เอชพีย้ำภาพผู้นำตลาดไอทีไทย สานต่อกลยุทธ์ Adaptive Enterprise และ Adaptive Infrastructure บุกตลาดลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ รุกตลาดเอสเอ็มบีด้วยสมาร์ท ออฟฟิศโซลูชั่น ชูจุดเด่นบริการ HP Total Care พร้อมนำผลิตภัณฑ์ไอทีใกล้ชิดคอนซูเมอร์ยิ่งขึ้นด้วยกลยุทธ์ Digital Life เพื่อสร้างตลาดใหม่และใช้เทคโนโลยีขยายฐานธุรกิจภาพและการพิมพ์เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์
นายสรรพัชญ โสภณ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีโซลูชั่นส์ (ทีเอสจี) บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) กล่าวถึงทิศทางของเอชพีในปี 2550ว่า เอชพีเน้นกลยุทธ์การรุกตลาด เสนอโซลูชั่นและการให้บริการแก่ลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่ลูกค้าระดับคอนซูเมอร์ ระดับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มราชการ หัวใจสำคัญของการรุกตลาดคือ การค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูง และการนำเสนอสินค้าที่มีราคาแข่งขันในตลาดได้เมื่อเทียบราคาต่อประสิทธิภาพ
“ในปีนี้ ลูกค้าคือหัวใจสำคัญ เอชพีเน้นหนักในด้าน Total Customer Experience หรือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าที่เกิดจากการรับฟังความคิดเห็นและนำเสนอผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ตรงใจ”
เอชพีจะสานต่อกลยุทธ์ Adaptive Enterprise และ Adaptive Infrastructure สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยแนวทางของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีโซลูชั่นในปี 2550 เอชพีจะช่วยให้ลูกค้าในระดับองค์กรธุรกิจและกลุ่มราชการ สามารถนำไอทีไปใช้เพื่อปรับองค์กรให้พร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของเทคโนโลยีโซลูชั่น เอชพีมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ทุกขนาด ระบบสตอเรจเพื่อการจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการระบบ และโซลูชั่นทางด้านไอทีต่างๆ เอชพีให้ความสำคัญกับ Blade Computing Solutions อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Adaptive Infrastructure เพื่อการพัฒนาศูนย์ข้อมูลขององค์กร (Data Centers) ไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุน และลดพื้นที่จัดเก็บ ซึ่งเอชพีได้พัฒนาแนวทางนี้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพของซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบ และระบบการบริการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ในด้านการบริการ เอชพีสานต่อแนวทางการให้บริการด้านการปรึกษาและการวางระบบไอที พร้อมพัฒนาคุณภาพการให้บริการ Outsourcing ที่ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง สำหรับลูกค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลางและลูกค้าคอนซูเมอร์
นายสมพงษ์ สุทธิเชื้อชาติ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนล ซิสเต็มส์ (พีเอสจี) กล่าวถึงการบุกตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มบี)ว่าจะใช้สมาร์ทออฟฟิศโซลูชั่น พร้อมด้วยบริการ HP Total Care ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมวัฏจักรการใช้งานไอทีอย่างครบวงจร ทั้งด้านบริการ เครื่องมือ รวมทั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับลูกค้าเอสเอ็มบีทุกประเภทและทุกขนาดธุรกิจ
HP Total Care เป็นกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างของเอชพีในตลาดเอสเอ็มบี ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์หลักคือ การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วยโซลูชั่นทั้งของเอชพีและของพันธมิตรและบริการ HP Total Care การสร้างความเข้มแข็งให้กับช่องทางจัดจำหน่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งจะทำให้เอชพีสามารถให้บริการลูกค้าเอสเอ็มบีได้อย่างทั่วถึงไม่ว่าลูกค้าจะซื้อผลิตภัณฑ์จากที่ไหนและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในทุกด้าน
นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ และคอนซูเมอร์(ไอพีจี) กล่าวว่ากลุ่มไอพีจีจะใช้กลยุทธ์ Digital Life เพื่อสร้างตลาดใหม่ พร้อมใช้เทคโนโลยีขยายฐานธุรกิจภาพและการพิมพ์เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์แนวคิด Digital Life จะครอบคลุมชีวิตประจำวันของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น Digital Home ที่รวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์พีซีและมีเดียเซ็นเตอร์พีซี เน้นการใช้งานและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน Digital Mobility ที่รวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเอชพีไอแพ็ค เน้นความสามารถในการเชื่อมต่อเพื่องานและความบันเทิงและ Digital Photography ที่มุ่งเน้นสินค้าด้านภาพและการพิมพ์เพื่อส่งเสริมความสนุกสนานในการพิมพ์ด้วยตัวเองทั้งภายในบ้านและนอกสถานที่ ซึ่งภายในปีนี้ เอชพีจะนำผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ไอทีภายใต้แนวคิดดังกล่าวเข้าสู่ตลาดครั้งใหญ่ และมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของลูกค้าในลักษณะเซ็กเมนเตชั่น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์การพิมพ์เพื่อธุรกิจและองค์กรใหญ่ (ฺCommercial and Enterprise Printing) นั้น เอชพีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ท ทั้งซิงเกิลฟังก์ชั่นและมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงโซลูชั่นส์งานพิมพ์ ตลอดจนเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับงานดีไซน์ (HP Designjet) และการพิมพ์ในระดับอุตสาหกรรม (HP Indigo and HP Scitex) โดยปัจจุบันเอชพีเป็นผู้นำในตลาดด้านการพิมพ์เพื่อธุรกิจทุกๆ กลุ่ม
เอชพีประกาศผลประกอบการของปีงบประมาณ 2549 ซึ่งสิ้นสุด 31 ตุลาคม 2549 โดยมีรายได้รวมที่ 91,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดปี 2548 เอชพีมีรายได้รวม 86,700 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมีอัตราการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลกและทุกกลุ่มธุรกิจ
“ภาพรวมเอชพีในประเทศไทยก็เติบโตในทิศทางเดียวกับผลประกอบการของเอชพี แต่จากผลกระทบด้านการเมือง เศรษฐกิจ นโยบายแบงก์ชาติ ก็จะทำให้ตลาดรวมไอทีเติบโตในอัตราที่ลดลง คงเหลือไม่เกิน 2 หลักในปีนี้”นายสรรพัชญกล่าว
Company Releted Links:
HP
นายสรรพัชญ โสภณ กรรมการผู้จัดการและผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีโซลูชั่นส์ (ทีเอสจี) บริษัท ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (ประเทศไทย) กล่าวถึงทิศทางของเอชพีในปี 2550ว่า เอชพีเน้นกลยุทธ์การรุกตลาด เสนอโซลูชั่นและการให้บริการแก่ลูกค้าทุกระดับ ตั้งแต่ลูกค้าระดับคอนซูเมอร์ ระดับธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่และกลุ่มราชการ หัวใจสำคัญของการรุกตลาดคือ การค้นคว้าและพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีระดับสูง และการนำเสนอสินค้าที่มีราคาแข่งขันในตลาดได้เมื่อเทียบราคาต่อประสิทธิภาพ
“ในปีนี้ ลูกค้าคือหัวใจสำคัญ เอชพีเน้นหนักในด้าน Total Customer Experience หรือประสบการณ์ที่ดีของลูกค้าที่เกิดจากการรับฟังความคิดเห็นและนำเสนอผลิตภัณฑ์และการให้บริการที่ตรงใจ”
เอชพีจะสานต่อกลยุทธ์ Adaptive Enterprise และ Adaptive Infrastructure สำหรับลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ โดยแนวทางของกลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีโซลูชั่นในปี 2550 เอชพีจะช่วยให้ลูกค้าในระดับองค์กรธุรกิจและกลุ่มราชการ สามารถนำไอทีไปใช้เพื่อปรับองค์กรให้พร้อมต่อความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ในส่วนของเทคโนโลยีโซลูชั่น เอชพีมีฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งประกอบด้วยเซิร์ฟเวอร์ทุกขนาด ระบบสตอเรจเพื่อการจัดเก็บข้อมูล ซอฟต์แวร์จัดการระบบ และโซลูชั่นทางด้านไอทีต่างๆ เอชพีให้ความสำคัญกับ Blade Computing Solutions อันเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ Adaptive Infrastructure เพื่อการพัฒนาศูนย์ข้อมูลขององค์กร (Data Centers) ไปสู่ยุคใหม่ที่เน้นประสิทธิภาพ ประหยัดต้นทุน และลดพื้นที่จัดเก็บ ซึ่งเอชพีได้พัฒนาแนวทางนี้ ควบคู่ไปกับการเพิ่มศักยภาพของซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบ และระบบการบริการดูแลรักษาที่มีประสิทธิภาพ
