xs
xsm
sm
md
lg

ตร.แจงปิดคดี“นัทปง”ภาพวงจรปิดชัดยกซด “ไซยาไนด์” ตรงกับหลักฐานสัมผัสลิ้นโดยตรง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



“บิ๊กต๋อง” ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 แถลงปิดคดี “นัทปง” เปิดวงจรปิดหลักฐานชัด ดื่ม “โพแทสเซียมไซยาไนด์” สัมผัสลิ้นโดยตรงจบชีวิตตัวเอง สอดคล้องกับรอยอาเจียนบนพรมปูพื้น



เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 13 ธ.ค.68 ที่สถานีตำรวจภูธรบางกรวย จังหวัดนนทบุรี พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.เดชระพี คงดี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1, พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน 1, พ.ต.อ.จิรายุส วาณิชกูล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี, พ.ต.อ.ศุภชัย ศรีศักดิ์ ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี, พ.ต.อ.กิตติศักดิ์ พงศ์ธนารักษ์ ผู้กำกับการ สภ.บางกรวย และ พ.ต.ท.ชาญชัย วรัญญูรัตนะ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.บางกรวย ร่วมกันแถลงข่าวสรุปความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตปริศนาของ นายณัฐวุฒิ ปงลังกา หรือ “นัทปง” อายุ 35 ปี ผู้สื่อข่าวช่อง 8 ซึ่งเสียชีวิตภายในบ้านพักย่านบางกรวย

การแถลงข่าวครั้งนี้ มีขึ้นภายหลังจากเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของผู้เสียชีวิตอย่างละเอียดเป็นเวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยมีการเชิญพยานบุคคลสำคัญ ได้แก่ นายต้น นายกิตติ ไอซ์สารวัตร รวมถึงญาติของผู้ตาย เข้าร่วมตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ซึ่งจากการตรวจพิสูจน์ทางเคมีโดยกองพิสูจน์หลักฐาน ยืนยันชัดเจนว่า สารที่ตรวจพบคือ “โพแทสเซียมไซยาไนด์” ซึ่งเป็นสารพิษชนิดเดียวกับที่พยานซึ่งเป็นบุคคลใกล้ชิดผู้ตายเคยให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนไว้ก่อนหน้านี้

พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 เปิดเผยว่า ย้อนไปเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านพัก เมื่อเดินทางไปตรวจสอบพร้อมแพทย์และบันทึกสถานที่เกิดเหตุ พบว่าญาติแจ้งว่าเป็นลักษณะนอนหลับเสียชีวิต จึงส่งศพไปตรวจพิสูจน์ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ต่อมาหลังจากนำศพออกจากบ้าน ญาติและบุคคลใกล้ชิดได้เข้าไปพักอาศัยในบ้านหลังดังกล่าว และมีการนำสิ่งของบางอย่าง รวมถึงโทรศัพท์มือถือของผู้ตาย ออกไปตรวจสอบ

จนกระทั่งวันที่ 3 ธันวาคม 2568 เริ่มมีสื่อมวลชนและโซเชียลมีเดียเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวจากโทรศัพท์ของผู้ตาย พร้อมระบุว่ามีสารไซยาไนด์เกี่ยวข้อง ทำให้ตำรวจเริ่มดำเนินการสืบสวนอย่างจริงจังตั้งแต่วันที่ 6 ธันวาคม 2568 โดยสอบปากคำพยานที่อยู่ในเหตุการณ์ 4 ปาก และพยานที่เกี่ยวข้องกับสารไซยาไนด์อีก 1 ปาก รวมเป็น 5 ปาก ซึ่งจากคำให้การพบว่า นายกิตติ เป็นผู้นำสารไซยาไนด์มาให้ผู้ตาย ต่อมามีการสอบสวนเพิ่มเติมจนทราบว่าสารดังกล่าวถูกนำมาให้ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2568

ต่อมาในวันที่ 9 ธันวาคม 2568 ไอซ์สารวัตร ได้นำสารไซยาไนด์มามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่วันที่ 11 ธันวาคม 2568 เจ้าหน้าที่จะเข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุอีกครั้ง ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ลายนิ้วมือแฝง และดีเอ็นเอ พบกล้องวงจรปิดหลายตัว และพบซองบรรจุสารไซยาไนด์อยู่ในตำแหน่งเดิมตามที่พนักงานสอบสวนเคยบันทึกไว้ โดยการตรวจครั้งนั้นมีพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน และญาติผู้ตายเข้าร่วมตรวจสอบพร้อมกัน ซึ่งญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต

