MGR Online - “ทักษิณ ชินวัตร” นอนเรือนจำกลางคลองเปรมคืนแรก นอนหลับสนิท ทานอาหารได้ปกติ ไม่ร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ ปรับตัวได้ จิตใจยังดี กักโรค 5 วัน
วันนี้ (10 ก.ย.) รายงานข่าวจากกรมราชทัณฑ์ ชี้แจงกรณีเรือนจำกลางคลองเปรม หลังรับตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไว้คุมขังตามคำพิพากษาของศาลให้บังคับโทษจำคุกแก่จำเลย โดยให้จำคุก 1 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน โดยอาการนอนห้องกักโรคคืนแรก พบว่า คืนวานนี้ (9 ก.ย.) นายทักษิณ สามารถนอนหลับได้ ปรับตัวได้เป็นอย่างดี ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เรือนจำ ส่วนการรับประทานอาหาร สามารถรับประทานอาหารได้ครบ ยังไม่ได้มีการร้องขอสิ่งใดเป็นพิเศษ
ส่วนเรื่องกระบวนการแรกรับผู้ต้องขังเข้าใหม่ แม้ว่าจะเป็นการย้ายการคุมขังออกจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมายังเรือนจำกลางคลองเปรม แต่เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกระบวนการครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสุขภาพร่างกายโรคประจำตัว การใช้ยารักษาโรค ดูเรื่องสุขภาพจิตใจ พบว่าโดยรวมเป็นไปในทิศทางที่ดี
รายงานข่าวกรมราชทัณฑ์ เผยต่อว่า ส่วนกรณีที่เป็นผู้ต้องขังคดีรายสำคัญเช่นนี้ การเข้าไปคุมขังภายในเรือนจำ ก็จะต้องได้รับการดูแลความปลอดภัยอย่างสูงสุด โดยเฉพาะการมอบหมายให้ผู้ต้องขังที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ช่วยพนักงานเรือนจำฯ คอยดูแลและให้ความช่วยเหลือ ซึ่งผู้ต้องขังรายดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ต้องขังที่มีความประพฤติดีอยู่แล้ว จึงจะได้เป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่เรือนจำ การดูแลความปลอดภัยของผู้ต้องขังถือว่าเป็นมาตรฐานสากล แต่หากเป็นผู้ต้องขังสำคัญเช่นนี้ ก็จะต้องมีมาตรการเข้มข้นเข้มงวด เพราะหากเกิดอันตรายใดเกิดขึ้นระหว่างที่ผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำ ก็จะเป็นปัญหาและอุปสรรคความรับผิดชอบที่ปฏิเสธไม่ได้ของเรือนจำดังกล่าวที่คุมขังอยู่
อีกทั้ง หากมองเรื่องทางการเมือง ก็จะต้องระวังในส่วนของคนที่ไม่ได้ชอบด้วย เพราะในเรือนจำกลางคลองเปรมทราบว่ามีผู้ต้องขังคดีทางการเมืองอยู่จำนวนหนึ่ง มีทั้งกลุ่มพรรคพวกเดียวกัน และคนละกลุ่มการเมืองกัน นอกจากนี้ เมื่อนายทักษิณ ครบกำหนดการกักโรคโควิด ก็จะต้องได้รับการพิจารณาจำแนกแยกแดน ซึ่งแดนขังที่มีความเป็นไปได้ อาทิ แดน 6 แดนแรกรับ/ผู้ต้องขังป่วย/ผู้ต้องขังชรา คุมขังผู้ต้องขังที่มีกำหนดโทษไม่เกิน 50 ปี หรือแดน 7 แดนการศึกษาและพัฒนาจิตใจ
รายงานข่าวภายในกรมราชทัณฑ์ เผยด้วยว่า ส่วนกรณีโครงการพักการลงโทษนั้น ด้วยความที่นายทักษิณได้รับพระราชทานอภัยลดโทษเหลือ 1 ปี ซึ่งตามหลักการจะต้องจำคุกมาแล้ว 1 ใน 2 จึงจะเข้าโครงการพักโทษได้ ดังนั้น ในกรณีของนายทักษิณ คือ 6 เดือน เมื่อรับโทษมาแล้ว 6 เดือน ก็จะได้พักโทษกลับไปคุมประพฤติที่บ้านตามขั้นตอน แต่อย่างไรแล้วด้วยความที่นายทักษิณ อายุ 76 ปี ก็มีสิทธิ์ที่จะเข้าโครงการพักการลงโทษกรณีเหตุพิเศษได้ แต่อย่างไรก็ต้องรับโทษมาให้ได้ห้วงเวลาตามที่เงื่อนไขกำหนดก่อน
รายงานข่าวกรมราชทัณฑ์ เผยอีกว่า แม้นายทักษิณ จะเหลือโทษจำคุก 1 ปี แต่ระหว่างที่คุมขังอยู่นั้น หากมีพระราชทานอภัยโทษเป็นการทั่วไป ก็ถือว่ามีสิทธิ์ได้รับเกณฑ์พิจารณาเช่นเดียวกัน แต่ก็ต้องรอดูรายละเอียดภายในกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษนั้นด้วย ซึ่งการเข้าเรือนจำครั้งแรก นายทักษิณจะได้รับการจัดลำดับชั้นเป็นนักโทษเด็ดขาดชั้นกลางก่อน และในทุก ๆ 6 เดือน เรือนจำก็จะมีการปรับเลื่อนชั้นผู้ต้องขัง นอกจากนี้ นายทักษิณถือเป็นผู้มีความรู้ความสามารถ ทางเรือนจำฯ อาจจะมีการแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วยในงานด้านต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลืองานในเรือนจำได้ ไม่ว่าจะเป็นผู้ช่วยฝ่ายบรรณารักษ์ ห้องสมุด ผู้ช่วยงานสถานพยาบาล เพราะได้ภาษาอังกฤษ เป็นต้น