ฮิตาชิเดินแผนลดต้นทุนการดำเนินกิจการ ด้วยการรวมศูนย์การผลิต ยึดไทยกับจีนเป็นศูนย์กลางการผลิตเพื่อส่งออกฮาร์ดไดร์ฟ หลังปิดโรงงานที่เม็กซิโก เชื่อประหยัดงบได้กว่า 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
นายนคร ตั้งสุจริตพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย ผู้ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล กล่าวว่า ฮิตาชิมีนโยบายรวมกำลังศูนย์การผลิตและพัฒนาฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลก เพื่อให้มีประมีสิทธิภาพมากขึ้นและประสบผลสำเร็จในธุรกิจฮาร์ดไดร์ฟ
จากนโยบายดังกล่าวฮิตาชิ จีเอสที ประเทศไทย รับภาระกิจใหม่ด้วยการผลิตฮาร์ดไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้ว สำหรับรถยนต์ เนื่องจากไทยมีสายพานการผลิตขนาด 2.5 นิ้วอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังเพิ่มการผลิต head-gimbal assembly (HGA) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบสำคัญของฮาร์ดไดร์ฟที่อยู่เดิมให้มากขึ้น
ปัจจุบันฮิตาชิ จีเอสที ประเทศไทย ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้ว และ 3.5 นิ้ว โดยจะย้ายการผลิตฮาร์ดไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้วสำหรับรถยนต์ และการผลิตเอชจีเอจากโรงานเมืองลากูน่า ประเทศฟิลิปปินส์มาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าการย้ายจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2 ปี 2551 ขณะที่โรงงานที่ฟิลิปปินส์จะเป็นศูนย์กลางการผลิตสไลเดอร์แทนฐานการผลิตเดิม
ผู้บริหารฮิตาชิย้ำว่า ศูนย์กลางการผลิตที่ทันสมัยของฮิตาชิ จีเอสทีในไทย ถือเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์การผลิตฮาร์ดไดร์ฟฮิตาชิ การเพิ่มกำลังการผลิตเอชจีเอ และฮาร์ดไดร์ฟสำหรับรถยนต์นี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการปรับปรุงความสามารถในการผลิตฮาร์ดไดร์ฟป้อนสู่ตลาดอย่างเพียงพอ แต่ยังสามารถช่วยให้ฮิตาชิบรรลุเป้าหมายของการประสบผลสำเร็จทางธุรกิจฮาร์ดไดร์ฟอีกด้วย และคาดว่าจะสามารถผลิตป้อนตลาดโลกได้ 50 ล้านชิ้นต่อปี
ขณะที่จีนจะเพิ่มการผลิตมีเดีย และจะพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตมีที่แข็งแกร่ง โดยจะยกเลิกโรงงานในญี่ปุ่นภายในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมกันนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางผลิตเอชจีเอที่แข็งแกร่งด้วย ส่วนที่ซานโฮเซ่, แคลิฟอร์เนียยังคงเป็นศูนย์กลางผลิตมีเดีย และสนับสนุนการผลิตมีเดียในเสินเจิ้น ประเทศจีน
“ระยะยาวจีนจะผลิตขนาด 3.5 นิ้ว ไทยผลิต 2.5 นิ้ว และจะเป็นเมกะไซต์ที่รองรับตลาดทั่วโลก สำหรับนโยบายรวมศูนย์จะทำให้เกิดการคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น”
ส่วนโรงงานที่เม็กซิโกจะมีการลดแรงงาน 11% จากพนักงานทั้งหมด 4 หมื่นคนทั่วโลกทั้งลูกจ้างประจำและชั่วคราว ซึ่งเป็นผลจากการปิดโรงานที่กัวดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก
ทั้งนี้ จากยุทธศาสตร์การรวมศูนย์และปรับลดพนักงาน รวมถึงการปิดโรงานบางแห่ง ฮิตาชิจะสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านการลงทุนฮิตาชิมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับในประเทศไทยรอบปีนี้ ฮิตาชิจะใช้ประมาณ 1,500 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเครื่องจักร
