ตลาดโฟโต้ดิจิตอลหอมหวาน เอปสัน หลังเห็นยอดเติบโต โฟโต้ พรินเตอร์ วิ่งขึ้นต่อเนื่อง สิ้นปีคาดรับส่วนแบ่งตลาด 36% จากมูลค่าตลาดที่สูงกว่า 1,090 ล้านบาท ส่วนปี 50โฟกัสลุยเจาะตลาดเต็มรูปแบบทุกเซกเมนต์ ตั้งแท่นผู้นำ พร้อมเติบโตทั้งภูมิภาคอินโดจีน ล่าสุด เปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ Epson Claria Photo Lab System บุกตลาดผ่านโปรดักซ์ 5 รุ่น ย้ำความเป็นผู้นำพิมพ์ภาพดิจิตอล
นายนาโอยูกิ ซาเอกิ ประธาน บริษัทเอปสัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องพิมพ์(พรินเตอร์)โดยรวมปี2549 มีอัตราการเติบโตประมาณ 5% จากที่คาดการณ์ไว้เติบโตถึงระดับ 8%-10 % โดยตลาดพรินเตอร์กลุ่มชนิดพิมพ์อย่างเดียว(ซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น) ยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ มีจำนวนความต้องการผู้ใช้ 9 แสนเครื่อง ซึ่งเอปสัน เติบโตในกลุ่มนี้ 5% โดยพรินเตอร์ ที่มีคุณภาพการพิมพ์ระดับภาพถ่าย(โฟโต้ พรินเตอร์) เติบโตจากปีที่แล้ว 10 % ซึ่งเอปสัน ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้ 372 ล้านบาท หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 36% จากมูลค่าตลาดที่สูงกว่า 1,090 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเอนกประสงค์ ที่สามารถพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร หรือ ออลอินวัน พรินเตอร์ มีอัตราการเติบโต 10% โดยตลาดรวมมีผู้ใช้ถึงระดับแสนเครื่อง ซึ่งเอปสันมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้ 20%
“ตลาดโฟโต้พรินเตอร์ในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งในปีที่ผ่านมาเอปสัน มีส่วนแบ่งตลาด 34% จากมูลค่าตลาด 988 ล้านบาท”
สำหรับปี 2550 นั้น เอปสัน(ประเทศไทย) คาดว่าตลาดน่าจะเติบโตขึ้นราว 5-8% โดยตลาดที่มีการเติบโตนั้น คือ ออลอินวัน พรินเตอร์ และ โฟโต้ พรินเตอร์ ที่คาดว่าน่าจะมีตัวเลขการเติบโตประมาณ 10-15% ส่วนตลาด ซิงเกิลฟังค์ชั่น คาดว่าจะมีการเติบโตคงที่ หรืออาจจะลดลงประมาณ 3-5%
นอกจาก เอปสัน (ประเทศไทย) จะดูแลตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงภูมิภาคอินโดจีน อันประกอบไปด้วยประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา และพม่า ซึ่ง นายซาเอกิ ได้กล่าวถึงภาพรวมของตลาดโฟโต้พรินเตอร์ในภูมิภาคอินโดจีนว่า ตลาดโฟโต้พรินเตอร์มีอัตราการ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากกระแสความนิยมของกล้องดิจิตอลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง พฤติกรรมของผู้บริโภคที่รู้จักและทันต่อเทคโนโลยีมากขึ้น และเริ่มมองหาโฟโต้พรินเตอร์ที่สามารถตอบสนองต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน
