xs
xsm
sm
md
lg

'ดีป้า' ปักหมุดวังจันทร์-สามย่าน แชมป์เมืองอัจฉริยะปี 67

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



'ดีป้า' เผย วังจันทร์-สามย่าน-ฉะเชิงเทรา ติดท็อปเมืองอัจฉริยะปี 2567 ดันดัชนีแข่งขัน-ความพร้อม ขับเคลื่อนเมืองทันสมัยด้วยดิจิทัล แก้ปัญหาด้วยข้อมูลจริง สร้างโอกาสเศรษฐกิจใหม่ทั่วไทย

เมื่อวันที่ 23 ก.ย.68 ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ดีป้า โดยสำนักงานเมืองอัจฉริยะประเทศไทย มีภารกิจหลักในการจัดทำแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการ ตลอดจนขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะให้สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ ยังได้จัดทำดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันของเมืองอัจฉริยะประเทศไทย (Thailand Smart City Competitiveness Index: TSCCI) และดัชนีประเมินความพร้อมของเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ (Smart City Promotional Zone Readiness Index: SCPRI) เพื่อใช้เป็นเครื่องมือวัดระดับการพัฒนาของเมือง พร้อมทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้บริหารเมืองและประชาชนทั่วไปตระหนักรู้ถึงจุดแข็งและจุดอ่อนของเมืองอัจฉริยะ อันจะนำไปสู่การแข่งขันในเชิงบวกระหว่างเมือง

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า การรายงานดัชนีทั้งสองฉบับในปี 2567 ครอบคลุมเมืองอัจฉริยะ 22 แห่งใน 36 จังหวัด และพื้นที่เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ 74 แห่งทั่วประเทศ โดยพิจารณาจากองค์ประกอบหลัก 5 ด้าน ได้แก่ การกำหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมาย และลักษณะของเมืองอัจฉริยะ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งกายภาพและดิจิทัล การพัฒนาระบบข้อมูลและความปลอดภัย การให้บริการเมืองอัจฉริยะใน 7 ด้าน และการระบุแนวทางการลงทุนและบริหารจัดการอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ การจัดทำดัชนีดังกล่าวแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ การจัดอันดับเมืองตามความสามารถในการแข่งขัน และการประเมินความพร้อมของพื้นที่ส่งเสริมเมืองอัจฉริยะ โดยเปิดโอกาสให้เมืองต่างๆ นำเสนอแผนการพัฒนาและแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความสำเร็จ ทั้งในเชิงภาพลักษณ์ท้องถิ่นและการยอมรับในระดับสากล


ผลการประเมินพบว่า เมืองอัจฉริยะที่ได้รับคะแนนสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ เมืองวังจันทร์วัลเลย์ จังหวัดระยอง ที่ทำคะแนนได้ถึง 84.85% สามย่านสมาร์ทซิตี้ กรุงเทพมหานคร ได้ 78.22% และเมืองฉะเชิงเทรา เมืองน่าอยู่ น่าเที่ยว น่าลงทุน จังหวัดฉะเชิงเทรา ได้ 77.45% ขณะที่เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะที่มีความพร้อมสูงสุดคือ เทศบาลตำบลอุโมงค์ จังหวัดลำพูน ได้คะแนน 71.44% และปทุมธานีเมืองอัจฉริยะ จังหวัดปทุมธานี ได้ 70.20% อย่างไรก็ตาม ผลการจัดอันดับทั้งหมดอ้างอิงจากการประเมินตนเองและข้อมูลรายงานผลจากผู้พัฒนาเมืองแต่ละพื้นที่

ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าวว่า รายงานนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือจัดอันดับเท่านั้น แต่ยังเป็นระบบติดตามและประเมินผลเชิงนโยบาย เพื่อใช้ปรับปรุงแนวทางดำเนินงานของเมืองอัจฉริยะให้มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ยังส่งเสริมความร่วมมือแบบข้ามภาคส่วนระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนเมืองให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด และพัฒนาอย่างมีทิศทาง

แนวทางการขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะถือเป็นฟันเฟืองสำคัญของ Mega Program ในการพลิกโฉมประเทศ โดยเน้นการขยายขอบเขตของเมืองอัจฉริยะให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ขณะเดียวกันต้องให้ความสำคัญกับ City Data Platform เพื่อจัดการข้อมูลเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการวิเคราะห์ปัญหา การออกแบบบริการที่ตอบโจทย์ประชาชน ไปจนถึงการเพิ่มศักยภาพในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนในทุกมิติ

"ระบบเมืองอัจฉริยะไม่เพียงแค่ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกสำคัญในการจุดประกายโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะผลักดันให้ประเทศเติบโตได้อย่างมั่นคงในอนาคต" ผศ.ดร.ณัฐพล กล่าว


ทั้งนี้ ดีป้า มุ่งพัฒนาและขับเคลื่อนดัชนีชี้วัดความสามารถในการแข่งขันเมืองอัจฉริยะประเทศไทย และดัชนีประเมินความพร้อมเขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศ ผู้ที่สนใจสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.smartcitythailand.or.th หรือ https://www.depa.or.th/th/smart-city-plan/Smart-City-Index


กำลังโหลดความคิดเห็น