แอปเปิล (Apple) เปิดตัว Apple Watch ใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ Apple Watch Ultra 3, Apple Watch 11 และ Apple Watch SE 3 ที่ผสมผสานการทำงานระหว่าง watchOS 26 ร่วมกับ Apple Intelligence และฟีเจอร์ติดตามสุขภาพอย่างการให้คะแนนการนอนหลับให้เข้าใจง่ายขึ้น เพิ่มความสามารถในการวัดความดันโลหิต และแบตเตอรีที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
Apple Watch Ultra 3 จอใหญ่ขึ้น ใช้ยาว 42 ชั่วโมง
สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานระดับโปรและสายผจญภัย Apple Watch Ultra 3 กลับมาอัปเกรดหน้าจอที่ใหญ่ และสว่างที่สุดเท่าที่เคยมีบน Apple Watch เสริมด้วยเทคโนโลยี LTPO3 ที่ช่วยประหยัดพลังงาน หนึ่งในการอัปเกรดที่โดดเด่นที่สุดคืออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานขึ้นอย่างก้าวกระโดด สามารถใช้งานได้สูงสุด 42 ชั่วโมงในโหมดปกติ และขยายไปถึง 72 ชั่วโมงในโหมดประหยัดพลังงาน
นอกจากนี้ยังเป็นครั้งแรกที่ Apple Watch Ultra รองรับการเชื่อมต่อ 5G รวมถึงการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ทำให้สามารถส่งข้อความฉุกเฉินเพื่อขอความช่วยเหลือได้ ตัวเรือนมีให้เลือกในสีไทเทเนียมธรรมชาติ และไทเทเนียมดำ โดยยังคงความแข็งแกร่งทั้งทนน้ำ ทนฝุ่น สามารถใส่ว่ายน้ำได้ลึกถึง 100 เมตร
Apple Watch Series 11 วัดความดันโลหิตได้
ขณะที่รุ่น Ultra ตอบโจทย์ผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่ม Apple Watch Series 11 ก็ได้รับการปรับปรุงให้เหมาะกับทุกคน โดยยังคงดีไซน์ที่บางและสวมใส่สบาย แต่มาพร้อมความแข็งแกร่งที่มากกว่าเดิม ไฮไลท์สำคัญคือฟีเจอร์ใหม่ "คะแนนการนอนหลับ" (Sleep Score) ที่ช่วยให้ผู้ใช้เข้าใจคุณภาพการนอนหลับของตนเองได้อย่างลึกซึ้ง โดยจะวิเคราะห์ปัจจัยต่างๆ แล้วสรุปออกมาเป็นคะแนนที่เข้าใจง่าย เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงสุขภาพการนอนที่ดีขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีการนำข้อมูลจากเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ และการวัดค่าออกซิเจนในเลือด มาใช้ในการวิเคราะห์ถึงความดันโลหิต ที่ถ้าใส่ใช้งานเกิน 30 วัน แล้วนาฬิกาตรวจพบความดันโลหิตที่ผิดปกติ จะมีการแจ้งเตือนผู้ใช้งานทันที
ในด้านความทนทาน Watch 11 มากับกระจก Ion-X ในรุ่นอะลูมิเนียมได้รับการเคลือบผิวเซรามิกแบบใหม่ ทำให้ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้ดีขึ้นถึง 2 เท่า แบตเตอรี่ถูกยกระดับให้ใช้งานได้ยาวนานสูงสุด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถสวมใส่ข้ามวันเพื่อติดตามการนอนได้อย่างไร้กังวล และเช่นเดียวกับรุ่น Ultra, Series 11 ก็ได้รับการอัปเกรดให้รองรับ 5G
ทั้ง Watch Ultra 3 และ Watch 11 ยังมาพร้อมกับ "Workout Buddy" ฟีเจอร์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วย Apple Intelligence บน watchOS 26 ทำหน้าที่เสมือนโค้ชส่วนตัว คอยให้เสียงแนะนำและสร้างแรงบันดาลใจแบบเรียลไทม์ระหว่างออกกำลังกาย โดยวิเคราะห์จากข้อมูลสุขภาพของผู้ใช้แต่ละคนโดยเฉพาะ
Apple Watch SE 3 เพิ่มฟีเจอร์รุ่นใหญ่ในราคาที่เข้าถึงง่าย
ปิดท้ายด้วย Apple Watch SE 3 นำฟีเจอร์ระดับสูงมาใส่ไว้ในรุ่นที่เข้าถึงง่ายที่สุด หัวใจหลักคือชิปประมวลผล S10 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นขุมพลังให้ Apple Watch SE 3 สามารถมีจอภาพแบบติดตลอด (Always-On Display) ได้เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จเร็ว ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ 80% ภายใน 45 นาทีเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังเพิ่มความสามารถในการตรวจจับการชน และการล้ม ที่แต่เดิมอยู่เฉพาะใน Apple Watch รุ่นปกติ มาให้ใช้งานกันได้ในรุ่น SE แล้วด้วย ดังนั้น Watch SE 3 ในปีนี้ จึงนับเป็นสมาร์ทอวอทช์รุ่นเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพราะได้ความสามารถใกล้เคียงกับรุ่นใหญ่เลย
Apple ประกาศราคาเริ่มต้นสำหรับ Apple Watch ทั้ง 3 รุ่นในประเทศไทยไว้ว่า Apple Watch SE 3 เริ่มต้นที่ 8,500 บาท, Apple Watch Series 11 เริ่มต้นที่ 14,900 บาท และ Apple Watch Ultra 3 เริ่มต้นที่ 29,900 บาท โดยจะเริ่มเปิดให้สั่งซื้อล่วงหน้าได้ในเร็วๆ นี้