แพทย์เผยเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ชื่อดังถูกสิงโตรุมขย้ำ เมื่อนำตัวมาถึงห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ได้มีการกู้ชีพทันที เพราะคนไข้ไม่มีชีพจรแล้ว ด้านภรรยาผู้ตายเผยสามีทำงานนี้มานานและรักงานนี้ ไม่เคยถูกสัตว์ทำร้าย ไม่มีปัญหากับครอบครัวและไม่มีอาการเจ็บป่วยหรือมีอาการทางจิตใดๆ
วันนี้ (10 ก.ย.) พญ.ณิชากร วงค์คม แพทย์เวชศาสตร์ฉุกเฉิน เปิดเผยกรณีนายเจียน อายุ 58 ปี เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ถูกสิงโตรุมขย้ำจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ในพื้นที่โซนสวนสัตว์เปิด (ซาฟารีปาร์ค) สวนสัตว์ซาฟารีเวิลด์ ถนนปัญญา-อินทรา แขวงสามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กทม.ว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้นำร่างของ นายเจียน มาส่งที่ห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลอินทรารัตน์ เมื่อเวลา 12.10 น.ที่ผ่านมา
ในระหว่างนั้นตนเองเป็นแพทย์เวรประจำห้องฉุกเฉิน เมื่อตัวของนายเจียนมาถึงทางแพทย์ ก็ได้มีการกู้ชีพทันที เนื่องจากว่าคนไข้ไม่มีชีพจรแล้ว แต่ปรากฏว่าการกู้ชีพไม่เป็นผลเนื่องจากบริเวณร่างกายของนายเจียนมีบาดแผลสาหัสหลายตำแหน่ง ซึ่งบาดแผลดังกล่าวก็อาจจะทำให้นายเจียนเสียชีวิตได้ แต่ไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลตำแหน่งของบาดแผลได้
ด้าน นพ.ประภาส ธีระกุล ผอ.โรงพยาบาลอินทรารัตน์ กล่าวว่า ขณะนี้ร่างของผู้ตายได้ถูกนำไปเก็บในห้องรักษาศพ ซึ่งอยู่ในช่วงระหว่างการพูดคุยกับทางญาติของผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะนำร่างของผู้เสียชีวิต ส่งชันสูตรที่โรงพยาบาลไหน แต่ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจากว่า กรณีนี้เป็นการเสียชีวิตแบบผิดธรรมชาติ
ส่วนจะสามารถส่งร่างของนายเจียน ไปผ่าชันสูตรพลิกศพ ได้เมื่อไหร่ ทางนายแพทย์ประภาสบอกว่า จะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน โดยไม่ได้มีช่วงเวลาจำกัด เนื่องจากว่า การส่งศพไปตรวจชันสูตรนั้นสามารถทำได้ 24 ชั่วโมง
ด้าน น.ส.รัตนาภร จิตรภักดี อายุ 57 ปี ภรรยาของนายเจียน รังคะรัสมี อายุ 58 ปี เปิดเผยทั้งน้ำตา หลังจากสูญเสียสามีอย่างกะทันหันว่า รู้สึกตกใจและช็อกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก่อนหน้านี้ มีเจ้าหน้าที่ที่ซาฟารีเวิลด์โทรมาแจ้งน้องชาย น้องชายจึงรีบโทรมาหาตน จากนั้นทางครอบครัวก็รีบมาที่โรงพยาบาลทันที เมื่อมาถึงยอมรับว่าไม่กล้าเข้าไปดูหน้าของสามี เนื่องจากยังทำใจไม่ได้
น.ส.รัตนาภร กล่าวต่อว่า สามีทำงานอยู่ที่ซาฟารีเวิลด์มาตั้งแต่สมัยยังหนุ่ม จนตอนนี้ใกล้จะเกษียณอายุแล้ว เขาเป็นคนรักงานนี้มาก รักสัตว์ เป็นคนใจเย็น รอบคอบ เมื่อ 2 วันก่อน เรายังคุยกันถึงชีวิตหลังเกษียณ สามีมีความฝันว่าจะนำเงินเกษียณที่ได้มาไปซื้อที่ประมาณ 1 ไร่ ที่ต่างจังหวัด แล้วอาศัยอยู่ด้วยกัน 2 คนในบั้นปลายชีวิต แล้วก็ประกอบอาชีพเกษตรกร
ส่วนหน้าที่ของสามี ตนไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่รู้ว่ามีส่วนรับผิดชอบในการดูแลสิงโตกับเสือมานาน ตนมักจะคอยบอกเสมอว่าทำงานกับสัตว์ดุร้ายจะต้องระมัดระวัง เพราะเราเดาใจมันไม่ถูก ซึ่งสามีก็ทราบดี ที่ผ่านมาสามีไม่เคยได้รับบาดเจ็บจากการที่ถูกสัตว์ทำร้าย มีเพียงแค่ได้รับบาดแผลจากรถยนต์เท่านั้น
ทั้งนี้สิ่งที่อยากจะบอกกับสามีคือ ในเมื่อเราเดินคนละทางกันแล้ว ยังรัก เป็นห่วง และคิดถึงมาก เขาตั้งใจทำงานทุกวันเพื่อครอบครัว เมื่อเสาหลักของครอบครัวขาดไป ยอมรับว่าจากนี้ชีวิตคงลำบาก เพราะที่ผ่านมาสามีจะเป็นคนคอยช่วยเหลือเตรียมของให้ สำหรับไปขายในช่วงเช้าทุกวัน สามีเป็นคนเข้มแข็งมาก ไม่เคยท้อเลย มีแต่เราที่อ่อนแอ สามีก็ให้กำลังใจเสมอ
น.ส.รัตนาภร กล่าวต่อว่า กระแสสังคมตั้งคำถามมากมายถึงเรื่องสุขภาพของสามี ขอยืนยันและอยากขอความเป็นธรรมให้กับสามีว่าที่ผ่านมาสามีไม่ได้มีความเครียด ไม่ได้มีปัญหาครอบครัว หรือป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ไม่เคยยืนเหม่อลอย และไม่ได้มีอาการเจ็บป่วย ย้ำว่าไม่มีประวัติการรักษาอาการทางจิตด้วย
ส่วนสาเหตุที่ทำไมสามีถึงต้องลงจากรถนั้น ตนไม่ทราบรายละเอียด ขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่ได้รับการติดต่อจากบริษัท แต่มองว่าเรื่องดังกล่าวควรจะต้องมีคนรับผิดชอบเพื่อความเป็นธรรมกับชีวิตของคนหนึ่งคนที่ตั้งใจทำงานมาตลอดแทบไม่ได้หยุด