โมโตโรล่าส่งมือถือใหม่เจาะทุกกลุ่มผู้บริโภค

โมโตโรล่าเผยโฉมผลิตภันฑ์ใหม่เตรียมเจาะตลาดไทยช่วงปลายปี 2550 จำแนกสินค้าออกเป็น 3 กลุ่มพร้อมชูกลยุทธ์ลุยตลาดค้าปลีกจริงจัง

นาย ไมเคิล แทตเทิลแมน รองประธาน และ ประธานฝ่ายการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โมโตโรล่า อิงค์ กล่าวว่า ทางโมโตโรล่าได้แบ่งเทคโนโลยีของมือถือออกเป็นทั้งหมด 3 กลุ่มได้แก่ แฟชั่นโฟน, มิวสิคโฟน และ สมาร์ทโฟน ซึ่งจากการจัดแบ่งนี้ทำให้โมโตฯแบ่งผลิตภัณฑ์ออกเป็น 3 ชนิด คือ เรเซอร์2 ซึ่งเป็นเจเนอเรชั่นที่สองของโทรศัพท์ตระกูลเรเซอร์ ที่จะเจาะกลุ่มของแฟชั่นโฟน ด้วยเอกลักษณ์อยู่ที่ความบาง และผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงสูง ทั้งนี้ยังรองกับการทำงานได้ทั่วโลกไม่ว่าจะเป็นรุ่น V9 ที่รองรับ เครือข่าย 3G HSDPA หรือรุ่น V9m ที่รองรับ CDMA และรุ่น V8 ที่รองรับระบบ GSM โดยจะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกรกฎาคมปีนี้

ส่วนในกลุ่มของมิวสิคโฟนนั้นก็จะมีสินค้าในกลุ่ม ROKR รุ่น Z6 ที่เป็นสไลด์โฟน ที่นำเทคโนโลยี วินโดว์มีเดียมาใช้ในการฟังเพลง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็จะมีรุ่น E6 ซึ่งเป็นทัชสกรีน และ E2 ที่เป็นแบบสแตนดาร์ด และอีกรุ่นหนึ่งที่จะออกใหม่ก็คือ โมโต Z8 ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วย การใช้งานแบบคิกสไลด์ (Kick Slide) ที่จะเลื่อนลงมารับกับใบหน้าทำให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น รวมไปถึงสามารถใช้เชื่อมต่อข้อมูลบรอดแบนด์แบบไร้สาย

ผลิตภัณฑ์กลุ่มสุดท้ายก็คือกลุ่ม สมาร์ทโฟน อย่างโมโต Q ที่ทางประเทศไทยยังไม่ได้นำเข้ามา ซึ่งได้เปิดตัว เจเนอเรชั่นใหม่ออกมา 2 รุ่นคือ โมโต Q8 ที่รองรับระบบ GSM พัฒนามาจากโมโต Q ต้นตำรับที่ใช้ระบบ CDMA และ โมโต Q9 ที่รองรับคลื่นความถี่แบบ Quad-band และเทคโลโลยี 3G ที่สำคัญคือ โมโต Q นั้นใช้ระบบปฏิบัติการ วินโดว์โมบายล์ 6 ที่ประกอบด้วยเทคโนโลยีชั้นนำทั้งด้านเสียงที่คมชัด

“ในสหรัฐอเมริกา โมโต Q มียอดขายประมาณ 1 ล้านเครื่องภายใน 1 ปีที่ผ่านมา”

นาย เอียน เอฟ แชปแมน-แบงค์ส รองประธานฝ่ายการตลาดอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก โมโตโรล่า อิงค์ กล่าวว่า ในอนาคตโทรทัศน์อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้แล้วเพราะว่าในมือถืออย่างรุ่น Z6 ของเราก็สามารถที่จะใช้ดูโทรทัศน์ได้ เครื่องเล่นเอ็มพี 3 ที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบันนี้อย่างไอพอดก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้เพราะว่า ทางโมโตโรล่าก็ได้ออกผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม ร็อคเกอร์ ที่สามารถใช้งานได้ไม่ต่างกับเครื่องเล่นเอ็มพี 3 ส่วนแล็บท็อบ ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะว่าทางเราก็มีโทรศัพท์ที่รองรับการทำงานอย่าง โมโต Q หรือ รุ่น MING ที่ออกมาก่อนหน้านี้

นอกจากนี้นาย ไมเคิล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของกลยุทธ์การตลาดนั้นเราจะ เน้นไปที่การขยายช่องทางการขายแก่ผู้ค้าปลีกให้มีประสิทธิภาพ รวมไปถึงให้ผู้บริโภคสามารถที่จะทดลองใช้สินค้าเพื่อที่รับรู้ถึงคุณภาพของตัวสินค้า ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความแข็งแรงทนทาน หรือประสิทธิภาพของตัวสินค้า และยังรวมไปถึงการสร้างแบรนด์ให้ผู้บริโภคมีความเชื่อถือ นอกจากนี้การที่ทางโมโตโรล่าเข้าร่วมกับพันธมิตรการค้าต่าง ๆ ในแต่ละประเทศก็หวังที่จะสร้างกำไรให้แก่ผู้ร่วมธุรกิจด้วย

“ตลาดในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่เปิดกว้างและมีความต้องการหลากหลายในตัวสินค้า ซึ่งทางโมโตโรล่าเล็งเห็นถึงในจุดนี้จึงหวังที่จะทำตลาดในประเทศไทยให้ได้เพิ่มขึ้น”

นาย วิทการ จันทวิมล ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย และภูมิภาคอินโดจีน โมโตโรล่า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทางประเทศไทยได้ตอบรับกับต่างประเทศในการนำสินค้าเข้ามาจำหน่ายอย่างหลากหลายเพื่อที่จะให้ผู้บริโภคได้สัมผัสกับเทคโนโลยีที่ทางโมโตโรล่าได้คิดค้นขึ้น ส่วนในเรื่องของวันและเวลาจำหน่ายและราคาที่แน่นอนนั้นจะมีการเปิดเผยอีกทีในสินค้าแต่ละรุ่น

Company Related Links :
Motorola