เบ็นคิวชี้ภาวะเศรษฐกิจ การเมือง ไม่กระทบยอดขายที่ตั้งไว้ 45 ล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ ด้วยการเติบโตผ่าน Product Strategy ที่หลากหลายหลังตลาดให้การยอมรับแบรนด์เบ็นคิวมากขึ้น พร้อมร่วมงานแสดงสินค้า TAITRONICS BANGKOK 2006 ที่รวบรวมสินค้าอิเล็กทรอนิกส์จากไต้หวัน ระหว่าง 27-31 ก.ค.ที่ไบเทค
นายคริส เหลียง กรรมการผู้จัดการบริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) กล่าวว่าเบ็นคิวคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 40-45 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตจากปีที่ผ่านมาเท่าตัว แบ่งเป็นรายได้จากสินค้าไอทีประมาณ 40% โทรศัพท์มือถือ 40% และสินค้าด้านเอวีประมาณ 20%
เบ็นคิวมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัจจัยด้านการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายเบ็นคิวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่กว่า 90% ยังมาจากธุรกิจขายปลีก ส่วนที่เหลือมาจากการขายลูกค้าองค์กร หรือโครงการ นอกจากนี้การที่เบ็นคิวไม่ได้มีส่วนแบ่งในตลาดมากในอันดับที่ 1 หรือที่ 2 ทำให้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะวงจรสินค้าด้านไอทีในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก ถึงแม้เบ็นคิวจะมีรายได้ในครึ่งปีแรกประมาณ 18 ล้านเหรียญก็ตาม แต่เชื่อว่าด้วยการทำตลาดทั้ง Above และ Below the Line การอัดกิจกรรม การจัดโรดโชว์จะทำให้เบ็นคิวทำรายได้ตามที่คาดการณ์ไว้
ในช่วงครึ่งปีหลังเบ็นคิวจะร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญ 2 งานคืองานไททรอนิค กรุงเทพฯครั้งที่ 1 และงานคอมมาร์ต โดยที่งาน TAITRONICS BANGKOK 2006 จัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสมาคมธุรกิจการค้าไทย-ไต้หวัน (TTBA) สมาคมพัฒนาการค้าต่างประเทศของไต้หวัน (TAITRA) สมาคมผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทริคอลแห่งไต้หวัน (TEEMA) สมาคมหอการค้าเอเชียไต้หวัน (ASTCC) และบริษัท ไทเป เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ (TWTC) โดยเป็นการรวบรวมผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดของไต้หวัน กว่า 200 บริษัท มาจัดงานแสดงที่ศูนย์ประชุมไบเทค กรุงเทพฯในระหว่างวันที่ 27-31 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งในงานจะมีการแบ่งโซนสินค้าอย่างชัดเจน เช่นโซนสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์,โซนสินค้าด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม,โซนสินค้าเครื่องมือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และโซนเกี่ยวกับการประชุมและฝึกอบรม โดยผู้ประกอบ การชั้นนำที่เข้าร่วมอาทิ เอเซอร์, แอคชั่น,เบ็นคิว,คอล์-คอม.อี-ลีด,แฮ็งค์ซิงค์,คิมโปร์ และต้าถุง
สำหรับเบ็นคิว ในการร่วมงานไททรอนิคในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการนำเสนอแบรนด์ และสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งดีลเลอร์และผู้บริโภค ให้มีความเข้าใจเทคโนโลยีของเบ็นคิวมากขึ้น หลังจากที่เบ็นคิวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยขึ้นปีที่ 4 โดยสินค้าหลักๆที่จะนำมาแสดงในงานประกอบด้วยโน้ตบุ๊ก ที่เน้นความบางเบา จอวายด์สกรีน โดยเฉพาะรุ่น T31 และ P41 ,โทรศัพท์มือถือแบรนด์เบ็นคิว ซีเมนส์ สไลด์โฟนรุ่น CL71 ,โปรเจกเตอร์รุ่น CP120 ที่เป็นระบบไร้สาย,แอลซีดี ทีวีขนาดตั้งแต่ 40 นิ้วขึ้นไป
สำหรับการตลาดในครึ่งปีหลัง เบ็นคิวจะใช้โปรดักต์เป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโต เนื่องจากในประเทศไทยเบ็นคิวมีโปรดักต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะมีโน้ตบุ๊กเกือบ 10 รุ่นตั้งแต่ระดับราคา 2 หมื่นกว่าบาทจนถึง 5 หมื่นกว่าบาท โทรศัพท์มือถือที่จะเปิดตัวอีก 6 รุ่น โปรเจกเตอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาด 15-20% เป็นอันดับ 2 ในตลาด แอลซีดีทีวี และมอนิเตอร์ โดยเบ็นคิวจะสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้าของเบ็นคิวให้เกิดกับช่องทางจำหน่าย รวมทั้งเรื่องบริการหลังการขาย
