อุกอาจ เจ้าของร้านเสริมสวย วัย 57 ปี ถูกแก๊งเงินกู้บุกทวงหนี้ตบปากแตกเย็บ 8 เข็ม ถกกางเกงโชว์อวัยวะเพศ เปิดก้นโชว์
เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 23 ต.ค. 68 นายเกียรติคุณ ต้นยาง (ทนายโป้ง) สส.นนทบุรี เขต 7 พรรคประชาชน , คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้พานางบงกช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี เจ้าของร้านเสริมสวย ผู้เสียหาย เดินทางเข้าแจ้งความที่สภ.บางบัวทอง หลังถูกแก๊งปล่อยเงินกู้บุกมาทวงเงินที่ร้านและทำร้ายร่างกายจนล้มศีรษะฟาดพื้นบาดเจ็บ ทำลายทรัพย์สินภายในร้านพังเสียหาย เพราะไม่พอใจที่ค้างส่งเงินกู้ 5 วัน เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านเสริมสวย ม.9 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เมื่อวันที่ 22 ต.ค. 68 ที่ผ่านมา
ภาพจากกล้องวงจรปิด เวลา 20.43 น. วันที่ 22 ต.ค. 68 จับภาพกลุ่มชายฉกรรจ์ จำนวน 3 คน นายเอ (นามสมมุติ) หัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้ (สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ) ขับขี่รถจยย.คันสีเหลือง (ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน) พร้อมด้วยนายบี , นายซี (นามสมมุติ) ลูกน้องแก๊งปล่อยเงินกู้ ขับขี่รถจยย.คันสีน้ำเงิน (ไม่ทราบรุ่นและหมายเลขทะเบียน) เข้ามาทวงเงินกู้ที่หน้าร้านเสริมสวยของผู้เสียหาย จากนั้น นายเอ (นามสมมุติ) หัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้ ได้ถอดกุญแจรถจยย.ที่เสียบคารถของผู้เสียหายไว้หน้าร้านโยนทิ้งข้ามฝั่งถนน พร้อมพูดว่า “ปากดีนักนะอีสัตว์” พร้อมเคาะประตูกระจกเรียกให้ผู้เสียหายออกมา ส่วนลูกน้องแก๊งปล่อยเงินกู้ 2 คน ได้เดินไปปล่อยลมล้อรถจยย. และนำอุปกรณ์บางอย่างไปกรีดที่ล้อรถจยย.ของผู้เสียหายทั้ง 2 ล้อ
ต่อมา นายเอ (นามสมมุติ) หัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้ ได้ถอดกางเกงขาสั้น หันอวัยวะเพศ และก้นเข้าไปในร้าน พร้อมตะโกนว่า “มึงไม่ต้องถ่ายกูอีสัตว์ ถ่ายตูดกูนี่ ถ่ายคxยกูนี่” “ปากดีเดี๋ยวเจอกู” ก่อนจะขึ้นรถจยย.กำลังจะขับออกไป ผู้เสียหายจึงได้เดินมาเปิดประตูกระจก พร้อมตะโกนบอกให้มาเอาเงินกำลังจะโอนให้ นายเอ (นามสมมุติ) หัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้ จึงตะโกนด่าและลงจากรถจยย.เดินเข้าไปชี้หน้าบริเวณประตูร้าน พร้อมโต้เถียงกันเรื่องจำนวนเงินกู้ที่เหลือและต้องโอนคืน ก่อนจะใช้มือตบผู้เสียหาย 3 ครั้ง เตะ 1 ครั้ง และขับขี่รถจยย.ออกไป
นางบงกช (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านเสริมสวยผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อเดือน มิ.