นายใหญ่โตชิบาเผยเอเชียแปซิฟิกเป็นตลาดที่โน้ตบุ๊กขยายตัวมากที่สุด พร้อมชี้ในอนาคตอันใกล้โน้ตบุ๊กเข้าแทนที่เครื่องเดสก์ทอป โตชิบาคาดปี 2010 ตลาดรวมโน้ตบุ๊กจะสูงถึง 1 ล้านเครื่อง โตชิบาประกาศขอรักษาแชมป์อันดับ 3 ที่ใกล้เคียงที่ 2 ให้มากที่สุดด้วย 4 กลยุทธ์หลัก
ฮิเดโนริ มัสสุอิ ประธาน บริษัท โตชิบาไทยแลนด์ กล่าวว่า คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กกลายเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้นถึงกับมีการคาดการกันว่าในอนาคตอันใกล้โน้ตบุ๊กจะเข้ามาแทนที่เครื่องเดสก์ทอปมากขึ้น และในที่สุดก็จะเข้ามาแทนที่เครื่องเดสก์ทอปในตลาดไม่ว่าจะเป็นการใช้งานในออฟฟิศหรือโฮมยูส ซึ่งที่ผ่านมาตลาดโน้ตบุ๊กมีการขายตัวมากขึ้นทุกปี มียอดการเติบโตในระดับ 30-35% แทบทุกปี นอกจากการใช้งานในแง่ธุรกิจแล้วยังนิยมใช้โน้ตบุ๊กเพื่อมาเล่นเกมกันมากขึ้น โดยเอเชียแปซิฟิกจะเป็นภูมิภาคที่มีการเติบโตของตลาดโน้ตบุ๊กมากที่สุดโดยมีสิงคโปร์มีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 55% มาเลเซียประมาณ 46% และไทยประมาณ 40%
“หากประเทศไทยไม่ประสบปัญหาที่เป็นอยู่ ไทยน่าจะมีการขยายตัวมากกว่านี้ และเราก็อาจชนะมาเลเซียในแง่การเติบโต ”
ฐิตกร อุษยากร OEM Director Microsoft กล่าวว่า นับจากวันที่เปิดตัว วินโดว์สวิสต้า ถึงปัจจุบันทำตลาดแล้วประมาณ 40 ล้านไลเซนส์ โดดคาดว่าประมาณไตรมาส 3-4 จะเห็นวิสต้าเข้าแทนที่ เอ็กซ์พีและหมดไปจากตลาด โดยโน้ตบุ๊กของโตชิบาจะใช้วินโดว์สวิสต้าทั้งหมดและเป็นครั้งแรกที่จะมีการใส่ ออฟฟิศ 2007 ไว้ภายใน
ถกล นิยมไทย ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจเทคโนโลยี ประจำประเทศไทย โตชิบา ไทยแลนด์ กล่าวว่า ตลาดรวมโน้ตบุ๊กทั่วโลกมีประมาณ 100 ล้านเครื่อง คาดว่าในปี 2010 ปริมาณโน้ตบุ๊กจะใกล้เคียงกับเดสก์ทอป ปัจจุบันโตชิบามียอดรวมทั่วโลกประมาณ 10 ล้านเครื่อง
ในส่วนของประเทศไทยจากตัวเลขไอดีซีตลาดรวมโน้ตบุ๊กประมาณ 5.4 แสนเครื่อง ตัวเลขประมาณการในปี 2007ที่ประมาณ 6.7 แสนเครื่อง และคาดว่าในปี 2010 ตลาดรวมโน้ตบุ๊กจะสูงถึง 1 ล้านเครื่องและจะเริ่มแซงหน้า เดสก์ทอป
ในส่วนโตชิบาในส่วนตลาดคอนซูเมอร์โตชิบามีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 3 และเป็นอันดับ 4 ในตลาดคอมเมอร์เชียล มองในภาพโดยรวมอยู่ในอันดับ 3
“เป้าหมายของโตชิบาในปีนี้คือการรักษาแชมป์อันดับ 3 ไว้ พร้อมทั้งลดช่องว่างจากที่ 2 ให้น้อยลง”
ผู้บริหารโตชิบากล่าวถึง กลยุทธ์การตลาด 4 ข้อในการรักษาการเป็นผู้นำอันดับ 3 ไว้ว่า 1.อินโนเวทีพโปรดักส์ ซึ่งเป็นเรื่องที่โตชิบาให้ความสำคัญตลอด 20 ปีมานี้ 2. ช่องทางการจัดจำหน่าย โดยจะมีการจัดโปรแกรมร่วมกับพาร์ตเนอร์เพื่อเป็นการส่งเสริมการขาย ให้พาร์ตเนอร์ดูคะแนนสะสมได้จากอีเมลเพื่อแลกของรางวัล พร้อมทั้งจะขยายช่องทางการจัดจำหน่ายโดยเฉพาะในต่างจังหวัดตามหัวเมืองใหญ่ จะเปิดชอปเพิ่มอีก 6 แห่งและขยายโตชิบาไอชอปเพิ่มเป็น 150 แห่งจากเดิมที่มีอยู่ 120 แห่งในปัจจุบัน
3.ให้ความสำคัญกับคุณภาพและความน่าเชื่อถือโดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับคู่ค้า เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีที่องค์กรธุรกิจต้องการมากที่สุด และ 4. กลยุทธ์ทางการตลาด เป็นการให้ความช่วยเหลือร้านค้าในแง่ส่งเสริมการงานมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดกำลังซื้อมากยิ่ง เพื่อมิให้ร้านค้าต้องถูกแย่งกำลังซื้อไปจากงานแสดงสินค้าที่จัดบ่อยขึ้นและดึงกำลังซื้อผู้บริโภคไปหมด
ถกล กล่าวว่า ปีนี้จะได้เห็นคอนเซ็ปต์ 3 เรื่องที่โตชิบาจะนำเสนอคือ ACTIVE, SOUND และ ICON ชูความเป็นโมบิลิตี้ บาง เบา สามารถนำไปใช้งานที่ไหนก็ได้ บวกกับคุณภาพเสียงสมจริง ตลอดจนการนำเสนอแพลตฟอร์มซึ่งเป็นเจเนเรชั่นใหม่ของโตชิบา
พร้อมกันนี้ โตชิบาเปิดตัวโน้ตบุ๊กใหม่ 4 ซีรี่ส์ เน้นความโดดเด่นในเรื่องรูปลักษณ์ บางและเบา 1.Satellite เน้นความหรูหราด้วยสีน้ำเงินวาวลายหินอ่อน มาพร้อมเว็บแคม ในซี่รี่ส์มีด้วยกัน 2 รุ่น คือ A200 และ M200
2. Qosmio G40 หน้าจอ 17 นิ้ว เป็นเครื่องแรกของโลกที่มีหลอดไฟ 2 หลอดช่วยให้ภาพมีความสว่าง คมชัดมากยิ่งขึ้น 3.TECRM M9 มีประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็วและเชื่อมต่อไร้สาย ซีรี่ส์สุดท้ายคือ Tablet PC Portege R400 เน้นสีขาว แวววาวทันสมัย ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามการใช้งานมีบานพับสำหรับหมุนค้างไว้ได้
Company Relate Link :
โตชิบา