ด้าน พล.ต.ต.หญิง สุเจตนา โสตถิพันธุ์ ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐาน 1 เปิดเผยว่า คดีนี้ได้รับความสนใจจากสังคมอย่างมาก หลังพบว่าผู้เสียชีวิตมีสารไซยาไนด์ในร่างกาย จึงมีการประชุมร่วมกับผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2568 โดยนายกิตติให้การรับสารภาพว่าได้นำสารไซยาไนด์มาจากร้านทอง และแบ่งใส่ถุงลักษณะเป็นถุงกาแฟ ซึ่งเมื่อตรวจสอบบ้านก็พบถุงดังกล่าวจริง และจากการตรวจกล้องวงจรปิด พบว่าเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 นายบิ๊กเป็นผู้นำถุงดังกล่าวไปวางไว้ในห้องคาราโอเกะ ใช้เวลาเพียง 9 วินาที ก่อนออกมา

จากการตรวจพิสูจน์ พบว่าสารไซยาไนด์ที่เก็บได้จากร้านทอง สารที่ไอซ์สารวัตรนำไปตรวจ และสารที่พบในบ้าน เป็นสารชนิดเดียวกันทั้งหมด นอกจากนี้ยังตรวจพบสารไซยาไนด์ในคราบอาเจียนบนพรม และผลการชันสูตรศพระบุว่า ลิ้น โคนลิ้น หลอดอาหาร และกระเพาะอาหาร มีลักษณะไหม้อย่างรุนแรง สอดคล้องกับการได้รับสารไซยาไนด์ผ่านทางปากโดยตรงในความเข้มข้นสูง

ขณะที่ พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผู้บังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 1 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดกว่า 10 ตัว ตั้งแต่บริเวณหน้าบ้าน ทางขึ้นบันได ชั้น 2 และห้องคาราโอเกะ พบว่าภาพจากกล้องสอดคล้องกับคำให้การของพยานทั้ง 5 ปาก โดยพบว่ากิตตินำสารมาให้จริง และบิ๊กเป็นผู้นำสารไปเก็บไว้ในห้องคาราโอเกะ ส่วนในวันเกิดเหตุ กล้องจับภาพผู้เสียชีวิตหยิบซองไซยาไนด์จากโต๊ะคอมพิวเตอร์บริเวณบนศีรษะ วันเกิดเหตุเวลาประมาณ 06.19 น. ผ่านไปประมาณ 40 วินาที นัทได้นำไปเก็บไว้ที่เดิม และไม่มีบุคคลอื่นเข้าไปในห้องช่วงเวลาดังกล่าว

ด้าน พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบหลักฐานตั้งแต่วันแรก แต่ยังไม่ทราบสาเหตุการเสียชีวิตในขณะนั้น กระทั่งผลตรวจภายหลังพบว่าเกิดจากสารไซยาไนด์ จึงเรียกพยานทั้งหมดมาสอบปากคำ และเข้าตรวจบ้านอีกครั้งในวันที่ 11 ธันวาคม 2568 ซึ่งพบว่าหลักฐานทั้งหมดสอดคล้องกัน ทั้งตำแหน่งซองสาร กล้องวงจรปิด และคำให้การพยาน จึงสรุปได้ว่าผู้เสียชีวิตเป็นผู้ดื่มสารไซยาไนด์เพื่อยุติชีวิตตนเอง

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายกิตติเพียงรายเดียว ในความผิดฐานมีวัตถุอันตรายประเภทที่ 3 ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนกรณีของไอซ์สารวัตรที่มีการนำสารไซยาไนด์ออกจากที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างพิจารณาเจตนาและพฤติการณ์เป็นรายกรณี ขณะนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับพยานหรือบุคคลอื่นเพิ่มเติม ทั้งนี้ตำรวจระบุว่าคดีดังกล่าวจะถูกนำไปใช้เป็นกรณีตัวอย่างในการปฏิบัติงานของพนักงานสอบสวน เพื่อให้การตรวจสถานที่เกิดเหตุในอนาคตมีความรัดกุม รอบคอบ และเป็นไปตามขั้นตอนมากยิ่งขึ้น












กำลังโหลดความคิดเห็น