ผกก.นำกำลังรุดตรวจสอบที่วัด ล่าตัวคนร้ายที่ขโมยศพเด็กในป่าช้า ก่อนนำแม่และชาวบ้านจำนวนหนึ่งมาสอบ ขณะเดียวกันกำลังเช็คผู้ต้องสงสัย 2 รายในพื้นที่ ยืนยันดำเนินการเต็มที่
วันนี้ (23 ก.ย.)พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ มาลีสี ผกก.สภ.อ.ไทรโยค ได้เรียก พ.ต.ต.สมรวม เกตุหลำ สวส.สภ.อ.ไทรโยค เจ้าของคดีนี้มาหารือที่ห้องทำงาน ซึ่งได้มีการสอบถามเกี่ยวกับผลการสอบปากคำผู้เสียหายที่แจ้งความร้องทุกข์ไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น พ.ต.อ.สุรกฤษฎ์ พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมรวม และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและสารตรวจรวมกว่า 20 นายออกเดินทางไปยังป้อมตำรวจจุดตรวจน้ำตกไทรโยคใหญ่ หมู่ 6 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค ซึ่งหัวหน้าตำรวจสายตรวจจุดตรวจดังกล่าวได้นำตัว นางสุทิน ระเลิศ อายุ 36 ปี มารดาของเด็กมารอการสอบสวน พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ ได้สอบสวนปากคำ นางสุทินด้วยตนเอง โดยใช้เวลาในการสอบปากคำราว
30 นาที
โดยนางสุทินได้ให้ปากคำว่า รู้สึกงงมากที่เรื่องนี้เป็นข่าวออกทางทีวี ซึ่งเพื่อนบ้านหลายคนมาบอกว่าเรื่องนี้ออกทีวีเมื่อตอนเช้านี้ ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้สามีได้บอกว่ามีนักข่าวมาถามก็ไม่นึกอะไร แต่พอเป็นข่าวออกมารู้สึกงงมาก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจอะไร และไม่ทราบว่าเป็นข่าวไปได้อย่างไร ตนเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่อยากให้ทางวัดเสียหาย
ตนไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องการศพคืนแล้ว
ทาง พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ ได้ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และเพื่อเป็นการป้องกันมิให้ไปเกิดที่อื่นๆอีกเป็นเรื่องของทางสังคม
จากนั้น พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ ได้นำตัวนางสุทิน และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางไปยังวัดถ้ำดาวดึงส์ หมู่ 6 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค เพื่อดูที่เกิดเหตุ พบนายสำเนา เจริญเกตุ ผญบ.หมู่ 6 ต.ไทรโยค พร้อมชาวบ้านราว 50 คนกำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่
เมื่อพบกลุ่มผู้สื่อข่าวกลุ่มชาวบ้านต่างพากันโวยวายพูดใส่หน้านักข่าวว่า ไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะจะทำให้วัดเสียหาย แต่ก็ยังจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาวบ้านบางคนได้วิจารณ์ไปกันหลายสาเหตุที่ศพเด็กหาย บ้างก็พูดว่าผีดิบมาขุดเอาศพเด็กไปกิน บ้างก็บอกว่าถูกขุดทำไปทำพิธีพุทธาภิเษกกุมารี โดยทางตำรวจได้ใช้เวลาตรวจสอบที่เกิดเหตุนานกว่า 30 นาที จึงเดินทางกลับ โดยได้นำนางสุทิน มารดาของเด็กพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปสอบสวนที่ สภ.อ.ไทรโยค เพิ่มเติมอีกด้วย
พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ มาลีสี ผกก.สภ.อ.ไทรโยค เปิดเผยเกี่ยวกับการสอบสวนคดีนี้ว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุนี้แล้ว
ได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนเข้าติดตามสืบลหาข่าวในพื้นที่ในหมู่บ้านเช่นกัน และ ตอนนี้ตำรวจพอจะได้เบาะแสแล้ว มีกลุ่มคนต้องสงสัยจำนวน 2 คน กำลังเร่งติดตามนำตัวมาสอบสวนอยู่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายของศพหรือไม่ ส่วนสาเหตุตนยังไม่อยากไประบุตอนนี้ เนื่องจากไม่ทราบว่าคนที่ขโมยขุดศพเด็กรายนี้ไปต้องการอะไร นำไปทำพิธีตามที่ชาวบ้านพูดกันหรือไม่ แต่ได้สั่งการให้ติดตามสอบสวนพยานและทุกคนที่พอจะทราบข้อมูล โดยตนจะลงไปติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง คาดว่าไม่กี่วันจะได้ความชัดเจนกว่านี้