นายนครกล่าวถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นว่า ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการค้าขายส่วนใหญ่จะเป็นเงินเหรียญสหรัฐ
Company Relate Link :
Hitachi
นายนคร ตั้งสุจริตพันธ์ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายบริหาร บริษัท ฮิตาชิ โกลบอล สตอเรจ เทคโนโลยีส์ ประเทศไทย ผู้ดำเนินธุรกิจด้านเทคโนโลยีการเก็บข้อมูล กล่าวว่า ฮิตาชิมีนโยบายรวมกำลังศูนย์การผลิตและพัฒนาฮาร์ดไดร์ฟทั่วโลก เพื่อให้มีประมีสิทธิภาพมากขึ้นและประสบผลสำเร็จในธุรกิจฮาร์ดไดร์ฟ
จากนโยบายดังกล่าวฮิตาชิ จีเอสที ประเทศไทย รับภาระกิจใหม่ด้วยการผลิตฮาร์ดไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้ว สำหรับรถยนต์ เนื่องจากไทยมีสายพานการผลิตขนาด 2.5 นิ้วอยู่แล้ว นอกจากนี้ ยังเพิ่มการผลิต head-gimbal assembly (HGA) ซึ่งเป็นชิ้นส่วนประกอบสำคัญของฮาร์ดไดร์ฟที่อยู่เดิมให้มากขึ้น
ปัจจุบันฮิตาชิ จีเอสที ประเทศไทย ผลิตฮาร์ดดิสก์ไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้ว และ 3.5 นิ้ว โดยจะย้ายการผลิตฮาร์ดไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้วสำหรับรถยนต์ และการผลิตเอชจีเอจากโรงานเมืองลากูน่า ประเทศฟิลิปปินส์มาเพิ่มเติม ซึ่งคาดว่าการย้ายจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาส 2 ปี 2551 ขณะที่โรงงานที่ฟิลิปปินส์จะเป็นศูนย์กลางการผลิตสไลเดอร์แทนฐานการผลิตเดิม
ผู้บริหารฮิตาชิย้ำว่า ศูนย์กลางการผลิตที่ทันสมัยของฮิตาชิ จีเอสทีในไทย ถือเป็นศูนย์กลางยุทธศาสตร์การผลิตฮาร์ดไดร์ฟฮิตาชิ การเพิ่มกำลังการผลิตเอชจีเอ และฮาร์ดไดร์ฟสำหรับรถยนต์นี้ ไม่เพียงแต่จะเป็นการปรับปรุงความสามารถในการผลิตฮาร์ดไดร์ฟป้อนสู่ตลาดอย่างเพียงพอ แต่ยังสามารถช่วยให้ฮิตาชิบรรลุเป้าหมายของการประสบผลสำเร็จทางธุรกิจฮาร์ดไดร์ฟอีกด้วย และคาดว่าจะสามารถผลิตป้อนตลาดโลกได้ 50 ล้านชิ้นต่อปี
ขณะที่จีนจะเพิ่มการผลิตมีเดีย และจะพัฒนาให้กลายเป็นศูนย์กลางการผลิตมีที่แข็งแกร่ง โดยจะยกเลิกโรงงานในญี่ปุ่นภายในไตรมาส 4 ปีนี้ พร้อมกันนี้ยังจะเป็นศูนย์กลางผลิตเอชจีเอที่แข็งแกร่งด้วย ส่วนที่ซานโฮเซ่, แคลิฟอร์เนียยังคงเป็นศูนย์กลางผลิตมีเดีย และสนับสนุนการผลิตมีเดียในเสินเจิ้น ประเทศจีน
“ระยะยาวจีนจะผลิตขนาด 3.5 นิ้ว ไทยผลิต 2.5 นิ้ว และจะเป็นเมกะไซต์ที่รองรับตลาดทั่วโลก สำหรับนโยบายรวมศูนย์จะทำให้เกิดการคล่องตัวในการดำเนินงานมากขึ้น”
ส่วนโรงงานที่เม็กซิโกจะมีการลดแรงงาน 11% จากพนักงานทั้งหมด 4 หมื่นคนทั่วโลกทั้งลูกจ้างประจำและชั่วคราว ซึ่งเป็นผลจากการปิดโรงานที่กัวดาลาฮารา ประเทศเม็กซิโก
ทั้งนี้ จากยุทธศาสตร์การรวมศูนย์และปรับลดพนักงาน รวมถึงการปิดโรงานบางแห่ง ฮิตาชิจะสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 300 ล้านเหรียญสหรัฐ
ด้านการลงทุนฮิตาชิมีการลงทุนอย่างต่อเนื่องทุกปี สำหรับในประเทศไทยรอบปีนี้ ฮิตาชิจะใช้ประมาณ 1,500 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเครื่องจักร
นายนครกล่าวถึงผลกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นว่า ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากการค้าขายส่วนใหญ่จะเป็นเงินเหรียญสหรัฐ
Company Relate Link :
Hitachi