคลที่ใช้งาน ฉะนั้นเมื่อเชื่อมต่อระบบกับบัญชีบนแพลตฟอร์มแล้วจึงทำให้ผู้ใช้งานมีโอกาสที่เท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนลด สินค้า หรือบริการ พร้อมความสบายใจว่าจะไม่มีบอตตัวไหนมากดแย่งสินค้า หรือบริการอย่างอยุติธรรมได้อีก
ภารกิจของ “Proof of Human” ไม่ได้หยุดอยู่แค่ในโลกการช็อปปิ้งออนไลน์ ล่าสุด World ID ได้ประกาศความร่วมมือกับ Radiant แพลตฟอร์มเกมยุคใหม่ เพื่อขยายแนวคิดสู่การสร้างสังคมออนไลน์ที่ปลอดภัย ยุติธรรมและจริงมากขึ้น ภายใต้แคมเปญ “Verified Human Lootbox” ที่เปิดโอกาสให้ผู้เล่นที่เชื่อมต่อ World ID ปลดล็อกของรางวัลและไอเท็มสุดพิเศษ พร้อมความมั่นใจว่าทุกคนที่ร่วมเล่นล้วนเป็นมนุษย์จริงไม่ใช่บัญชีบอต
ไม่ว่าจะอยู่ในตะกร้าช้อปปิ้งหรือในสนามเกม สิ่งที่ชัดเจนคือ การเป็นมนุษย์จริงกำลังกลายเป็นข้อได้เปรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา “Proof of Humanity” ไม่ได้เป็นแค่ทางเลือก แต่มันคือพลังของความเป็นมนุษย์ เครื่องยืนยันที่ปกป้องสิ่งจริงแท้ในโลกที่กำลังถูกขับเคลื่อนด้วยบอต
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ: ปลดล็อกอนาคตแห่งการเล่นเกมอย่างยุติธรรม – แคมเปญ Radiant x World Verified Lootbox


