รอง ผบช.ก.เผยปม "ทิดสฤษดิ์" เอี่ยวทุจริตเงินวัด-พุทธอุทยานฯ ใกล้กระจ่าง แล้ว -ศาลอาญาคดีทุจริตฯ รับเป็นเกราะคุ้มกันหากเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติถูกผู้ต้องหาขู่ฟ้องปิดปาก
วันนี้ (23 ก.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 15.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีการตรวจสอบอดีตพระธรรมวชิรธีรคุณ เจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ หรือ ทิดสฤษดิ์ ว่า วันนี้เป็นวันที่ 3 แล้ว ที่ ตำรวจ บก.ปปป. ลงพื้นที่ จ.นครสวรรค์ เพื่อสืบค้นหาข้อมูลพยานหลักฐานต่าง ๆ เบื้องต้นทราบว่าคืบหน้าไปเยอะพอสมควร แต่ยังมีบางส่วนที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน โดนเฉพาะเส้นเงิน บัญชีต่างๆของวัด คาดว่าจะมีความชัดเจนในเร็ว ๆ นี้
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวถึงกรณีเจ้าอาวาสวัดม่วง ด้วยว่า การที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง ก็เพราะว่าบัญชีการเงินต่าง ๆ ของวัดไม่มีความชัดเจน ส่วนเรื่องทองคำที่สูญหายไปนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่า มีการนำทองคำไปขาย แล้วอ้างภายหลังว่าหลงลืมจำไม่ได้ ซึ่งในส่วนนี้ทางตำรวจท้องที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ก็ว่าไปตามขั้นตอนกฎหมาย ส่วนเรื่องการตรวจสอบที่ไปที่มาทรัพย์สินต่าง ๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบ คาดว่าไม่นานคงชัดเจน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่า ช่วงนี้มีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับพระต่าง ๆ เข้ามาที่ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมความมั่นคงทางพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก มีการรับเรื่องตรวจสอบหลายเรื่อง ต้องแบ่งหน้าที่กันทำงาน โดยจะมีตำรวจ บก.ปปป. เป็นหน่วยงานหลัก ก่อนประสานหน่วยงานอื่น ๆ เข้ามาข่วยตรวจสอบ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกด้วยว่า เมื่อวานที่ผ่านมา ตนได้มีโอกาสไปร่วมงานสัมมนาโครงการส่งเสริมการประสานความร่วมมือด้านการยุติธรรมของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางนั้น ก็ได้มีการพูดคุยถึงประเด็นเจ้าหน้าที่ที่ไปลงพื้นที่ทำงานตรวจสอบทุจริตต่าง ๆ แล้วถูกข่มขู่ฟ้องปิดปาก เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางศาลอาญาทุจริต ก็ได้ฝากประชาสัมพันธ์ว่า ไม่ต้องกลัว หรือ เป็นกังวล ว่าจะถูกกลั่นแกล้ง ทางศาลยินดีและพร้อมที่จะเป็นเกราะคุ้มกันให้ ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุจริต และ อยู่ภายใต้กรอบกฏหมาย