ตำรวจบุกจับ “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงิน 3.4 ล้านบาท ได้พร้อมผู้ร่วมก่อเหตุอีก 1 ราย หลังหนีกบดานในบ้านพักย่านปทุมธานี ยังเหลือที่หลบหนีอีก 1 ราย
จากกรณี 7 คนร้ายแก๊งของ นายวรวัฒน์ เชื่อมแก้ว หรือเสือปุ่น อายุ 43 ปี ก่อเหตุปล้นเงินสด 3.4 ล้านบาท จากผู้มาซื้อคริปโตเคอร์เรนซี่ เหตุเกิดลานจอดรถ ชั้น 1 ศูนย์การค้าย่านลาดพร้าว เมื่อคืนวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุตำรวจสามารถจับกุมนายเฌอพัชญ์ ดีดวงพันธ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี สาวประเภทสอง น.ส.นานา มุกข์ประดับ หรือนานา อายุ 31 ปี นายนนทวัฒน์ สอนส่งกลิ่น หรือสอง อายุ 28 ปี และนายอนันต์ชัย มณีโชติ อายุ 26 ปี หรือไอซ์ ซึ่ยังเหลือนายวรวัฒน์ กับพวกอีก 2 คน ที่ตำรวจยังติดตามไล่ล่าตัวตามที่ได้เสนอข่าวนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (18 ก.ค.) พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น.พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลือวิไล ผบก.สส.บช.น. ร่วมกับชุดสืบสวน ได้ร่วมกันเข้าจับกุมตัว นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น หัวหน้าแก๊ง และนายบอล เหล่าบุญมา ผู้ต้องหาในคดีเดียวกัน ได้ที่บ้านเช่าในหมู่บ้านพูนผล ซอยบุญคุ้ม ต.คูคต อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ขณะทั้งสองกำลังหลบหนีมากบดาน
โดยการจับกุมครั้งนี้ เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดของกลางได้หลายรายการ อาทิ ปืนสั้นพกแบบแม็กกาซีน ขนาด .365 พร้อมเครื่องกระสุน 29 นัด ระเบิดน้อยหน่า เงินสด 3,000 บาท รถฮอนด้า แอคคอร์ด สีดำ ทะเบียน กค 4520 พิจิตร (ทะเบียนปลอม) และกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง 2 ใบ จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาทั้งสองเข้าสอบสวนที่ บก.สส.บช.น.
จากการสอบสวน นายวรวัฒน์ หรือ เสือปุ่น เบื้องต้นให้การยอมรับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือปล้นเงินครั้งนี้ เพราะ คิดว่าเป็นเงินสีเทา ผู้เสียหายจะไม่กล้าเข้าแจ้งความ ส่วนเงินส่วนแบ่งที่ได้ไปกว่า 1 ล้านบาทนั้น ได้นำไปใช้ซื้อยาบ้ามาเสพ ตระเวนกิน เที่ยว และย้ายที่พักหนีตำรวจไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเงินหมด เหลือติดตัวเพียง 3,000 บาท ส่วนกระเป๋าหลุยส์ วิตตองนั้น นายเสือปุ่นอ้างว่าเพื่อนให้มา
ต่อมาเวลา 21.00 น.ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชากาาตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) พ.ต.อ.สิทธิศักดิ์ นาคามาตย์ ผกก. สส.2 บก.สส.บช.น. กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้ชุดสืบสวนเฝ้าติดตามมาสักระยะหนึ่งแล้ว แต่ต้องวางแผนเพื่อความปลอดภัยขณะเข้าทำการจับกุม โดยผู้ต้องหายังให้การวกไปวนมา จับใจความได้เพียงแค่ ทั้งสองคนผลัดกันขับรถ เปลี่ยนที่พักไปมาเพื่อให้ยากต่อการตามจับกุม ยอมรับว่ามีการแบ่งเงินกัน แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเรื่องของสัดส่วน รวมทั้งเรื่องของการวางแผนในการก่อเหตุ ซึ่งคืนนี้จะทำบันทึกจับกุม แล้วส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างไรก็ตามยังเหลือผู้ต้องหาอีก 1 คน คือ นายรุ่งนิรันดร์ หรือ โบ้ อายุ 32 ปี ที่ยังหลบหนี
นอกจากนี้ยังตรวจยึดของกลางคล้ายระเบิด Mk2 จำนวน 1 ลูก ซึ่งมีน้ำหนักคล้ายของจริง แต่ไม่เข็มแทงชนวน อยู่ระหว่างส่งให้เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด EOD ตรวจสอบต่อไป