xs
xsm
sm
md
lg

สตม.รับลูกนายกฯ สั่งเข้ม 4 มาตรการสกัดฟรีวีซ่ารันแฝงธุรกิจเทา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม



ผบช.สตม.เรียกประชุมผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดเร่งด่วนตามนโบายนายกฯ สั่งเข้มวาง 4 มาตรการสกัดฟรีวีซ่ารันแฝงธุรกิจเทา

วันนี้ (12 พ.ย.) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี รอง ผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม.เปิดเผยว่า ตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และพล.ต.อ.กิตติรัฐ พันธุ์เพชร ผบ.ตร.ที่ประกาศสงครามกับอาชญากรรมไซเบอร์ โดยพล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม.ได้เรียกประชุม รอง ผบช.สตม. และ ผบก.ในสังกัด สตม.ทุกนาย เป็นการด่วน

ซึ่งได้มีการชี้แจงนโยบายของนายอนุทิน และ พล.ต.อ.กิตติรัฐ ที่มอบหมายให้ สตม.เพิ่มความเข้มในการสกัดกั้นการเดินทางของคนต่างชาติที่อาจแฝงตัวเข้ามาในรูปแบบนักท่องเที่ยวเข้าออกราชอาณาจักรไทย เพื่อทำธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการก่ออาชญากรรม โดยเฉพาะ อาชญากรรมไซเบอร์ ทั้งในรูปแบบกลุ่มแก๊งขบวนการ ผู้สนับสนุน กลุ่มฟอกเงินรวมทั้งกลุ่มที่อาจเสี่ยงตกเป็นเหยื่อที่ถูกลวงมา

โดย สตม. ได้วาง 4 มาตรการสำคัญ ดังนี้ 1. ยกระดับ และเพิ่มความเข้มในการตรวจคัดกรองบุคคลที่มีการใช้ ฟรีวีซ่า เข้า-ออก ( in out ) บ่อยครั้งในลักษณะ visa run โดยไม่ได้กลับประเทศภูมิลำเนา ผิดวิสัยนักท่องเที่ยวทั่วไป เพื่อสกัดกั้นบุคคลที่แฝงมาในรูปแบบนักท่องเที่ยว โดยพบว่า คนต่างชาติกลุ่มนี้ ใช้สิทธิยกเว้นวีซ่า เพื่อเข้าไทยได้รวมสูงสุดครั้งละ 90 วัน เข้าออกได้หลายครั้งในรอบปี จึงเป็นโอกาสที่คนต่างชาติบางกลุ่มอาศัยโอกาสแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าไทยเพื่อทำธุรกรรมต่างๆแทนที่จะขอวีซ่ามาให้ถูกประเภทตามเจตนา ทำให้ มีจุดอ่อนในการควบคุมพฤติกรรมในระบบ ดังนั้น ด่าน ตม.ทุกด่าน ทั้งสนามบิน และชายแดน จะใช้มาตรการเข้มคุมการเข้าออกของคนต่างชาติ หากรายใดใช้สิทธิวีซ่ารันซ้ำเกินกว่า 2 รอบ โดยไม่มีเหตุผลที่ชี้แจงได้ ตม. จะพิจารณาปฏิเสธการเข้าเมือง เพื่อให้ไปยื่นขอวีซ่าให้ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ที่แท้จริงต่อไป

ทั้งนี้ ที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 2568 เป็นต้นมา สตม. มีการปฏิเสธการเข้าเมืองของบุคคลต่างด้าวกลุ่มที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว ทางสนามบิน
ไปแล้วประมาณ 2,900 ราย

2.กำชับการสกัดคนต่างชาติที่เคยมีประวัติในระบบบัญชีเฝ้าดูในเขตพื้นที่ชายแดนประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นแหล่งสแกมเมอร์ เช่น ที่แม่สอด จว.ตาก โดยตั้งสมมุติฐานว่า คนต่างชาติกลุ่มนี้เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการเข้าร่วมกระทำผิด หรือตกเป็นเหยื่อ ซึ่ง สตม.เห็นว่า ไม่มีเหตุผลใดที่คนกลุ่มนี้จะต้องเดินทางกลับเข้าไทยอีก นอกจากนั้น คนต่างชาติที่ถูกผลักดันส่งกลับจากไทยในพื้นที่ชายแดนแม่สอด-เมียวดี ซึ่งถูกลงระบบไว้แล้ว หากพบว่า มีการเดินทางเข้าไทยอีก ก็จะถูกปฏิเสธการเข้าเมือง โดยไม่มีข้อยกเว้นเช่นเดียวกัน

3.กำชับ ทุก ตม.จว. ที่รับผิดชอบพื้นที่ชั้นใน ให้เพิ่มความเข้มในการอนุญาตให้ขออยู่ต่อเป็นการชั่วคราว สำหรับกลุ่มคนต่างด้าวที่มีพฤติการณ์ เข้า-ออก ในลักษณะ Visa run แล้วมายื่นขออยู่ต่อโดยหากพบคนต่างด้าวที่มีข้อมูล หรือ พฤติการณ์ดังกล่าว จะไม่อนุญาตให้ต่อวีซ่า หรือ เพิกถอนวีซ่าภายหลังการอนุญาต แล้วผลักดันส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร

และ 4. ฃให้ ตม.ทุก บก.ระดมกวาดล้างคนต่างชาติ ที่อยู่เกินกำหนด overstay โดยให้เกิดผลการปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม และจะสรุปผลการปฏิบัติแก่สาธารณชนต่อไป

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.เชิงรณ ได้ชี้แจงว่า มาตรการดังกล่าว อาจส่งผลกระทบต่อความรวดเร็วในการตรวจหนังสือเดินทางสำหรับคนต่างชาติไปบ้าง โดยเฉพาะสนามบินในช่วงที่มีเที่ยวบินหนาแน่น แต่ยืนยันว่า ใช้เวลาในการตรวจคัดกรองต่อรายอย่างช้าไม่เกิน 45 วินาทีต่อคน โดยเวลารอคิวเข้ารับการตรวจไม่เกิน 40 นาที ซึ่งทาง ตม.สนามบิน จะระดมกำลังเข้าประจำช่องตรวจเต็มทุกช่อง ส่วนคนไทย สามารถเข้าช่องทางตรวจหนังสือเดินทางอัตโนมัติได้เลย ใช้เวลาไม่เกิน 20 วินาที โดยยืนยันว่า ไม่ส่งกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวแต่อย่างใด ตรงกันข้าม กลับเป็นการคัดสรรนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มีคุณภาพในการสร้างรายได้ให้กับประเทศด้วยความมั่นใจมากขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น