รอง ผบช.ก.ลั่น13 ทิด พัวพันสีกากอล์ฟ แม้สึกแล้วคดียังไม่จบ เร่งเดินหน้าหาหลักฐานเอาผิดโกงเงินวัดหรือไม่? เผยหลักฐานมัด "ทิดประสิทธิ์" ขนเงินทำบุญใส่กระบะมาให้สีกากอล์ฟ หลายครั้ง ยันไม่ได้จูบปาก พศ. แค่หอมแก้ม ร่วมจับมือเดินหน้าสางคดีพระนอกรีต ย้ำจากนี้ต้องจริงใจต่อกัน
วันนี้ (18 ก.ค.) ที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีตำรวจ บก.ปปป. เข้าขอข้อมูลหลักฐานเส้นทางการเงินของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ว่า เจ้าหน้าที่ต้องการเส้นทางการเงินของวัดประยุรวงศาวาสวรวิหารย้อนหลัง 3 ปี เนื่องจากผู้ช่วยเจ้าอาวาสมีส่วนเกี่ยวข้องกับสีกากอล์ฟ โดยเราจะตรวจสอบคดีอาญาคู่ขนานไปกับวินัยสงฆ์ จะเก็บพยานหลักฐานทุกอย่างเพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่าส่วนที่เจ้าอาวาสจะมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น อย่าพึ่งไปกล่าวหาท่าน ขอให้ดำเนินการตรวจสอบกับพระทั้ง 13 รูปที่เกี่ยวพันธ์กับสีกากอล์ฟก่อน ก่อนที่จะขยายผลไปกับบุคคลอื่น รวมไปถึงเจ้าอาวาสวัดด้วยเช่นกัน เนื่องจากเป็นบุคคลใกล้ชิดและยังเป็น ผอ. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย โดยทิดประสิทธิ์ เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาทั้งสองที่ แต่หากการตรวจสอบพบว่าเกี่ยวข้องกับใครดำเนินการอย่างตรงไปตรงมาแน่นอน
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่าส่วนที่ทิดประสิทธิ์ มีการขนเงินทำบุญใส่รถกระบะมาให้สีกากอล์ฟ หลายครั้งนั้น เรื่องนี้ตำรวจยืนยันว่ามีหลักฐานชัดเจน รวมถึงมีคนรู้เห็นว่ามีความเกี่ยวข้องระหว่างทิดประสิทธิ์กับสีกากอล์ฟ ถึงแม้ว่าจะเป็นเงินทำบุญหรือเป็นเงินส่วนตัวก็ตาม ตำรวจก็ต้องมีการตรวจสอบ โดยหลังจากนี้ทางตำรวจจะมุ่งเน้นในเรื่องของเส้นทางการเงิน โดยไม่ได้หยุดแค่พระสึกแล้วจบ แต่มุ่งเน้นเส้นเงินที่เชื่อมไปบุคคลภายนอกที่เป็นฆราวาส หรือบุคคลใกล้ชิดกับพระ ที่จะเข้าข่ายการทุจริต เรื่องเหล่านี้จะต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการทยอยเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล รวมถึงอดีตพระครูศรีรัตนวิเชียร" หรือ "พระมหายอดเพชร" อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าบัวทอง จ.พิจิตร ก็จะต้องเรียกตัวมาให้ข้อมูลเช่นเดียวกัน
"ส่วนการร่วมงานกันระหว่างตำรวจและสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นไปด้วยความเข้าใจกัน ไม่ได้จูบปากแต่เป็นเพียงการหอมแก้มกัน หลังจากที่มีการสะท้อนปัญหาและมุมมองในการทำงาน ซึ่งการทำงานไม่ควร “ค่ะ ครับ” แล้วเรื่องจบ ต้องมีแรงกระแทกให้เห็นว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ ต้องตื่นตัว ต้องแก้ไขกระบวนการ โดยการทำงานร่วมกันทุกอย่างจะต้องมีความจริงใจต่อกัน พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีการขัดแย้งกัน