xs
xsm
sm
md
lg

อสส.ตีกลับไซเบอร์ คดีโรแมนซ์สแกม หลอกเเม่อัยการดาว เหตุสำนวนคดียังไม่ครบถ้วน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ทีมข่าวอาชญากรรม


น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว”
”ไพรัช“อสส.ตีกลับไซเบอร์ คดีโรแมนซ์สแกม หลอกเเม่อัยการดาว 2 ครั้งเเล้ว เหตุสำนวนคดียังไม่ครบถ้วน ไม่สอบพยานหลักฐานเกี่ยวกับการฟอกเงินหลายประเด็น ส่วนปมอ้างว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร ยังไม่ชัดเจน


วันนี้ (23 ก.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีที่ น.ส.สุภาภรณ์ นิปวณิชย์ อัยการผู้เชี่ยวชาญสำนักงานคดียาเสพติด หรือ “อัยการดาว” อัยการมือทำคดีเเตงโม ดาราสาวชื่อดังตกเรือเสียชีวิต เมื่อครั้งนั่งตำเเหน่งอัยการจังหวัดนนทบุรี ได้รับมอบอำนาจจากมารดาเข้าเเจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) ให้ดำเนินคดีกับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ซึ่งหลอกลวงมารดาของตนที่เป็นหญิงชราอายุเกือบ 80 ปี โดยมีพฤติการณ์เข้ามาตีสนิทในโลกออนไลน์หลอกให้โอนเงินในช่วงระยะเวลาสั้นๆเพียง 4-5 วัน ให้มีการโอนเงินจำนวนหลายครั้ง จำนวน 7 เเสนกว่าบาทเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2568 ที่ผ่านมาว่า

พนักงานสอบสวน สอท.2 ได้ส่งคำร้องขอให้อัยการสูงสุด พิจารณาคดี ที่มีการกล่าวหา นางธนพน จำปาสุขเเละ น.ส.อัญชลี คำนึงสุขเฉพาะในส่วน 2 บัญชีม้า ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีนี้ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงประชาชน ,พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เเละร่วมกันฟอกเงินฯ ว่าเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักรซึ่งอยู่ในอำนาจการพิจารณาของอัยการสูงสุด ตาม ป.วิอาญา มาตรา 20 หรือไม่

โดยมีรายงานว่า ในรอบแรก เป็นช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2568 พนักงานสอบสวน สอท. ได้ทำสำนวนเสนอมายังสำนักงานอัยการสูงสุด ปรากฎว่า นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุด พิจารณาแล้ว ได้ตีสำนวนคืนยัง สอท. เพราะมีหลายประเด็นที่พนักงานสอบสวนยังรวบรวมพยานไม่ชัดเจน เช่นการเบิกถอนเงิน จากบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี นายธนพน ที่มีการทำธุรกรรมถอนเงินสดผ่านตู้กดเงินอัดโนมัติ (ATM) ในประเทศกัมพูชา จำนวนหลายครั้ง รวมทั้งการโอนเงินการฝากเงิน ของคนร้ายที่ได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้เสียหาย การเดินทางและการกระทำความผิดในขณะที่สนทนากับผู้เสียหายจนได้ทรัพย์สินไปนั้นได้กระทำในขณะอยู่นอกราชอาณาจักรไทย หรือไม่

รวมทั้งประเด็น พยานหลักฐานที่เกี่ยวกับ กลุ่มผู้ต้องหาและมีบุคคคลอื่นใดที่ได้มีการสมคบกัน ในการโอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมที่มีกฎหมายกำหนดเป็นความผิด เพื่อซุกช่อนหรือปกปิด แหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะ หรือหลังการกระทำความผิด มิให้ ต้องรับโทษหรือรับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกบิดหรืออำพราง ลักษณะที่แท้จริงการได้มา แหล่งที่ตั้ง การจำหน่ายการโอน การได้สิทธิใด ๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการ กระทำความผิด หรือได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มาครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้นว่าเป็นทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด อันเป็นการกระทำความผิดฐานร่วมกันในการกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ที่มีการกระทำความผิดส่วนหนึ่งส่วนใดจากนอกราชอาณาจักรไทย หรือมีตัวการ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุนอยู่นอกราชอาณาจักรไทย

เนื่องจากข้อหาอื่น ยังไม่พบว่าเป็นคดีนอกราชอาณาจักร และผู้ต้องหาก็ทำธุรกรรม รับคำสั่งในประเทศไทย แต่ พนักงานสอบสวน สอท.ส่งสำนวนคดีมาว่าเป็นการกระทำความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรนั้น จึงมีคำสั่งให้คืนเรื่องการสอบสวนไปยังพนักงานสอบสวน สอท.เพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป หากปรากฏพยานหลักฐานเพิ่มเติมว่าได้มีการกระทำความผิดส่วนหนึ่งส่วนใดซึ่งมีโทษ ตามกฎหมายไทยเกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร หรือมีตัวการ หรือผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำความผิดนอกราชอาณาจักร ก็ให้ส่งมาพิจารณาอีกครั้ง

ต่อมาครั้งที่ 2 ไม่กี่วันต่อมา พนักงานสอบสวนสอท. ได้ส่งสำนวนมายังสำนักงานอัยการสูงสุดอีกครั้ง

นายไพรัช พรสมบูรณ์ศิริ อัยการสูงสุดได้พิจารณาแล้ว ว่า ตามที่พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับพยานหลักฐาน การทำธุรกรรม กับทางบริษัท ที่ผู้ต้องหาโอนเงินในการทำธุรกรรมทางโทรศัพท์ดังกล่าวนั้น

แต่เมื่อพนักงานสอบสวนยังไม่ได้สอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดที่อยู่นอกราชอาณาจักร สำนวนที่เสนอมายังไม่เป็นความผิดที่ได้กระทำลงนอกราชอาณาจักรไทย ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 5,6 ที่อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบ หรือจะมอบหมายหน้าที่นั้นให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดทำการสอบสวนแทน ตาม ป.วิอาญา มาตรา 20 สำนักงานอัยการสูงสุดได้คืนเรื่องไปให้พนักงานสอบสวน สอท.2 เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง หากรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติมครบถ้วนแล้วจึงค่อยส่งมาให้พิจารณาตามกฎหมาย
กำลังโหลดความคิดเห็น