“เบ็นคิวมีแผนที่จะเปิดตลาดคอร์ปอเรต งานโปรเจกต์ให้มากขึ้น รวมทั้งการบุกตลาดต่างจังหวัดในภาคอีสานกับภาคใต้ หลังจากที่ทำได้ค่อนข้างดีในภาคเหนือ”
Company Related Link:
BenQ
นายคริส เหลียง กรรมการผู้จัดการบริษัท เบ็นคิว (ประเทศไทย) กล่าวว่าเบ็นคิวคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้ประมาณ 40-45 ล้านเหรียญสหรัฐ เติบโตจากปีที่ผ่านมาเท่าตัว แบ่งเป็นรายได้จากสินค้าไอทีประมาณ 40% โทรศัพท์มือถือ 40% และสินค้าด้านเอวีประมาณ 20%
เบ็นคิวมองว่าภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและปัจจัยด้านการเมืองไม่ได้ส่งผลกระทบกับยอดขายเบ็นคิวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่กว่า 90% ยังมาจากธุรกิจขายปลีก ส่วนที่เหลือมาจากการขายลูกค้าองค์กร หรือโครงการ นอกจากนี้การที่เบ็นคิวไม่ได้มีส่วนแบ่งในตลาดมากในอันดับที่ 1 หรือที่ 2 ทำให้ ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะวงจรสินค้าด้านไอทีในช่วงครึ่งปีหลังจะมีการเติบโตสูงกว่าช่วงครึ่งปีแรก ถึงแม้เบ็นคิวจะมีรายได้ในครึ่งปีแรกประมาณ 18 ล้านเหรียญก็ตาม แต่เชื่อว่าด้วยการทำตลาดทั้ง Above และ Below the Line การอัดกิจกรรม การจัดโรดโชว์จะทำให้เบ็นคิวทำรายได้ตามที่คาดการณ์ไว้
ในช่วงครึ่งปีหลังเบ็นคิวจะร่วมงานแสดงสินค้าที่สำคัญ 2 งานคืองานไททรอนิค กรุงเทพฯครั้งที่ 1 และงานคอมมาร์ต โดยที่งาน TAITRONICS BANGKOK 2006 จัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่างสมาคมธุรกิจการค้าไทย-ไต้หวัน (TTBA) สมาคมพัฒนาการค้าต่างประเทศของไต้หวัน (TAITRA) สมาคมผู้ผลิตอิเล็กทรอนิกส์และอิเล็กทริคอลแห่งไต้หวัน (TEEMA) สมาคมหอการค้าเอเชียไต้หวัน (ASTCC) และบริษัท ไทเป เวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ (TWTC) โดยเป็นการรวบรวมผู้ผลิตในภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิดของไต้หวัน กว่า 200 บริษัท มาจัดงานแสดงที่ศูนย์ประชุมไบเทค กรุงเทพฯในระหว่างวันที่ 27-31 ก.ค.ที่จะถึงนี้ ซึ่งในงานจะมีการแบ่งโซนสินค้าอย่างชัดเจน เช่นโซนสินค้าประเภทคอมพิวเตอร์,โซนสินค้าด้านการสื่อสารและโทรคมนาคม,โซนสินค้าเครื่องมือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และโซนเกี่ยวกับการประชุมและฝึกอบรม โดยผู้ประกอบ การชั้นนำที่เข้าร่วมอาทิ เอเซอร์, แอคชั่น,เบ็นคิว,คอล์-คอม.อี-ลีด,แฮ็งค์ซิงค์,คิมโปร์ และต้าถุง
สำหรับเบ็นคิว ในการร่วมงานไททรอนิคในครั้งนี้ก็เพื่อเป็นการนำเสนอแบรนด์ และสินค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทั้งดีลเลอร์และผู้บริโภค ให้มีความเข้าใจเทคโนโลยีของเบ็นคิวมากขึ้น หลังจากที่เบ็นคิวเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยขึ้นปีที่ 4 โดยสินค้าหลักๆที่จะนำมาแสดงในงานประกอบด้วยโน้ตบุ๊ก ที่เน้นความบางเบา จอวายด์สกรีน โดยเฉพาะรุ่น T31 และ P41 ,โทรศัพท์มือถือแบรนด์เบ็นคิว ซีเมนส์ สไลด์โฟนรุ่น CL71 ,โปรเจกเตอร์รุ่น CP120 ที่เป็นระบบไร้สาย,แอลซีดี ทีวีขนาดตั้งแต่ 40 นิ้วขึ้นไป
สำหรับการตลาดในครึ่งปีหลัง เบ็นคิวจะใช้โปรดักต์เป็นกลยุทธ์หลักในการสร้างการเติบโต เนื่องจากในประเทศไทยเบ็นคิวมีโปรดักต์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะมีโน้ตบุ๊กเกือบ 10 รุ่นตั้งแต่ระดับราคา 2 หมื่นกว่าบาทจนถึง 5 หมื่นกว่าบาท โทรศัพท์มือถือที่จะเปิดตัวอีก 6 รุ่น โปรเจกเตอร์ที่มีส่วนแบ่งตลาด 15-20% เป็นอันดับ 2 ในตลาด แอลซีดีทีวี และมอนิเตอร์ โดยเบ็นคิวจะสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นคุณภาพสินค้าของเบ็นคิวให้เกิดกับช่องทางจำหน่าย รวมทั้งเรื่องบริการหลังการขาย
“เบ็นคิวมีแผนที่จะเปิดตลาดคอร์ปอเรต งานโปรเจกต์ให้มากขึ้น รวมทั้งการบุกตลาดต่างจังหวัดในภาคอีสานกับภาคใต้ หลังจากที่ทำได้ค่อนข้างดีในภาคเหนือ”
Company Related Link:
BenQ