ในด้านการบริการ เอชพีสานต่อแนวทางการให้บริการด้านการปรึกษาและการวางระบบไอที พร้อมพัฒนาคุณภาพการให้บริการ Outsourcing ที่ตรงกับความต้องการแบบเฉพาะเจาะจง สำหรับลูกค้าขนาดเล็กถึงขนาดกลางและลูกค้าคอนซูเมอร์
นายสมพงษ์ สุทธิเชื้อชาติ ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจเพอร์ซัลแนล ซิสเต็มส์ (พีเอสจี) กล่าวถึงการบุกตลาดธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มบี)ว่าจะใช้สมาร์ทออฟฟิศโซลูชั่น พร้อมด้วยบริการ HP Total Care ซึ่งเป็นโปรแกรมที่ครอบคลุมวัฏจักรการใช้งานไอทีอย่างครบวงจร ทั้งด้านบริการ เครื่องมือ รวมทั้งอุปกรณ์เสริมต่างๆ สำหรับลูกค้าเอสเอ็มบีทุกประเภทและทุกขนาดธุรกิจ
HP Total Care เป็นกลยุทธ์การสร้างความแตกต่างของเอชพีในตลาดเอสเอ็มบี ประกอบด้วย 3 กลยุทธ์หลักคือ การมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าด้วยโซลูชั่นทั้งของเอชพีและของพันธมิตรและบริการ HP Total Care การสร้างความเข้มแข็งให้กับช่องทางจัดจำหน่ายทั้งทางตรงและทางอ้อม ซึ่งจะทำให้เอชพีสามารถให้บริการลูกค้าเอสเอ็มบีได้อย่างทั่วถึงไม่ว่าลูกค้าจะซื้อผลิตภัณฑ์จากที่ไหนและการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าในทุกด้าน
นายประเสริฐ จรูญไพศาล ผู้จัดการทั่วไป กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ภาพและการพิมพ์ และคอนซูเมอร์(ไอพีจี) กล่าวว่ากลุ่มไอพีจีจะใช้กลยุทธ์ Digital Life เพื่อสร้างตลาดใหม่ พร้อมใช้เทคโนโลยีขยายฐานธุรกิจภาพและการพิมพ์เพื่อครอบคลุมทุกเซ็กเม้นต์แนวคิด Digital Life จะครอบคลุมชีวิตประจำวันของผู้บริโภคไม่ว่าจะเป็น Digital Home ที่รวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์พีซีและมีเดียเซ็นเตอร์พีซี เน้นการใช้งานและเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้าน Digital Mobility ที่รวมสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กและเอชพีไอแพ็ค เน้นความสามารถในการเชื่อมต่อเพื่องานและความบันเทิงและ Digital Photography ที่มุ่งเน้นสินค้าด้านภาพและการพิมพ์เพื่อส่งเสริมความสนุกสนานในการพิมพ์ด้วยตัวเองทั้งภายในบ้านและนอกสถานที่ ซึ่งภายในปีนี้ เอชพีจะนำผลิตภัณฑ์คอนซูเมอร์ไอทีภายใต้แนวคิดดังกล่าวเข้าสู่ตลาดครั้งใหญ่ และมีให้เลือกหลากหลายตามความต้องการของลูกค้าในลักษณะเซ็กเมนเตชั่น
ในส่วนของผลิตภัณฑ์การพิมพ์เพื่อธุรกิจและองค์กรใหญ่ (ฺCommercial and Enterprise Printing) นั้น เอชพีมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในส่วนของผลิตภัณฑ์เครื่องพิมพ์เลเซอร์เจ็ท ทั้งซิงเกิลฟังก์ชั่นและมัลติฟังก์ชั่น รวมถึงโซลูชั่นส์งานพิมพ์ ตลอดจนเครื่องพิมพ์หน้ากว้างสำหรับงานดีไซน์ (HP Designjet) และการพิมพ์ในระดับอุตสาหกรรม (HP Indigo and HP Scitex) โดยปัจจุบันเอชพีเป็นผู้นำในตลาดด้านการพิมพ์เพื่อธุรกิจทุกๆ กลุ่ม
เอชพีประกาศผลประกอบการของปีงบประมาณ 2549 ซึ่งสิ้นสุด 31 ตุลาคม 2549 โดยมีรายได้รวมที่ 91,700 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (สิ้นสุดปี 2548 เอชพีมีรายได้รวม 86,700 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยมีอัตราการเติบโตในทุกภูมิภาคทั่วโลกและทุกกลุ่มธุรกิจ
“ภาพรวมเอชพีในประเทศไทยก็เติบโตในทิศทางเดียวกับผลประกอบการของเอชพี แต่จากผลกระทบด้านการเมือง เศรษฐกิจ นโยบายแบงก์ชาติ ก็จะทำให้ตลาดรวมไอทีเติบโตในอัตราที่ลดลง คงเหลือไม่เกิน 2 หลักในปีนี้”นายสรรพัชญกล่าว
Company Releted Links:
HP