สตง.รับเรื่องพร้อมเข้าตรวจสอบทางกฎหมาย บอร์ด กสท จับผิดสัญญา บริษัท โปรลิงค์ ว่าผิดทางกฎหมายหรือไม่ ประธานสหภาพ กสท จี้ รมว.ไอซีทีเปลี่ยนบอร์ดยกชุด เหตุบริหารแบบการเมือง อาศัยช่องว่างสุญญากาศไร้ซีอีโอ จนทำให้องค์กรเสียประโยชน์ แข่งขันแบบไร้ทิศทาง
นายวัฒนะ เอี่ยมบำรุง ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ บริษัท กสท โทรคมนาคม (สร.กสท) กล่าวหลังการเข้าพบ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อชี้แจงรายละเอียดข้อมูลหลังจากที่เข้ายื่นหนังสือให้ สตง.ให้ดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมาย พร้อมตรวจสอบการบริหารของคณะกรรมการ (บอร์ด) ตามหนังสือ สร.กสท132/2549 ที่ยื่นต่อ สตง. เมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมาว่า เป็นการเข้าพบเพื่อชี้แจงรายละเอียดตามเอกสารแนบไปพร้อมกับหนังสือ ซึ่งทางคุณหญิงจารุวรรณพร้อมรับเข้าการตรวจสอบ โดยจะขอศึกษารายละเอียดข้อมูลในเอกสารให้ชัดเจน โดยเบื้องต้นจะขอพิจารณาตรวจสอบเรื่องการเสียโอกาสและเสียผลประโยชน์จากผลของการทำสัญญาและอนุมัติให้บริษัท โปรลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศ วีโอไอพี (VOIP) ขาเข้า ก่อน เนื่องจากเรื่องดังกล่าวนั้นทาง สตง.สามารถเข้าดำเนินการตรวจสอบทางกฎหมายได้
ทั้งนี้ สร.กสท ได้นำข้อมูลและปัญหาที่เกิดขึ้นใน กสท เข้ายื่นต่อ สตง.ให้ทำการการตรวจสอบทางกฎหมายจากการบริหารงานของบอร์ด กสท ถึงผลการทำสัญญาดังกล่าว โดยให้ตรวจสอบรายได้ตามสัญญาที่จะต้องได้รับ ซึ่ง กสท ต้องรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานทั้งหมด และสัญญาดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการพิจารณาเห็นชอบตามกฎหมายหรือไม่
“เราจะเดินหน้าในการตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง หลังจากนี้พวกเราจะเข้าพบ นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รองนายกรัฐมนตรีและรักษาการ รมว.ไอซีที ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจากผลการบริการของบอร์ด ทั้งเรื่องการบริหาร การทำสัญญากับฮัทช์ โครงการก่อสร้างสถานีฐานและชุมสายซีดีเอ็มเอภูมิภาค ที่ทุกอย่างนั้นมีความคลุมเคลือ และยังเป็นเรื่องผลประโยชน์ของประเทศชาติ”
อย่างไรก็ตาม การเข้ายื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ สตง.จะเป็นเพียงการตรวจสอบในแง่ของกฎหมายและการบริหารมิชอบ แต่การเข้าพบกับผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ รมว.กระทรวงการคลัง รมว.ไอซีที จะยังคงเดินหน้าต่อไป ซึ่งข้อมูลรายละเอียดจากผลการบริหารและดำเนินงาน สร.กสท ได้รวบรวมรายละเอียดไว้อย่างชัดเจน แต่สำหรับเรื่องการเคลื่อนไหวในระหว่างนี้จะไม่มีการออกมากดดันเรียกร้องกับผู้ที่เกี่ยวข้อง
นายวัฒนะ กล่าวอีกว่า สิ่งที่สหภาพออกมาเคลื่อนไหวกับทุกฝ่ายเพื่อต้องการให้เข้ามาตรวจสอบปัญหาใน กสท ตลอดระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา มีแต่ผลร้ายมากกว่าผลดี ที่จะส่งผลต่อการแข่งขันและการให้บริการในอนาคตของ กสท อาจจะสบปัญหาอย่างล้มเหลวได้ ประกอบกับ กสท เป็นหน่วยงานของรัฐ ที่จะต้องหารายได้เข้าสู่ประเทศ แต่มีปัญหาจากผลการบริการของบอร์ดจนทำให้ความคล่องตัว และผลประโยชน์ของชาตินั้นไม่สามารถทำได้อย่างเต็มที่ และอาจจะมีการถ่ายโอนไปยังกลุ่มบุคคลอื่นที่จะเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากรัฐ โดยอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย และช่วงสุญญากาศจากการไม่มีกรรมการผู้จัดการใหญ่ โดยมีบอร์ดเข้ามาทำหน้าที่ดูแล
“ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุด อยากให้ รมว.ไอซีที เปลี่ยนบอร์ดชุดนี้ เพราะเรื่องราวปัญหาต่างๆ จะได้หมดลงและนำพา กสท แข่งขันในยุคแข่งขันเสรีได้”
นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รองนายกรัฐมนตรี และรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(ไอซีที) กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะทำความเข้าใจและพร้อมเจรจากับทาง สร.กสท ซึ่งตนจะเร่งแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้เกิดความคลี่คลาย ให้ทุกฝ่ายนั้นเกิดความเข้าใจและไม่อยากให้ กสท นั้นได้รับการเสียหายจากผลการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ฝ่ายบริหารได้ออกมาทำการชี้แจงถึงเรื่องดังกล่าว โดยชี้แจงว่าการอนุมัติให้บริษัท โปรลิงค์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านระบบวีโอไอพี ปัจจุบันสัญญาดังกล่าวได้หมดอายุลงแล้ว โดย กสท ไม่ได้ดำเนินต่ออายุสัญญาดังกล่าวแต่อย่างใด สำหรับในส่วนของขั้นตอนการอนุมัติร่างสัญญานั้นได้ผ่านกระบวนการพิจารณาจากคณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย ซึ่งมีตัวแทนจาก กสท และผู้แทนของอัยการสูงสุดทำหน้าที่ตรวจร่างสัญญา จึงไม่จำเป็นต้องผ่านกระบวนการพิจารณาของอัยการสูงสุดอีกครั้ง ซึ่งต่อมาคณะกรรมการ กสท ได้เห็นชอบร่างสัญญาดำเนินการ และให้ กสท ใช้ร่างสัญญาร่วมดำเนินการดังกล่าวเป็นร่างสัญญามาตรฐานในการร่วมดำเนินการตลาดการให้บริการโทรศัพท์ระหว่างประเทศผ่านระบบ Voice over Internet Protocol กับนิติบุคคลอื่นๆ ต่อไป
Company Related Links
สตง.
กสท โทรคมนาคม