หญิงสาวผู้เสียหาย เดินทางเข้าขอความเป็นธรรมทีมงานเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกตลกชื่อดังขับมาเฉี่ยวชนรถเสียหายกลางสี่แยกแล้วหนี ไม่ยอมจ่ายค่าซ่อมรถบ่ายเบี่ยงมาหลายเดือน
วันนี้ (22 ก.ค.) น.ส.หทัยพัชร อายุ 30 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังเกิดเหตุขณะรถจอดอยู่บริเวณกลางสี่แยก เพื่อรอสัญญาณไฟเขียว จู่ๆ มีรถยนต์ของตลกชื่อดังระดับประเทศ ขับมาเฉี่ยวชนกลางสี่แยก ทำให้รถเกิดความเสียหาย ก่อนจะหลบหนีไป
น.ส.หทัยพัชร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่ผ่านมา เวลา 04.29 น. ที่ผ่านมา ตนขับรถมาตามถนนเลียบคลองสองกลาง ถนนคู้บอน มุ่งหน้าถนนหทัยราษฎร์ พอถึงจุดเกิดเหตุบริเวณแยกจ่าเฉย ขนะจอดรถอยู่ช่องทางขวาสุดติดสัญญาณไฟแดง จากนั้นมีรถยนต์ มาเลนที่สอง แล้วมาเฉี่ยวชนทางด้านซ้ายจากท้ายไปถึงหน้ารถของตน โดยชายคนขับรถคู่กรณีดังกล่าวได้ลดกระจกแล้วหันมามอง ทำให้ตนเองจำหน้าได้ทันที เนื่องจากคู่กรณีเป็นตลกชื่อดังระดับประเทศ และยังเคยไปทานข้าวร้านอาหารที่ตนเองเปิดให้บริการ
ตอนแรกตนคิดว่า จะลงมาเคลียร์และเรียกประกัน แต่สุดท้ายเขาปิดกระจกแล้วขับรถออกไป รถของตนไม่สามารถขับต่อไปได้ ตนจึงลงจากรถแล้ววิ่งตามไป คู่กรณีเห็นจึงจอดรถที่หน้าตลาดหทัยมิตร แล้วเดินลงมาจากรถ โดยใส่หมวกแก๊ปลงมาดูบริเวณรอบรถของตัวเอง จากนั้นก็รีบขึ้นรถแล้วรีบขับรถออกไป ตนจึงโทรเรียกรถสไลด์เพื่อมาย้ายรถไปที่อู่ หลังจากนั้นตนเองได้เข้าแจ้งความในทันทีที่ สน.นิมิตรใหม่ และได้นำรถเข้าไปประเมินราคาค่าซ่อมที่ศูนย์บริการ ราคา 240,000 บาท
ต่อมาวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นิมิตรใหม่ ได้เรียกคู่กรณีเข้ามาเจรจา ซึ่งในวันนั้น ตลกชื่อดังคนขับไม่ได้เข้ามาเจรจาด้วยตัวเอง แต่เป็นภรรยาของเขาที่เข้ามาเจรจา หลังจากที่ได้คุยกัน ทางคู่กณีบอกว่าไม่อยากให้แจ้งความ ไม่อยากเป็นข่าว แต่จะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่าง และยอมรับว่าผิดจริง ด้วยความที่เห็นว่าคู่กรณีเป็นตลกชื่อดัง จึงยอมไม่แจ้งความ ซึ่งตนเองได้ยื่นใบเสนอราคาจากศูนย์บริการที่ตนเองได้ประเมินมาให้ทางคู่กรณีดู ซึ่งเป็นราคาค่าซ่อมในราคา 240,000 บาท แต่ทางของคู่กรณีแนะนำให้ไปซ่อมที่อู่ที่เขารู้จัก บอกว่าซ่อมไวกว่า ได้รับรถไวกว่า และราคาถูกกว่า คุณภาพดี ตนจึงยอมไปซ่อมที่อู่นั้น
น.ส.หทัยพัชร บอกอีกว่า ต่อมาตนเองจึงนำรถยนต์เข้าไปใช้บริการที่อู่ที่คู่กรณีรู้จัก โดยอู่ของคู่กรณีตีราคามา170,000 บาท แต่รถของตนก็ยังไม่ได้ซ่อม เนื่องจากทางคู่กรณีไม่ยอมจ่ายเงินให้กับอู่ซ่อมทำสี อู่ทำสีจึงไม่สามารถนำรถเข้าซ่อมได้ เช่น ทางคู่กรณีจ่ายเงินให้อู่สี 20,000 บาท ทางอู่ก็จะไปซื้ออะไหล่และทำตามวงเงินที่ได้รับ ซึ่งทางคู่กรณีได้แบ่งจ่ายเป็นงวด งวดละ 20,000 บาท จนครบ 80,000 บาท ก็หยุดจ่าย ขาดอีก 67,000 บาท ทางอู่จึงสำรองจ่ายส่วนที่เหลือไปก่อน เพื่อที่จะได้รีบเร่งซ่อมรถให้เสร็จ เพราะรถของตนก็จอดทิ้งไว้ที่อู่ซ่อมสีนานแล้ว จนไม่มีที่จอด
ปัจจุบันซ่อมรถเสร็จแล้ว แต่ทางอู่ยังต้องเรียกรับเงินจากตนจำนวน 67,000 บาท ซึ่งตนก็ติดต่อไปยังคู่กรณี ทางคู่กรณีบอกว่าจะรีบนำเงินมาปิดให้ แต่สุดท้ายก็เลื่อนจ่ายมาโดยตลอด ทำให้ตนยังไม่ได้รับรถมาใช้งาน ตอนนี้ระยะเวลาผ่านมา 4 เดือนแล้ว ทำให้เดือดร้อนเป็นอย่างมาก จึงตัดสินใจเดินทางมาร้องที่เพจสายไหมต้องรอด
ด้าน นายเอกภพ กล่าวว่า กรณีนี้ไม่เกี่ยวว่าคู่กรณีจะเป็นดาราตลกดัง แต่เมื่อมีการขับรถเฉี่ยวชนผู้อื่น ก็ควรจะรับผิดชอบ วันนี้รถผู้เสียหายเสร็จแล้ว ก็เอาเงินมาจ่าย ให้ได้รถออกมาใช้ เนื่องจากเป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ผู้เสียหายเดือดร้อน หลังจากนี้จะประสาน ผกก. สน.นิมิตรใหม่ เพื่อเรียกคู่กรณีมาพบ ให้เป็นไปตามขั้นตอน เพราะเท่าที่ทราบยังไม่เคยมาพบตำรวจ มีเพียงให้ภรรยามาพบแทนเท่านั้น