xs
xsm
sm
md
lg

"ธรรมนัส" ตรวจน้ำท่วมปทุมฯพร้อมมอบถุงยังชีพชาวบ้านในลำลูกกา เตรียมคุยกทม.แก้ปัญหาระบายน้ำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวคุณภาพชีวิต



“ธรรมนัส” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ปทุมธานี มอบถุงยังชีพช่วยเหลือประชาชนที่เดือดร้อน พร้อมรับฟังปัญหาของชาวลำลูกกา เตรียมนัดหารือแก้ไขปัญหาการระบายน้ำร่วมกับกรุงเทพมหานคร
วันนี้ (6 พ.ย.68) เวลา 09.30 น. ที่ อาคารอเนกประสงค์เทศบาลเมืองคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วยนางสาวอัยรินทร์ พันธุ์ฤทธิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ พร้อมผู้บริหารในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมมอบถุงยังชีพให้กับประชาชน โดยนายเอกวิทย์ มีเพียร ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี มอบหมายให้ นายดงพล รุจิธรรมธัช ปลัดจังหวัดปทุมธานี ให้การต้อนรับ ร่วมด้วย พลตำรวจโท คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นายวีรพจน์ ปานนุ่ม นายกเทศมนตรีเมืองคูคต นายกเทศมนตรีเมืองลำสามแก้ว, นายกเทศมนตรีเมืองคลองหลวง หัวหน้าส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดปทุมธานี และประชาชนชาวอำเภอลำลูกกา ร่วมให้การต้อนรับกว่า 700 คน

โอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวให้กำลังใจแก่ประชาชนในที่ประสบปัญหาน้ำท่วมจากเหตุพายุที่พัดเข้าประเทศไทย และได้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นที่ ในเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ ปัญหาการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่อำเภอคลองหลวง (ทม.คลองหลวง)และปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองคูคตและลำสามแก้ว ซึ่งเกี่ยวข้องกับการระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร โดยรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งการมอบหมายให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยทันที พร้อมนัดหมายประชุมหารือกับทาง กทม. และส่วนที่เกี่ยวข้องในวันอังคารหน้า

จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมคณะได้มอบถุงยังชีพ พร้อมด้วยพันธุ์พืช และพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่ประชาชนในพื้นที่ตำบลคูคต และเดินทางต่อไปยังวัดลาดสนุ่น อำเภอลำลูกการับฟังบรรยายสรุปเรื่องการบริหารจัดการน้ำ และปัญหาน้ำท่วมอันเกิดจากฝนตกหนักในพื้นที่ พร้อมทั้งพูดคุยให้กำลังใจพบปะประชาชน และมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบ อีกประมาณ 300 คน ก่อนเดินทางกลับ










กำลังโหลดความคิดเห็น