สำหรับในภูมิภาคนี้ ตลาดเวียดนาม เป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจสูง และมีการเติบโตทั้งด้านการค้าการลงทุน มีการเปิดรับเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อความนิยมในกลุ่มตลาดโฟโต้พรินเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ในปีนี้ ตลาดโฟโต้ พรินเตอร์ ในประเทศเวียดนาม มีมูลค่าตลาดประมาณ 79 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 20% ซึ่งยอดขายโฟโต้พรินเตอร์ และออลอินวันมีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท และในปีนี้ เอปสัน ได้คาดหวังของยอดขายไว้ที่ 60 ล้านบาท จากสินค้าทั้งสองกลุ่ม หรือคิดเป็นการเติบโต 17% ส่วนอัตราการเติบโตในประเทศกัมพูชา พม่า และลาวมีแนวโน้มที่ตอบสนองเป็นอย่างดีเช่นกัน
เขา กล่าวอีกว่า ทิศทางธุรกิจส่วนประเทศไทยและแถบอินโดจีนในปีหน้า เอปสันจะมุ่งการทำตลาดไปยังกลุ่มตลาดเครื่องพิมพ์ออลอินวัน และโฟโต้ พรินเตอร์ชัดเจน โดยในกลุ่มโฟโต้พรินเตอร์ที่เป็นผู้นำตลาดนั้นบริษัทมีจุดแข็งทางด้านการพัฒนาหมึกพิมพ์ และหัวพิมพ์
โดยล่าสุด เพื่อแสดงถึงการรุกตลาดโฟโต้ พรินเตอร์ เอปสัน ได้เปิดตัวพรินเตอร์ใหม่ 5 รุ่น พร้อมกันทั้งภูมิภาค โดยชูจุดเด่นเทคโนโลยีใหม่ Epson Claria Photo Lab System ด้วยเทคโนโลยีระดับ “พรีเมี่ยมโฟโต้” ประกอบด้วย Epson Claria PhotoEnhance software หรือ ซอฟต์แวร์อัจฉริยะช่วยปรับแต่งภาพที่แสดงสีและแสงที่ไม่สมบูรณ์โดยอัตโนมัติและ Epson Claria Photographic Inks หรือ เทคโนโลยีหมึกพิมพ์ใหม่ช่วยยืดอายุภาพยาวนานถึง 200 ปี โดยน้ำหมึกจะมีเกราะอะตอมช่วยป้องกันอนุภาพสีจากการทำลายของแสง ความชื้น และสภาวะแวดล้อม
แบบออลอินวัน Epson Stylus Photo RX590 มีคุณสมบัติพิเศษด้านเชื่อมต่อ ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกรูปแบบ ทั้งการต่อผ่านเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือไม่ต้องต่อผ่าน โดยสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธ จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ การ์ดความจำทุกชนิด ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์ PictureMate 210 และ 250 ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์แบบพกพาขนาดเล็ก ใช้งานง่าย รองรับการพิมพ์ภาพขนาด 4R หรือ 4”X6” ได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยความละเอียด 5760 dpi พร้อมกรอบรูปดิจิตอลช่วยให้สร้างสรรค์งานพิมพ์ โดยเอปสันวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ 2 รุ่นนี้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สนองยุคดิจิตอลไลฟ์สไตล์ เจาะกลุ่มคนที่ชอบของดีไซน์เก๋ขนาดเล็กน่ารัก ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มีราคา 5,990 บาทและ7,990 ตามลำดับ
“เป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 2549 นั้นคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ ประมาณ 2,400 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 5% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยรายได้ปีนี้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ต 50% เครื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม หรือดอตเมทริกซ์ 30% ที่เหลืออีก 20% เป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ”นายซาเอกิกล่าว