ย. มีลูกค้ามาทำผมที่ร้านและสอบถามว่าตนสนใจกู้เงินมั้ย มีลูกพี่ปล่อยเงินกู้อยู่ ตนกำลังจะย้ายร้านและไม่มีเงินพอดีจึงตกลงกู้เงินจำนวน 10,000 บาท โดยหักส่งเงินกู้ล่วงหน้า 1 วัน จำนวน 500 บาท และค่าเอกสาร 500 บาท เท่ากับได้รับเงินเพียง 9,000 บาท โดยจะต้องส่งเงินกู้วันละ 500 บาท จำนวน 24 วัน รวม 12,000 บาท หลังจากนั้นก็ส่งเงินมาเรื่อยๆจนได้ย้ายร้าน ทำให้มีลูกค้าน้อยลงเลยติดต่อไปขอส่งเงินกู้เหลือวันละ 300 บาทได้ไหม ทางคนปล่อยเงินกู้ก็ตกลง ตนก็ได้ส่งเงินกู้มาเรื่อยๆ มีขาดส่งบ้างบางวัน คนปล่อยเงินกู้บอกว่าถ้าขาดส่งจะเข้ามายึดของภายในร้าน มีลุงที่รู้จักเป็นทหารเก่ามาช่วยพูดเคลียร์ให้ว่าส่งเงินกู้ไปแล้วเท่าไหร่ เหลือเท่าไหร่ ซึ่งตนส่งเงินกู้ไปแล้วทั้งหมด 9,400 บาท และจะขอปิดยอดวันนี้ 6,000 บาท โดยลุงจะเป็นคนช่วยออกให้เพื่อให้เรื่องจบ
นางบงกช (ขอสงวนนามสกุล) เจ้าของร้านเสริมสวยผู้เสียหาย กล่าวต่ออีกว่า ผ่านไปประมาณ 3-4 วัน ลูกน้องของคนปล่อยเงินกู้ทักมาอีกบอกว่าได้จ่ายส่วนต่างไปให้แทน จำนวน 2,000 บาท และให้ตนจ่ายคืนด้วย ตนเลยขอต่อรองส่งวันละ 200 บาท และก็ส่งเงินกู้เรื่อยๆมา ขาดส่งบ้างบางวัน จนเหลือยอดอีก 1,000 บาท หลังจากนั้นตนได้ขาดส่งมา 5 วัน วันเกิดเหตุขณะกำลังอาบน้ำจะไปบ้านสวน ลูกน้องแก๊งปล่อยเงินกู้มาเคาะประตูเรียก ก่อนที่จะตามหัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้มายืนโวยวายอยู่หน้าร้าน ตนจึงรีบโอนเงินไปให้ก่อน 200 บาท และเปิดประตูไปบอก จากนั้นหัวหน้าแก๊งปล่อยเงินกู้ได้ลงจากรถจยย. เข้ามาตบจนตนล้มลง และเตะซ้ำปากแตก เย็บไป 8 เข็ม ฟันหน้าแตก 1 ซี่ เอากาวหยอดรูกุญแจประตูร้าน ขว้างกุญแจรถจยย.ทิ้ง และกรีดยางรถจยย.ของตนด้วย หลังจากโดนทำร้ายก็กลับไปและยังทักมาทวงเงินอีกเรื่อยๆ ตนคิดว่าเงิน 2,000 บาท ที่มาเรียกเก็บทีหลังลูกน้องน่าจะมาเก็บกันเอาเอง และปัจจุบันตนยังติดค้างเงินอยู่อีก 1,000 บาท ตนรู้สึกกลัว และไม่ปลอดภัยจึงทักไปขอความช่วยเหลือจากท่าน สส.ทนายโป้ง วันนี้อยากขอบคุณที่ลงมาช่วยเหลือและดูแลประชาชนที่เดือดร้อน ตอนนี้รู้สึกเข็ด ต่อไปนี้คงไม่เอาอีกแล้ว
ด้าน สส.ทนายโป้ง กล่าวว่า เบื้องต้นตนได้รับเรื่องร้องเรียนจากคุณป้าเจ้าของร้านเสริมสวย ที่ถูกทำร้ายจากแก๊งปล่อยเงินกู้ และกลัวจะไม่ปลอดภัย เพราะเหตุเกิดเมื่อคืนยามวิกาล ซึ่งมีการกระทำที่ผิดกฎหมายหลายข้อ 1.การเรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด 2.ผิด พ.ร.บ.การทวงหนี้ 3.การทำร้ายร่างกาย แต่ต้องรอใบรับรองแพทย์ว่าจะร้ายแรงขนาดไหน เบื้องต้นตนจะพาคุณป้าไปแจ้งความ เพราะเห็นพฤติกรรมชัดเจนในการทำร้ายร่างกายจากกล้องวงจรปิด เห็นทั้งใบหน้าและรถจยย.ที่ใช้ก่อเหตุชัดเจน ซึ่งตนได้มอบคลิปกล้องวงจรปิดให้กับพนักงานสอบสวนเรียบร้อยแล้ว เชื่อฝีมือของตำรวจสภ.บางบัวทอง ว่าทำงานได้รวดเร็วและดีมาตลอด กรณีแบบนี้ไม่ได้เพิ่งเกิด แต่มีมาเสมอ อยากให้ช่วยกันติดตามและป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำขึ้นอีก ในฐานะที่ตนเป็นคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร จะติดตามเรื่องนี้ว่าจะนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้หรือไม่
ด้าน พ.ต.อ.พฤฒ จำรูญศาสน์ ผกก.สภ.บางบัวทอง ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


