'ดีอี' ล่าตัวคนเอี่ยวแก๊งสแกมเมอร์ สั่งยุบชุดปฏิบัติการหลังพบทุจริต-ปลอมเอกสารเรียกเงิน ส่งคดี แจ้งความผู้แอบอ้าง ปิดกั้นเว็บพนันเชิงรุก ปิดแล้วกว่า 40,000 URLs ขยายความร่วมมือ กสทช.-ตร.-ป่าไม้ ตรวจเสาสัญญาณชายแดน สอบสวนเชิงลึก
เมื่อวันที่ 12 พ.ย.68 น.ส.สุชาดา ซาง แทนทรัพย์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) และโฆษกกระทรวงดีอี เปิดเผยว่า นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้ให้ความสำคัญ เอาจริงเอาจังกับเรื่องการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ที่รัฐบาลได้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ และได้สั่งการอย่างเด็ดขาด หากพบบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต เรียกรับเงิน หรือกระทำความผิดร่วมกับสแกมเมอร์ เว็บพนันออนไลน์ ให้ดำเนินการเอาผิดอย่างถึงที่สุด ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นใครก็ตาม
ทั้งนี้ ตามที่กระทรวงดีอี ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้เสียหายหลายรายว่ามีบุคคลซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นทีมปฏิบัติการพิเศษกระทรวงดีอี ใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบนั้น จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าวได้พ้นจากตำแหน่งเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ ไปตั้งแต่วันที่ 2 เม.ย.68
พร้อมกันนี้ นายไชยชนก ได้มีคำสั่งยกเลิก และระงับการปฏิบัติการของชุดปฏิบัติการทั้งหมดในช่วงต้นเดือน ต.ค.68 ขณะเดียวกันได้สั่งการให้จัดตั้งคณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีบุคคลจำนวน 2 ราย กระทำการทุจริต โดยรายแรกเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งได้ดำเนินการส่งเรื่องให้กับหน่วยงานต้นสังกัดแล้ว
ในส่วนรายที่ 2 เป็นประชาชนทั่วไป แต่ได้กล่าวอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ กระทรวงดีอีได้แจ้งความให้ดำเนินคดีแล้ว เนื่องจากมีการปลอมแปลงเอกสารทางราชการ (หมายเรียกตัว) โดยขอย้ำว่า กระทรวงดีอีไม่มีการจัดทำเอกสารที่มีการแอบอ้างถึงแต่อย่างใด โดยเอกสารหมายเรียกโดยปกติจะต้องออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งเป็นผู้บังคับใช้กฎหมายเท่านั้น
นอกจากนี้ คณะกรรมการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กำลังดำเนินการตรวจสอบในเชิงลึก ทั้งในเรื่องบุคคลที่มีส่วนทุจริต และบุคคลที่ใช้คำสั่งกระทรวงฯ ไปในทางที่ผิด
ในส่วนของการดำเนินการขอคำสั่งศาลเพื่อปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 1-31 ต.ค.68 มีการดำเนินการปิดกั้น โซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ที่เกี่ยวข้องกับพนันออนไลน์จำนวนรวม 22,416 URL ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 3-5 พ.ย.68 ระยะเวลา 3 วัน ปิดกั้น URLs ได้เพิ่มขึ้นอีก 15,978 URLs รวมดำเนินการปิดกั้นไปแล้ว 38,394 URLs ซึ่งกระทรวงดีอีจะเร่งรัดดำเนินการปิดกั้นอย่างต่อเนื่อง
ด้านการดำเนินการปิดกั้นสัญญาณโทรศัพท์มือถือ-อินเทอร์เน็ต ในแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้านนั้น กระทรวงดีอี ได้บูรณาการทำงานร่วมกับ กสทช. ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) และ ตร. ดำเนินการจัดการอย่างต่อเนื่อง โดยในส่วนของเสาสัญญาณที่ผิดกฎหมายในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ตามแนวชายแดน ซึ่งได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจาก นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กระทรวงฯ จะเร่งรัดดำเนินการร่วมกับ กสทช. ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ฯลฯ บูรณาการข้อมูลเพื่อตรวจสอบต่อไป