ด้านนายพลพงษ์ องค์วรวุฒิ ผู้อำนวยการบริหาร เอปสัน กล่าวเสริมว่ากลยุทธ์ที่บริษัทดำเนินการขณะนี้คือการสร้างตลาดใหม่ๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะกลุ่มคนใช้กล้องดิจิตอล ที่ในอดีตนิยมเก็บภาพไว้ในฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์มากกว่าพิมพ์ออกมา รวมถึงกลุ่มผู้ใช้บริการร้านดิจตอลโฟโต้แล๊ป ซึ่งตลาดทั้งสองกลุ่มนี้ยังมีรูปแบบความต้องการใช้งานสูง อีกทั้งหากเปรียบเทียบราคาและความสะดวก ในการเดินทางไปพิมพ์พิมพ์ภาพที่ร้าน ไม่แตกต่างกัน รวมถึงคุณภาพในการเก็บ และการเลือกพิมพ์
Company Related Links:
Epson
นายนาโอยูกิ ซาเอกิ ประธาน บริษัทเอปสัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดเครื่องพิมพ์(พรินเตอร์)โดยรวมปี2549 มีอัตราการเติบโตประมาณ 5% จากที่คาดการณ์ไว้เติบโตถึงระดับ 8%-10 % โดยตลาดพรินเตอร์กลุ่มชนิดพิมพ์อย่างเดียว(ซิงเกิ้ลฟังก์ชั่น) ยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่ มีจำนวนความต้องการผู้ใช้ 9 แสนเครื่อง ซึ่งเอปสัน เติบโตในกลุ่มนี้ 5% โดยพรินเตอร์ ที่มีคุณภาพการพิมพ์ระดับภาพถ่าย(โฟโต้ พรินเตอร์) เติบโตจากปีที่แล้ว 10 % ซึ่งเอปสัน ได้ตั้งเป้าหมายยอดขายในปีนี้ 372 ล้านบาท หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาด 36% จากมูลค่าตลาดที่สูงกว่า 1,090 ล้านบาท ส่วนกลุ่มเอนกประสงค์ ที่สามารถพิมพ์ สแกน และถ่ายเอกสาร หรือ ออลอินวัน พรินเตอร์ มีอัตราการเติบโต 10% โดยตลาดรวมมีผู้ใช้ถึงระดับแสนเครื่อง ซึ่งเอปสันมีส่วนแบ่งตลาดกลุ่มนี้ 20%
“ตลาดโฟโต้พรินเตอร์ในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งมีการเติบโตไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดภูมิภาคอินโดจีน ซึ่งในปีที่ผ่านมาเอปสัน มีส่วนแบ่งตลาด 34% จากมูลค่าตลาด 988 ล้านบาท”
สำหรับปี 2550 นั้น เอปสัน(ประเทศไทย) คาดว่าตลาดน่าจะเติบโตขึ้นราว 5-8% โดยตลาดที่มีการเติบโตนั้น คือ ออลอินวัน พรินเตอร์ และ โฟโต้ พรินเตอร์ ที่คาดว่าน่าจะมีตัวเลขการเติบโตประมาณ 10-15% ส่วนตลาด ซิงเกิลฟังค์ชั่น คาดว่าจะมีการเติบโตคงที่ หรืออาจจะลดลงประมาณ 3-5%
นอกจาก เอปสัน (ประเทศไทย) จะดูแลตลาดในประเทศไทยแล้ว ยังครอบคลุมไปถึงภูมิภาคอินโดจีน อันประกอบไปด้วยประเทศเวียดนาม ลาว กัมพูชา และพม่า ซึ่ง นายซาเอกิ ได้กล่าวถึงภาพรวมของตลาดโฟโต้พรินเตอร์ในภูมิภาคอินโดจีนว่า ตลาดโฟโต้พรินเตอร์มีอัตราการ เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมาจากกระแสความนิยมของกล้องดิจิตอลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมทั้ง พฤติกรรมของผู้บริโภคที่รู้จักและทันต่อเทคโนโลยีมากขึ้น และเริ่มมองหาโฟโต้พรินเตอร์ที่สามารถตอบสนองต่อการทำงานและชีวิตประจำวัน
สำหรับในภูมิภาคนี้ ตลาดเวียดนาม เป็นตลาดที่มีความเคลื่อนไหวของเศรษฐกิจสูง และมีการเติบโตทั้งด้านการค้าการลงทุน มีการเปิดรับเทคโนโลยีมากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อความนิยมในกลุ่มตลาดโฟโต้พรินเตอร์เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ส่งผลให้ในปีนี้ ตลาดโฟโต้ พรินเตอร์ ในประเทศเวียดนาม มีมูลค่าตลาดประมาณ 79 ล้านบาท เติบโตจากปีที่ผ่านมา 20% ซึ่งยอดขายโฟโต้พรินเตอร์ และออลอินวันมีมูลค่าถึง 50 ล้านบาท และในปีนี้ เอปสัน ได้คาดหวังของยอดขายไว้ที่ 60 ล้านบาท จากสินค้าทั้งสองกลุ่ม หรือคิดเป็นการเติบโต 17% ส่วนอัตราการเติบโตในประเทศกัมพูชา พม่า และลาวมีแนวโน้มที่ตอบสนองเป็นอย่างดีเช่นกัน