ทางด้าน นายสำเนา เจริญเกตุ ผญบ.หมู่ 6 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่หลังเกิดเรื่องนี้ ตนและชาวบ้านก็ได้พยายามช่วยกันติดตามหาศพเด็กตามป่าและถ้ำใกล้เคียง แต่ไม่พบ ซึ่งตนยังไม่ทราบสาเหตุว่าเอาศพไปทำไร แต่ได้จัดเวรยามรักษาความสงบตลอด 24 ชม. เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องติดตามตรวจสอบอย่างละเอียด โดยคงปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจเข้าไปดำเนินการ ส่วนตนจะดูแลเรื่องความสงบของลูกบ้านเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่เท่านั้น
ต่อมาเวลา 12.10 น.เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีพร้อมด้วย พระครูนิโคธโยคาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางถึงที่วัดดาวดึงส์และได้เข้าสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นจากพระอรรถพล
อัตถพโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสดังกล่าว ซึ่งการหารือนานกว่า 50 นาที แต่พอผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์ก็ปรากฏว่าทุกคนต่างรีบแยกย้ายเตรียมกลับออกจากวัดโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์และไม่บอกชื่อตำแหน่งต่อนักข่าวแต่อย่างใด ในส่วนของพระอรรถพล อัตถพโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านที่เดินทางไปสังเกตการณ์ที่วัดดาวดึงส์ท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรกับสื่อมวลชนเนื่องจากชาวบ้านมีความรู้สึกว่าการที่เรื่องนี้เป็นข่าวจะให้ชื่อเสียงวัดถ้ำดาวดีงส์เสื่อมเสีย และมีการสอบถามถึงต้นตอข่าวว่าผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข่าวนี้มาจากที่ใดอีกด้วย
มีรายงานข่าวว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนที่ตำรวจจะเชิญตัวมาสอบสวน คือ ลูกจ้างพิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติไทรโยค กับพระสงฆ์ลูกวัด เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นว่าทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันและในช่วงก่อนเกิดเหตุมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยอีกด้วย
วันนี้ (23 ก.ย.)พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ มาลีสี ผกก.สภ.อ.ไทรโยค ได้เรียก พ.ต.ต.สมรวม เกตุหลำ สวส.สภ.อ.ไทรโยค เจ้าของคดีนี้มาหารือที่ห้องทำงาน ซึ่งได้มีการสอบถามเกี่ยวกับผลการสอบปากคำผู้เสียหายที่แจ้งความร้องทุกข์ไว้ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที
จากนั้น พ.ต.อ.สุรกฤษฎ์ พร้อมด้วย พ.ต.ต.สมรวม และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนและสารตรวจรวมกว่า 20 นายออกเดินทางไปยังป้อมตำรวจจุดตรวจน้ำตกไทรโยคใหญ่ หมู่ 6 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค ซึ่งหัวหน้าตำรวจสายตรวจจุดตรวจดังกล่าวได้นำตัว นางสุทิน ระเลิศ อายุ 36 ปี มารดาของเด็กมารอการสอบสวน พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ ได้สอบสวนปากคำ นางสุทินด้วยตนเอง โดยใช้เวลาในการสอบปากคำราว
30 นาที
โดยนางสุทินได้ให้ปากคำว่า รู้สึกงงมากที่เรื่องนี้เป็นข่าวออกทางทีวี ซึ่งเพื่อนบ้านหลายคนมาบอกว่าเรื่องนี้ออกทีวีเมื่อตอนเช้านี้ ซึ่งตั้งแต่เมื่อวานนี้สามีได้บอกว่ามีนักข่าวมาถามก็ไม่นึกอะไร แต่พอเป็นข่าวออกมารู้สึกงงมาก เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดใจอะไร และไม่ทราบว่าเป็นข่าวไปได้อย่างไร ตนเป็นชาวบ้านธรรมดาไม่อยากให้ทางวัดเสียหาย
ตนไม่ติดใจอะไรอีกแล้ว ไม่ต้องการศพคืนแล้ว
ทาง พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ ได้ชี้แจงว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองต้องดำเนินการ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และเพื่อเป็นการป้องกันมิให้ไปเกิดที่อื่นๆอีกเป็นเรื่องของทางสังคม
