ผบช.ภ.1 ประชุมผู้ใต้บังคับบัญชาในสังกัดเกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์บริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งความคดีสแกมเมอร์
วันนี้ (1 พ.ย.) ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผบช.ภ.1 ได้เรียกประชุมตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชาในพื้นที่ภาค 1 ทั้ง 9 จังหวัด ในเรื่องที่เกี่ยวกับการจัดตั้งศูนย์บริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีของ ภ.จว. ในสังกัด ภ.1 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งความคดีสแกมเมอร์ในภาพรวมของจังหวัด เพื่อให้การดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯ ดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย
โดยมี พล.ต.ต.อรรถพล อนุสิทธิ์ รอง ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สถาพร เอมโอษฐ์ รอง จตร. พล.ต.ต.ภาณุเดช สุขวงศ์ รอง ผบช.สง.ก.ตร., พล.ต.ต.เดชรพี คงดี ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.จักริน พันธ์ทอง รอง ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พร้อมด้วย รอง ผบก.ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 ผกก.สส.ภ.จว.ในสังกัด ภ.1 ผกก.สภ.เมืองในสังกัด ภ.1 ผกก.สภ.พระนครศรีอยุธยา และเจ้าหน้าที่ ศปอส.ภ.1 เข้าร่วมประชุมเพื่อชี้แจงแนวทางปฏิบัติอย่างพร้อมเพรียง
พล.ต.ท.วัฒนา เปิดเผยว่า ตนมีนโยบายที่จะบริหารจัดการคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือคดีสแกมเมอร์ ที่อยู่ในความรับผิดชอบในภาพรวมให้มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ลดขั้นตอนและระยะเวลาการปฏิบัติงาน สร้างมาตรฐานบุคลากรให้มีคุณภาพเป็นแนวทางเดียวกัน และเป็นการเพิ่มความเชื่อมั่นในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อประชาชนในการรับแจ้งความคดีสแกมเมอร์อาชญากรรมทางเทคโนโลยี จึงมีแนวความคิดที่จะจัดตั้งศูนย์ดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นศูนย์กลางในการรับแจ้งความคดีสแกมเมอร์ให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมทั้งการรับแจ้งเหตุทางออนไลน์ การสืบสวนติดตาม และการดำเนินคดีในรูปแบบดิจิทัล
ผบช.ภ.1 กล่าวเพิ่มเติมว่า การเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องการจัดตั้งศูนย์สแกมเมอร์นี้ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ ตำรวจยุคใหม่ ใช้เทคโนโลยี เพื่อประชาชนปลอดภัย ที่ตำรวจภูธรภาค 1 เดินหน้าผลักดันอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างระบบสืบสวนสอบสวนที่ทันสมัย และตอบโจทย์ภัยคุกคามในโลกออนไลน์ที่ซับซ้อนมากขึ้นในปัจจุบัน
สำหรับการจัดตั้งศูนย์บริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในแต่ละจังหวัด เป็นแนวทางสำคัญที่ตำรวจภูธรภาค 1 ผลักดันอย่างจริงจัง เพื่อให้ทุกหน่วยมีศูนย์กลางข้อมูลกลาง เชื่อมโยงกับระบบส่วนกลางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะในยุคที่อาชญากรรมเคลื่อนไหวในโลกออนไลน์ เราต้องใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีเป็นอาวุธ เพื่อให้การทำงานของตำรวจทันต่อสถานการณ์ ทั้งการสืบสวน วิเคราะห์ และตอบสนองต่อเหตุได้รวดเร็วขึ้น จึงได้มอบนโยบายให้แต่ละจังหวัดเร่งพัฒนาศักยภาพเจ้าหน้าที่ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ตำรวจทุกระดับสามารถใช้เครื่องมือ AI และฐานข้อมูลกลางได้อย่างเต็มศักยภาพ
จากนั้น พล.ต.ท.วัฒนา พร้อมคณะได้ตรวจเยี่ยม ศูนย์รับแจ้งความและบริหารคดีอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นต้นแบบในการพัฒนาระบบรับแจ้งเหตุออนไลน์ของภาค 1 ซึ่งศูนย์ดังกล่าวใช้เทคโนโลยี AI และระบบวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์ ในการช่วยตรวจจับ วิเคราะห์ และเชื่อมโยงพฤติกรรมของมิจฉาชีพออนไลน์ เพื่อให้การสืบสวนดำเนินคดีมีความรวดเร็ว แม่นยำ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น


