รปภ.หวังรวยทางลัดขนยาบ้ากว่า 6 แสนเม็ด ไอซ์ 30 กก. ลงภาคใต้ รวมมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท
วันที่ 24 ตุลาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ รอง ผบช.ตชด. (ปป.) พร้อมด้วยพล.ต.ต.พหล เกตุแก้ว ผบก.ตชด.ภาค 4 ผบ.ฉก.ตชด.จชต. พล.ต.ต.จักรเพชร เพชรพลอยนิล ผบก.ตชด.ภาค 1 พร้อมชุดสืบสวนได้แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ประกอบนายมูฮัมหมัด มะโระ อายุ 34 ปี อาชีพ รปภ.อยู่บ้านเลขที่ 47/1 ม.1 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นายมูฮัมหมัดไซฟู เงาะ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 93/7 ม.7 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส นายณัฏฐนันท์ สะมะแอ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 241 ม.2 ต.จวบ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 680,000 เม็ดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) ประมาณ 30 กิโลกรัม รถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน รถยนต์ 2 คัน
พล.ต.ต.ปกปภพ บดีพิทักษ์ รอง ผบช.ตชด. (ปป.) กล่าวว่าสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568 เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับว่านาย ณัฏฐนันท์ สะมะแอ จะให้สายลับหานักบินเพื่อลอบลำเลียงยาเสพติด(ยาบ้า ยาไอซ์) จากพื้นที่ ลูกค้าในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยติดต่อผ่านแอฟพลิเคชั่น LINE
ทางด้าน พล.ต.ต.ปภปภพ บดีพิทักษ์ รอง ผบช.ตชด. (ปป.) กล่าวอีกว่า กลุ่มเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ได้เฝ้าดูพฤติกรรมมานานแล้ว จนในครั้งนี้ ทราบว่าจะมีการลักลอบขนยาเสพติดล๊อตใหญ่จากภาคอีสาน ลง ภาคใต้ จึงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปลอมตัวเป็นนักบิน เพื่อติดต่อรับส่งของ จนสามารถนำไปสู่การจับกุม 3 ผู้ต้องหา ซึ่งประกอบอาชีพเป็น รปภ. พร้อมด้วย ยาบ้า 680,000 เม็ด และ ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม ซึ่งถ้าขอทั้งหมดลงไปยังพื้นที่ภาคใต้ได้จะมีมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เบื้องต้นทั้ง 3 คนรับสารภาพ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ให้สายลับส่งคิวอาร์โค้ดของนักบิน(เจ้าหน้าที่ตำรวจ) ส่งไปให้ นายณัฏฐนันท์ฯ ผ่านแอฟพลิเคชั่น Line ดังกล่าว จากนั้นมี Line ได้ติดต่อมาหานักบิน (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) และได้คุยเรื่องการลักลอบ ลำเลียงยาเสพติด(ยาบ้า ยาไอซ์) หลังจากที่นักบินส่งมอบยาเสพติด (ยาบ้า ยาไอซ์) ให้กับลูกค้าของนายณัฏฐนันท์ฯ ใน พื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้เรียบร้อยแล้ว จากนั้นนายณัฏฐนันท์ฯ ได้บอกกับนักบินว่าให้เดินทางมายังพื้นที่กรุงเทพฯ โดย ตนจะติดต่อหานักบินอยู่เรื่อยๆ และบอกกับนักบิน(เจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเมื่อเดินมาใกล้ถึงพื้นที่ดังกล่าวให้ติดต่อมาหาตน ตนจะส่งโลเคชั่น ไปในแอฟพลิเคชั่น Line เพื่อนัดพื้นที่ส่งมอบยาเสพติด (ยาบ้า,ยาไอซ์)
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 10.30 น. นักบิน(เจ้าหน้าที่ตำรวจ) จึงได้ติดต่อไปหานาย ณัฏฐนันท์ฯ ว่าตอนนี้ใกล้ถึงแล้ว นายณัฏฐนันท์ฯ จึงได้ส่งโลเคชั่น พื้นที่นัดส่งมอบยาเสพติด(ยาบ้า ยาไอซ์) กับนักบิน (เจ้าหน้าที่ตำรวจ)และได้บอกกับนักบิน(เจ้าหน้าที่ตำรวจ)ว่า ให้เดินทางไปรอยังจุดที่ตนส่งโลเคชั่นให้ไว้ได้เลยจะมีคนของ ตนนำยาเสพติด(ยาบ้า ยาไอซ์) โดยใช้รถยนต์ยี่ห้อ Mazda2 สีดำ ไปส่งมอบยาเสพติด(ยาบ้า ยาไอซ์)ให้กับนักบิน (เจ้าหน้าที่ตำรวจ) จากนั้นสามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน พร้อมด้วยของกลางยาเสพติด จำนวน 680,000 เม็ด ยาไอซ์ 30 กิโลกรัม จากการขยายผลสอบถามข้อมูลผู้ถูกจับกุมทั้ง 2 ได้ให้ข้อมูลว่า นายณัฏฐนันท์ฯ เป็นคนติดต่อ ว่าจ้าง คาดว่าน่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่ไปยังภาคใต้แล้ว โดยใช้รถยนต์เก๋ง มิซซูบิชิ สีเทา แผ่นป้าย 5ขส 1393 กทม. จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงฯ ให้ช่วยสกัดรถยนต์เก๋งคันดังกล่าว ต่อมาเวลา ประมาณ 19.00 น.เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงก็สามารถสกัดรถยนต์เก๋ง คันดังกล่าวได้ และโดยมีนายณัฏฐนันท์ สะมะ แอ ผู้ถูกจับกุมที่ 3 เป็นคนขับฯได้ที่จุดเกิดเหตุที่ 3 เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีอาชีพเป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่กรุงเทพแต่เงินเดือนไม่พอใช้ จึงได้รับจ้างขนส่งโดยได้ค่าจ้างเป็นค่าน้ำมัน 6000 บาท และเมื่อของส่งถึงสถานที่นัดหมายจะได้เงินค่าจ้างเพิ่มอีก 400,000 บาท มูลค่าของกว่า 20 ล้านบาท จากนั้นจึงได้นำตัวนายณัฏฐนันท์ สะมะแอ ผู้ถูกจับกุมที่ 3 พร้อม ด้วย รถยนต์เก๋ง มิตซูบิชิ มิราส สีเทา หมายเลขทะเบียน 5ขส 1393 กทม. มาที่ บก.ตชด.ภาค 1 และจัดทำบันทึกจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป


