xs
xsm
sm
md
lg

อดีตหลวงปู่เณรคำ พระสงฆ์กลายเป็นผู้ต้องหา ใช้ความศรัทธาเปลี่ยนเป็น โล้นพันล้าน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



จากผ้าเหลืองสู่เจ็ตส่วนตัว! เมื่อความศรัทธาถูกเปลี่ยนเป็น "เงิน" และพระสงฆ์กลายเป็นผู้ต้องหาหลบหนีข้ามโลก นี่คือเรื่องราวสุดอื้อฉาวของ อดีตหลวงปู่เณรคำ (นายวีระพล สุขผล) ผู้ถูกพิพากษาจำคุกรวม 114 ปี! ผ้าเหลืองฉาว... โล้นพันล้าน "วีรพล" ผู้แสวงหาแสงและความศรัทธา

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้นที่จังหวัดอุบลราชธานี เมื่อวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2522 นายวีระพล สุขผล ได้ถือกำเนิดขึ้น ชายหนุ่มผู้นี้เลือกเส้นทางใต้ร่มกาสาวพัสตร์ เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดป่าในจังหวัดศรีสะเกษ และได้เป็นที่รู้จักในนาม "เณรคำ"

เณรคำได้สร้างบารมีอันน่าทึ่ง เขาอ้างว่าตนเองมีอิทธิฤทธิ์ สามารถดลบันดาลความโชคดีและทรัพย์สินเงินทองให้กับผู้ที่เลื่อมใสได้ สาวกต่างหลงใหลในคำสอนที่ผสมผสานความเชื่อเหนือธรรมชาติ มีผู้คนนำโฉนดที่ดินมาให้เขาเหยียบเพื่อความเป็นสิริมงคล และเมื่อขายที่ได้จริง เรื่องราวเล่าขานก็ยิ่งเพิ่มความโด่งดัง แม้จะบรรลุเป็นพระอาจารย์แล้วก็ตาม เขากลายเป็นพระสงฆ์ผู้ร่ำรวย เป็นเจ้าของบัญชีธนาคารกว่า 21 แห่ง มีเงินหมุนเวียนรวมกันกว่า 200 ล้านบาท จากเงินบริจาคของมหาชนผู้ศรัทธา

อำนาจและลาภยศที่พระพุทธเจ้าให้ละทิ้ง กลับเป็นสิ่งที่เณรคำยึดไว้แน่น จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2556 สังคมไทยก็ต้องสั่นสะเทือนจาก "คลิปฉาว" ที่หลุดออกมา ภาพของพระสงฆ์ 3 รูป ห่มจีวรสีเหลือง นั่งอยู่ภายในเครื่องบินเจ็ตส่วนตัว รายล้อมด้วยกระเป๋าแบรนด์เนมราคาสูงลิ่ว

ความหรูหรานั้นขัดแย้งกับหลักคำสอนอย่างสิ้นเชิง เมื่อเจ้าหน้าที่เริ่มตรวจสอบอย่างจริงจัง ก็พบว่าเณรคำได้กระทำผิดวินัยสงฆ์ร้ายแรงถึงขั้นต้อง "ปาราชิก" และสิ่งที่ร้ายแรงกว่าคือการขุดคุ้ย "อดีตอันเละเทะ" ที่ถูกซ่อนไว้ใต้ผ้าเหลือง นายวีระพล สุขผล ถูกแจ้งข้อหาอาญาร้ายแรงหลายกระทง ดังนี้
1. ฉ้อโกงประชาชนและฟอกเงิน: เขาได้หลอกลวงให้ประชาชนบริจาคเงิน เพื่ออ้างว่าจะนำไปสร้าง "พระแก้วมรกตองค์ใหญ่ที่สุดในโลก" มูลค่าความเสียหายกว่า 28 ล้านบาท จากผู้เสียหาย 29 ราย แต่กลับนำเงินไปใช้จ่ายส่วนตัว การกระทำนี้จึงนำไปสู่ข้อหาฟอกเงินด้วย 2. พรากผู้เยาว์และกระทำชำเราเด็กหญิง: ความผิดฐานพรากผู้เยาว์และชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปี 3. ความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์: ฐานนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ และอวดอุตริมนุสธรรมผ่านเว็บไซต์ เพื่อสร้างความเชื่อและหลอกลวงประชาชน

การหลบหนีและการสิ้นสุดของอิสรภาพ เมื่อรู้ว่าความจริงเปิดเผย นายวีระพลได้หลบหนีคดีไปไกลถึงประเทศสหรัฐอเมริกา ที่นั่น เขาเปลี่ยนชื่อเป็น พระวิมุติญาณ และใช้ชีวิตในสถานะผู้ลี้ภัย ที่วัดป่าในรัฐแคลิฟอร์เนีย

อย่างไรก็ตาม ทางการไทยไม่ยอมปล่อยให้คดีเงียบหายไป และได้ประสานงานกับตำรวจสหรัฐฯ จนนำไปสู่การบุกจับกุมในปี พ.ศ. 2559 (2016) และส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในแผ่นดินสยาม อิทธิฤทธิ์ที่เคยโอ้อวดไม่สามารถช่วยให้เขารอดพ้นจากเงื้อมมือของกฎหมายได้

ในวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2561 ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาจำคุกนายวีระพล สุขผล เป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน รวมโทษจำคุกทั้งสิ้น 114 ปี แต่เนื่องจากกฎหมายไทยมีความปรานี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) กำหนดให้เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้ว ให้จำคุกได้สูงสุดเพียง 20 ปี เท่านั้น และต้องชดใช้เงินคืนแก่ผู้เสียหาย

จากที่เคยนั่งเครื่องบินเจ็ตหรู นายวีระพล สุขผล ก็ต้องกลายมาเป็นนักโทษที่ต้องชดใช้ความผิดร้ายแรงไปอีกหลายปี เขาได้รับโทษสูงสุดตามกฎหมายไทย และถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ โดยเขากล่าวว่าชีวิตข้างในไม่ได้ลำบากเหมือนที่คิด "เหมือนอยู่ฟรีที่วัด" นี่คือจุดจบอันน่าอื้อฉาวของพระสงฆ์ที่หาผลประโยชน์จากความศรัทธาของประชาชน


กำลังโหลดความคิดเห็น