เอ.อาร์ชู "ไอ-เอ็นเตอร์เทนเมนท์" (i-entertainment) จุดกระแส "คอมมาร์ต เอ็กซ์เจนฯ 2007" ยิ่งใหญ่ โดยในปีนี้มีจุดเด่นอยู่ที่ผลิตภัณฑ์พีเอ็มพี (Personal Media Player) ซึ่งมีฟังก์ชันการใช้งานสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป คาดยอดขายเครื่องเล่นชนิดดังกล่าวทะลุ 100,000 เครื่องในปีนี้อย่างแน่นอน พร้อมดึงอุปกรณ์ Gadget สายพันธุ์ใหม่จากต่างแดนสร้างสีสันให้กับงาน โดยจัดแสดงในโซน USB Megic Port World ด้วย
นายปฐม อินทรโรดม ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอ.อาร์. อินฟอร์เมชัน แอนด์ พับลิเคชัน จำกัด เปิดเผยว่า "ในปีนี้ เราเน้นที่ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพีเอ็มพีเป็นหลัก เนื่องจากเราพบว่าผู้บริโภคยุคใหม่ต้องการความบันเทิงในรูปแบบที่เปลี่ยนไป นอกจากนั้นทางเอ.อาร์. ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง และพบว่ากำลังเข้าสู่กระแสของ ไอ-เอ็นเตอร์เทนเมนท์ หรือความบันเทิงส่วนบุคคลมากขึ้น ซึ่งไอ-เอ็นเตอร์เทนเมนท์ประกอบด้วย Individual, Image, Internet, Innovation และ Interactive"
Individual หรือ i ตัวแรกจะเน้นที่ความเป็นส่วนตัว การใช้งานเฉพาะบุคคล จะเห็นได้ว่าผู้ใช้เครื่องเล่นพีเอ็มพีจะนิยมฟังเพลงที่ตนชอบ และไม่แชร์การฟังเพลงร่วมกับคนอื่นอีกต่อไป ต่อมาคือ Image ที่เน้นเรื่องภาพลักษณ์ของสินค้าที่สะท้อนถึงบุคลิกของผู้ใช้ ซึ่งในช่วงกลางปีนี้เป็นต้นไปเราจะเริ่มเห็นการร่วมมือระหว่างผู้ผลิตสินค้าไอทีกับแบรนด์แฟชั่นต่าง ๆ มากขึ้น เหมือนเช่นความร่วมมือระหว่างแอลจีกับพราด้า เป็นต้น i ตัวที่สามเป็นเรื่องของ Internet อุปกรณ์ไอทียุคใหม่จะเน้นสามารถในการเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้ Innovation เป็นเรื่องของการสร้างนวัตกรรมให้กับตัวผลิตภัณฑ์ และสุดท้ายกับ Interactive ที่เน้นพัฒนาอุปกรณ์ไอทีให้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นได้
จากกระแสที่เกิดขึ้นดังกล่าว จึงเชื่อว่าจะส่งผลให้ตลาดสินค้ากลุ่มพีเอ็มพีมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางผู้จัดงานได้ตั้งเป้ายอดขายของผลิตภัณฑ์พีเอ็มพีในงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจนฯ เอาไว้ที่ 100,000 เครื่อง โดยเฉพาะเครื่องเล่นพีเอ็มพีสัญชาติจีนแบรนด์ใหม่ ๆ
"สำหรับผู้ที่ต้องการคำปรึกษาในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทางเอ.อาร์.ก็จัดให้มีมุม Buyer Guide Corner เพื่อให้คำปรึกษาโดยทีมงานบรรณาธิการของนิตยสารคอมมาร์ตด้วย"
สำหรับบรรยากาศของการเปิดตัวงานคอมมาร์ต เอ็กซ์เจนในวันแรกพบว่ามีผู้เข้าร่วมงานค่อนข้างหนาตา โดยบางส่วนเป็นกลุ่มนักเรียนนักศึกษามารอที่หน้างานค่อนข้างมาก นอกเหนือจากโซนการจัดงานใหญ่ในห้องเพลนนารีฮอลล์แล้ว ยังมีการจัดแสดง Wi-Fi Entertainment@home สำหรับจัดแสดงการเชื่อมต่อแบบไร้สายเข้ากับการใช้งานภายในบ้านด้วย ซึ่งได้รับความสนใจมากพอสมควร
"ครั้งวันแรกคนมาร่วมงานประมาณ 1 แสนคน เชื่อว่าหลังเลิกงานวันนี้จะมีกลุ่มวัยทำงานสนใจเข้าร่วมงานมากมาย คาดว่าวันแรกทั้งวันน่าจะถึงหลัก 2 แสน"
นอกจากนั้น ทางผู้จัดงานยังได้มีโปรโมชันพิเศษสำหรับผู้ซื้อสินค้าภายในงานตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป สามารถร่วมชิงโชคลุ้นรับรถยนต์เชฟโรเลต อาวีโอ 1 คัน และรับคูปองเพื่อใช้สิทธิ์ประมูลรถยนต์โตโยต้ายาริส ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท จำนวน 1 คันด้วย และสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิกบัตรเคทีซีจะได้รับสิทธิ์ร่วมประมูลรถเพิ่มอีก 1 ใบทันที
ด้านนายถกล นิยมไทย ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยีประจำประเทศไทย บริษัท โตชิบา (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงเป้าหมายของทางโตชิบาในงานคอมมาร์ตครั้งนี้ว่า "เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 5,000 เครื่อง ซึ่งอาจจะลดลงจากช่วงคอมมาร์ต ไทยแลนด์ในช่วงต้นปีนิดหน่อย ซึ่งในส่วนของงานกลางปีนี้ เราจะเน้นที่การเปิดตัวไลน์สินค้าใหม่มากกว่า โดยในส่วนของคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กนั้น เราพบว่าตลาดมีความต้องการในเรื่องของซีเคียวริตี้เพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ในส่วนของฟังก์ชันการทำงาน เช่น กล้องดิจิตอลก็จะมีติดตั้งลงในโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่มากขึ้น"
"สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดถึงความเปลี่ยนแปลงคือเรื่องการดีไซน์ โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่จะมีขนาดเล็กลง มีสีสันให้เลือกมากขึ้น น้ำหนักเบา และรองรับการเชื่อมต่อไร้สายได้หลายเทคโนโลยี"
จากการเปิดเผยของผู้จัดงานระบุว่า ในช่วงครึ่งวันแรกของการเปิดงานมีประชาชนเข้าร่วมแล้วประมาณหนึ่งแสนราย และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นในช่วงเย็น เนื่องจากมีประชาชนบางส่วนรอจังหวะเลิกงานแล้วจึงเดินทางมา
Company Related Links :
Commart Thailand
