xs
xsm
sm
md
lg

กลายเป็นโฆษณาให้ซะงั้น ! รัฐบาลไต้หวันจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โลโก้ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียRedNote หรือที่รู้จักกันในประเทศจีนว่า เสี่ยวหงซู  - ภาพ : รอยเตอร์
“เสี่ยวหงซู” ( RedNote ) หรือ Instagram เวอร์ชั่นจีน ยอดดาวน์โหลดพุ่งแรงในการจัดอันดับแอปโซเชียลเน็ตเวิร์กของ App Store ในไต้หวันเมื่อวันเสาร์ (6 ธ.ค.)
 
มีอยู่ช่วงหนึ่งพุ่งไปอยู่ถึงอันดับที่หนึ่ง ตามรายงานของสื่อไต้หวัน แซงหน้า Threads แอปโซเชียลมีเดียแบบข้อความของ Meta ซึ่งเป็นแอปโซเชียลเน็ตเวิร์กหนึ่ง ที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดในไต้หวัน


ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น หลังจากรัฐบาลไต้หวันประกาศจำกัดการเข้าถึงแพลตฟอร์มเสี่ยวหงซูเป็นเวลาหนึ่งปี

 
โกลบอลไทมส์ สื่อของทางการจีนรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี ( 4 ธ.ค. ) หน่วยงานที่เรียกว่า "กรมกิจการภายใน" ของภูมิภาคไต้หวันระบุว่าจะจำกัดการเข้าถึงดังกล่าว โดยอ้างเหตุผลมีความเสี่ยงสูงที่แพลตฟอร์มนี้จะกลายเป็นแหล่งการฉ้อโกงออนไลน์ โดยมีคดีฉ้อโกงผ่านเสี่ยวหงซูมากกว่า 1,700 รายนับตั้งแต่ปี 2567

ความนิยมเสี่ยวหงซูที่พุ่งขึ้นอย่างไม่คาดคิดจุดประเด็นถกเถียงอย่างเผ็ดร้อนในฟอรั่ม PTT บนเกาะไต้หวัน มีการแสดงความเห็นอย่างหลากหลายของชาวเน็ต เช่น มาตรการดังกล่าวว่าเป็น “การโฆษณาประชาสัมพันธ์”ให้เสี่ยวหงซู  "แม้แต่คนที่ไม่เคยใช้เสี่ยวหงซูก็ยังดาวน์โหลดเพราะความอยากรู้อยากเห็น" และ “ยิ่งห้ามก็ยิ่งอยากดู ซึ่งเป็นธรรมชาติของมนุษย์” มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า เสี่ยวหงซูเคยเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นเฉพาะผู้หญิง แต่ตอนนี้กำลังไปไกลแล้ว

หญิงแซ่เซียน เจ้าของร้านขายสินค้าเฉพาะประจำท้องถิ่นในจินเหมินระบุว่า เสี่ยวหงชูยังคงโพสต์เนื้อหาได้ แต่ฟีเจอร์บางอย่างถูกจำกัดไว้ ธุรกิจของตนได้รับผลกระทบแน่นอน เพราะลูกค้าจากจีนแผ่นดินใหญ่และต่างชาติจำนวนมากสั่งซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มนี้

หนุ่มไต้หวันผู้หนึ่งไม่เปิดเผยนาม เขาให้ความเห็นกับโกลบอลไทมส์ว่า มาตรการจำกัดดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจากพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า ( DPP ) กำลังตระหนกสุดขีดว่า การแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบไต้หวันผ่านเสี่ยวหงซู เช่น การเรียนรู้การแต่งหน้าแบบธรรมชาติ การค้นพบขนมยอดนิยมบนจีนแผ่นดินใหญ่ และการใช้คำแสลงทางอินเทอร์เน็ตในแผ่นดินใหญ่ จะทำให้คนไต้หวันรุ่นใหม่เปลี่ยนทัศนคติเกี่ยวกับจีน ก่อเกิดความเห็นอกเห็นใจและการผสานทางวัฒนธรรม ท้าทายความพยายามของพรรค DPP ที่ผลักดันมานานหลายทศวรรษในการให้การศึกษาเพื่อขจัดความมีอยู่ของวัฒนธรรมจีน ( de-Sinicization)


ตามข้อมูลของทางการไต้หวัน มีผู้ใช้เสี่ยวหงชูที่นี่ 3 ล้านคน ซึ่งหมายความว่าประมาณ 1 ใน 8 คนใช้แอปนี้ และหากดูเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ที่อายุน้อย สัดส่วนผู้ใช้จะสูงกว่านี้ เขากล่าว


ภายใต้หลักการจีนเดียว ไต้หวันถือเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของจีน โดยที่ผ่านมาจีนมีการสั่งห้ามการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมของชาติตะวันตกได้แก่เฟซบุ๊ก ยูทูป กูเกิลและ X ขณะที่ไต้หวันภาคภูมิใจในความเปิดกว้างของตนเอง แต่ก็เตือนประชาชนถึงอันตรายจากการใช้แอปของจีน ซึ่งเป็นเรื่องข้อมูลบิดเบือนที่มาจากรัฐบาลจีนเสียเป็นส่วนใหญ่

ที่มา : โกลบอลไทมส์ / รอยเตอร์



กำลังโหลดความคิดเห็น