จากนั้น พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ ได้นำตัวนางสุทิน และกำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมดเดินทางไปยังวัดถ้ำดาวดึงส์ หมู่ 6 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค เพื่อดูที่เกิดเหตุ พบนายสำเนา เจริญเกตุ ผญบ.หมู่ 6 ต.ไทรโยค พร้อมชาวบ้านราว 50 คนกำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องที่เกิดขึ้นอยู่
เมื่อพบกลุ่มผู้สื่อข่าวกลุ่มชาวบ้านต่างพากันโวยวายพูดใส่หน้านักข่าวว่า ไม่อยากให้เป็นข่าวเพราะจะทำให้วัดเสียหาย แต่ก็ยังจับกลุ่มพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ชาวบ้านบางคนได้วิจารณ์ไปกันหลายสาเหตุที่ศพเด็กหาย บ้างก็พูดว่าผีดิบมาขุดเอาศพเด็กไปกิน บ้างก็บอกว่าถูกขุดทำไปทำพิธีพุทธาภิเษกกุมารี โดยทางตำรวจได้ใช้เวลาตรวจสอบที่เกิดเหตุนานกว่า 30 นาที จึงเดินทางกลับ โดยได้นำนางสุทิน มารดาของเด็กพร้อมชาวบ้านจำนวนหนึ่งไปสอบสวนที่ สภ.อ.ไทรโยค เพิ่มเติมอีกด้วย
พ.ต.อ.สุรกฤษฎิ์ มาลีสี ผกก.สภ.อ.ไทรโยค เปิดเผยเกี่ยวกับการสอบสวนคดีนี้ว่า หลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุนี้แล้ว
ได้สั่งการให้ตำรวจสืบสวนเข้าติดตามสืบลหาข่าวในพื้นที่ในหมู่บ้านเช่นกัน และ ตอนนี้ตำรวจพอจะได้เบาะแสแล้ว มีกลุ่มคนต้องสงสัยจำนวน 2 คน กำลังเร่งติดตามนำตัวมาสอบสวนอยู่ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายของศพหรือไม่ ส่วนสาเหตุตนยังไม่อยากไประบุตอนนี้ เนื่องจากไม่ทราบว่าคนที่ขโมยขุดศพเด็กรายนี้ไปต้องการอะไร นำไปทำพิธีตามที่ชาวบ้านพูดกันหรือไม่ แต่ได้สั่งการให้ติดตามสอบสวนพยานและทุกคนที่พอจะทราบข้อมูล โดยตนจะลงไปติดตามคดีนี้ด้วยตนเอง คาดว่าไม่กี่วันจะได้ความชัดเจนกว่านี้
ทางด้าน นายสำเนา เจริญเกตุ ผญบ.หมู่ 6 ต.ไทรโยค อ.ไทรโยค ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เป็นผู้ใหญ่บ้านที่นี่หลังเกิดเรื่องนี้ ตนและชาวบ้านก็ได้พยายามช่วยกันติดตามหาศพเด็กตามป่าและถ้ำใกล้เคียง แต่ไม่พบ ซึ่งตนยังไม่ทราบสาเหตุว่าเอาศพไปทำไร แต่ได้จัดเวรยามรักษาความสงบตลอด 24 ชม. เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นหรือไม่
อย่างไรก็ตามเรื่องที่เกิดขึ้น ตนเชื่อว่าทางวัดไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องติดตามตรวจสอบอย่างละเอียด โดยคงปล่อยเป็นหน้าที่ของตำรวจเข้าไปดำเนินการ ส่วนตนจะดูแลเรื่องความสงบของลูกบ้านเท่าที่ทำได้อย่างเต็มที่เท่านั้น
ต่อมาเวลา 12.10 น.เจ้าหน้าที่จากสำนักงานพุทธศาสนาจังหวัดกาญจนบุรีพร้อมด้วย พระครูนิโคธโยคาภิรักษ์ เจ้าคณะอำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางถึงที่วัดดาวดึงส์และได้เข้าสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้นจากพระอรรถพล
อัตถพโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสดังกล่าว ซึ่งการหารือนานกว่า 50 นาที แต่พอผู้สื่อข่าวเดินทางไปสังเกตการณ์ก็ปรากฏว่าทุกคนต่างรีบแยกย้ายเตรียมกลับออกจากวัดโดยไม่ยอมให้สัมภาษณ์และไม่บอกชื่อตำแหน่งต่อนักข่าวแต่อย่างใด ในส่วนของพระอรรถพล อัตถพโร รักษาการณ์เจ้าอาวาสก็ไม่ยอมให้สัมภาษณ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มชาวบ้านที่เดินทางไปสังเกตการณ์ที่วัดดาวดึงส์ท่าทางไม่ค่อยเป็นมิตรกับสื่อมวลชนเนื่องจากชาวบ้านมีความรู้สึกว่าการที่เรื่องนี้เป็นข่าวจะให้ชื่อเสียงวัดถ้ำดาวดีงส์เสื่อมเสีย และมีการสอบถามถึงต้นตอข่าวว่าผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งข่าวนี้มาจากที่ใดอีกด้วย
มีรายงานข่าวว่า ผู้ต้องสงสัย 2 คนที่ตำรวจจะเชิญตัวมาสอบสวน คือ ลูกจ้างพิทักษ์ป่าของอุทยานแห่งชาติไทรโยค กับพระสงฆ์ลูกวัด เนื่องจากมีชาวบ้านเห็นว่าทั้งสองคนมีความสนิทสนมกันและในช่วงก่อนเกิดเหตุมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยอีกด้วย