เขา กล่าวอีกว่า ทิศทางธุรกิจส่วนประเทศไทยและแถบอินโดจีนในปีหน้า เอปสันจะมุ่งการทำตลาดไปยังกลุ่มตลาดเครื่องพิมพ์ออลอินวัน และโฟโต้ พรินเตอร์ชัดเจน โดยในกลุ่มโฟโต้พรินเตอร์ที่เป็นผู้นำตลาดนั้นบริษัทมีจุดแข็งทางด้านการพัฒนาหมึกพิมพ์ และหัวพิมพ์
โดยล่าสุด เพื่อแสดงถึงการรุกตลาดโฟโต้ พรินเตอร์ เอปสัน ได้เปิดตัวพรินเตอร์ใหม่ 5 รุ่น พร้อมกันทั้งภูมิภาค โดยชูจุดเด่นเทคโนโลยีใหม่ Epson Claria Photo Lab System ด้วยเทคโนโลยีระดับ “พรีเมี่ยมโฟโต้” ประกอบด้วย Epson Claria PhotoEnhance software หรือ ซอฟต์แวร์อัจฉริยะช่วยปรับแต่งภาพที่แสดงสีและแสงที่ไม่สมบูรณ์โดยอัตโนมัติและ Epson Claria Photographic Inks หรือ เทคโนโลยีหมึกพิมพ์ใหม่ช่วยยืดอายุภาพยาวนานถึง 200 ปี โดยน้ำหมึกจะมีเกราะอะตอมช่วยป้องกันอนุภาพสีจากการทำลายของแสง ความชื้น และสภาวะแวดล้อม
แบบออลอินวัน Epson Stylus Photo RX590 มีคุณสมบัติพิเศษด้านเชื่อมต่อ ที่สามารถเชื่อมต่อได้ทุกรูปแบบ ทั้งการต่อผ่านเข้าสู่เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือไม่ต้องต่อผ่าน โดยสามารถเชื่อมต่อผ่านระบบบลูทูธ จากโทรศัพท์เคลื่อนที่ การ์ดความจำทุกชนิด ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์ PictureMate 210 และ 250 ซึ่งเป็นเครื่องพิมพ์แบบพกพาขนาดเล็ก ใช้งานง่าย รองรับการพิมพ์ภาพขนาด 4R หรือ 4”X6” ได้ทุกที่ทุกเวลา ด้วยความละเอียด 5760 dpi พร้อมกรอบรูปดิจิตอลช่วยให้สร้างสรรค์งานพิมพ์ โดยเอปสันวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์ 2 รุ่นนี้ให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่สนองยุคดิจิตอลไลฟ์สไตล์ เจาะกลุ่มคนที่ชอบของดีไซน์เก๋ขนาดเล็กน่ารัก ซึ่งทั้ง 2 รุ่นนี้มีราคา 5,990 บาทและ7,990 ตามลำดับ
“เป้าหมายรายได้ของบริษัทในปี 2549 นั้นคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ ประมาณ 2,400 ล้านบาท เติบโตขึ้นราว 5% จากปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ประมาณ 2,200 ล้านบาท โดยรายได้ปีนี้มาจากกลุ่มผลิตภัณฑ์ เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ต 50% เครื่องพิมพ์แบบหัวเข็ม หรือดอตเมทริกซ์ 30% ที่เหลืออีก 20% เป็นรายได้จากผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ”นายซาเอกิกล่าว
ด้านนายพลพงษ์ องค์วรวุฒิ ผู้อำนวยการบริหาร เอปสัน กล่าวเสริมว่ากลยุทธ์ที่บริษัทดำเนินการขณะนี้คือการสร้างตลาดใหม่ๆ ขึ้นมา โดยเฉพาะกลุ่มคนใช้กล้องดิจิตอล ที่ในอดีตนิยมเก็บภาพไว้ในฮาร์ดดิสก์คอมพิวเตอร์มากกว่าพิมพ์ออกมา รวมถึงกลุ่มผู้ใช้บริการร้านดิจตอลโฟโต้แล๊ป ซึ่งตลาดทั้งสองกลุ่มนี้ยังมีรูปแบบความต้องการใช้งานสูง อีกทั้งหากเปรียบเทียบราคาและความสะดวก ในการเดินทางไปพิมพ์พิมพ์ภาพที่ร้าน ไม่แตกต่างกัน รวมถึงคุณภาพในการเก็บ และการเลือกพิมพ์
Company Related Links:
Epson