เอปสันตั้งประธานคนใหม่ในไทย สานต่อผู้นำด้านภาพดิจิตอลอันดับ 1 รับการเติบโตด้านเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค หลัง “ยาคูวา” ครบวาระ โชว์วิสัยทัศน์ วางกลยุทธ์เจาะทุกกลุ่มตลาด พร้อมเผยผลประกอบการปี 48 ทำรายได้ 2,380 ล้านบาท โฟโต้พรินเตอร์ ยังคงครองแชร์อันดับ 1
นายโตชิยูกิ ยาคูวา ประธาน บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้หมดวาระในการเป็นประธาน บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) แล้ว โดย ไซโก้ เอปสัน คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ของเอปสันทั่วโลก ได้แต่งตั้งนายนาโอยูกิ ซาเอกิ จาก เอปสัน ฮันไบ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อมาดำรงตำแหน่งประธานบริษัทแทน นอกจากไทยยังได้มีการปรับในหลายประเทศทั่วเอเชีย ไม่ว่าจะเป็นสิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย
ในปีงบประมาณ 2548 (เม.ย. 2548 – มี.ค. 2549) ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้ประมาณ 2,380,000,000 บาท โดยรายได้ดังกล่าวมาจากสินค้าประเภทหมึกพิมพ์และวัสดุการพิมพ์ 31% รองลงมาเป็นสินค้าประเภทเครื่องพิมพ์ด็อทเมตริกซ์ถึง 28% ตามด้วยเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 15% โปรเจกเตอร์ 9% และเครื่องพิมพ์มัลติฟังก์ชัน 8% โดยประมาณ
กลุ่มสินค้าเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ททั้งแบบ Single function และ Multi Function ที่ เอปสัน ยังคงสามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุดไว้ได้ อีกทั้งยังคงครองอันดับ 1 ในสินค้าโฟโต้พรินเตอร์ ทั้งในระดับผู้ใช้งานทั่วไปและมืออาชีพที่ต้องการคุณภาพการพิมพ์สูงสุด ขณะเดียวกันสินค้า โปรเจกเตอร์ ยังสามารถสร้างกระแสตอบรับและในอนาคต มีแนวโน้มทางการเติบโตที่ดี โดยสังเกตจากยอดขายที่มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นต่อเนื่อง
“ตลาดสินค้าไอทียังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดด้านการพิมพ์ สอดรับกับการเติบโตของยอดการใช้คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล ที่ในปัจจุบันอุปกรณ์ดังกล่าวเหมือนของประจำครอบครัวและใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ถึงแม้จะมีปัจจัยผลกระทบทางเศรษฐกิจ อาทิ สภาวะน้ำมันขึ้นราคา อัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับตัวสูงขึ้น และสถานการณ์การเมืองที่ขาดเสถียรภาพ แต่ไม่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อ”
นายนาโอยูกิ ซาเอกิ ในฐานะประธาน เอปสัน (ประเทศไทย) คนใหม่กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นตลาดใหญ่ และเป็นตลาดหนึ่งที่คู่แข่งขันมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ในด้านกลยุทธ์ทางตลาด ซึ่งบริษัทแม่ยังได้เล็งเห็นถึงศักยภาพของตลาดที่มีโอกาสขยายตัวสูง ผนวกกับได้คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้จะเติบโตอย่างยิ่งใหญ่ในระยะเวลาอันใกล้ โดยทางเอปสัน คาดหวังว่าตลาดไอทีจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง 5-10% ต่อปี นอกเหนือจากการกำหนดทิศทางการบริหารและวางกลยุทธ์ด้านการขายและการตลาดให้แข็งแกร่งแล้ว ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การทำหน้าที่สานต่อความเป็นผู้นำตลาดด้านภาพดิจิตอลของเอปสันอีกด้วย
เอปสันคาดการณ์มูลค่าตลาดเครื่องพิมพ์ในปีนี้ประมาณ 4,500 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นตลาดเครื่องพิมพ์ด็อทเมตริกซ์ 1,000 ล้านบาท เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 1,500 ล้านบาท เครื่องพิมพ์ออล-อิน-วัน 1,000 ล้านบาท และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ 1,000 ล้านบาท ซึ่งเอปสันมุ่งหวังจะเป็นผู้นำตลาดอันดับ 1 ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยปัจจุบัน เอปสันมีส่วนแบ่งตลาดเครื่องพิมพ์ด็อทเมตริกซ์ 85% อยู่ในอันดับ 1 ของตลาด และจะตั้งเป้าเพิ่มเป็น 90% ในปีนี้ เครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท 30% อยู่ในอันดับ 2 ของตลาด เครื่องพิมพ์ออล-อิน-วัน 25% อยู่ในอันดับ 2 ของตลาด เครื่องพิมพ์เลเซอร์ 20% อยู่ในอันดับ 2 ของตลาด
“ผมมั่นใจมั่นใจว่าจะสามารถนำเอปสันก้าวสู่ผู้นำในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ได้อย่างแน่นอน อีกทั้งจะสร้างตลาดในกลุ่มเซกเมนต์ใหม่ โดยไม่ใช้ราคาเข้ามาเป็นจุดดึงดูด แต่จะใช้เทคโนโลยีงานการพิมพ์และการตอบสนองใช้งาน พร้อมกับพัฒนาช่องทางการขาย ทั้งรีเทลชอป โมเดิร์นเทรด ไปยังผู้ใช้ให้ตรงกลุ่มมากที่สุด”
นายพลพงษ์ องค์วรวุฒิ ผู้อำนวยการบริหาร เอปสัน กล่าวว่า ในปีนี้ เอปสันยังคงให้ความสำคัญกับทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ โดยเอปสันจะแบ่งกลุ่มผลิตภัณฑ์เป็น 1.อิงค์เจ็ท พรินเตอร์ 2.เลเซอร์ พรินเตอร์ 3.โปรเจคเตอร์ 4. POS & Receipt พรินเตอร์ 5.หมึกพิมพ์และวัสดุการพิมพ์ อีกทั้งยังคงมุ่งเน้นตลาดเครื่องพิมพ์ออล-อิน-วัน ตลาดเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่ (Prographic Printer) สำหรับมืออาชีพ และตลาดโปรเจคเตอร์เป็นพิเศษ เนื่องจากตลาดดังกล่าวมีศักยภาพการเติบโตสูง และเอปสัน เองก็มีนวัตกรรมเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งรองรับความต้องการของตลาดอยู่
นอกจากจุดแข็งด้านเทคโนโลยี และคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์แล้ว เอปสันยังมุ่งสร้างความสัมพันธ์กับผู้แทนจำหน่าย โดยวางแผนจัดกิจกรรมกับผู้แทนจำหน่ายทั้งในกรุงเทพ และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี เพื่อให้ความรู้ในตัวผลิตภัณฑ์ และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับตัวแทนจำหน่าย นอกจากนี้ เอปสัน ก็ไม่ได้ละเลยต่อผู้บริโภคทั่วไป โดยจัดทำเบอร์เอปสัน ฮอทไลน์ใหม่ คือ 0-2685-9899 เพื่อให้คำปรึกษาและบริการผู้บริโภคให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุด
Company Related Links :
Epson