ราคาทองคำโลกยังคงพุ่งทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง หลังธนาคารกลางจีน (People’s Bank of China) เดินหน้าเข้าซื้อทองคำเพิ่มเป็นเดือนที่ 11 ติดต่อกัน ท่ามกลางภาวะไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกและการปิดทำการบางส่วนของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่ยืดเยื้อมากว่าสองสัปดาห์
รายงานระบุว่า ราคาทองคำตลาดลอนดอนเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พุ่งทะลุ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ (ประมาณ 146,000 บาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากราคาทองฟิวเจอร์สในตลาดนิวยอร์กทะลุระดับเดียวกันก่อนหน้านี้หนึ่งวัน
แรงหนุนหลักมาจากความต้องการถือครอง “สินทรัพย์ปลอดภัย” ที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะจากธนาคารกลางหลายประเทศซึ่งเร่งสะสมทองคำเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
จีนถือเป็นหนึ่งในผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดในปีนี้ โดยธนาคารกลางจีนได้เพิ่มปริมาณทองคำสำรองอย่างต่อเนื่องตลอด 11 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการกระจายความเสี่ยงจากการถือครองเงินตราต่างประเทศ และเสริมเสถียรภาพของสินทรัพย์สัญชาติจีน
ผู้เชี่ยวชาญจากตลาดการเงินฮ่องกงระบุว่า “ในภาวะที่เศรษฐกิจโลกเผชิญความไม่แน่นอน ทั้งจากวิกฤตการคลังของสหรัฐฯ และความผันผวนของตลาดทุน ทองคำจึงกลายเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่นักลงทุนกลับมาให้ความสนใจมากที่สุดอีกครั้ง”
นอกจากจีนแล้ว ประเทศอื่น ๆ เช่น รัสเซีย อินเดีย และตุรกี ก็มีการเพิ่มการถือครองทองคำเช่นกัน ส่งผลให้ตลาดทองคำโลกในปี 2568 กลายเป็นปีที่ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองมากที่สุดในรอบทศวรรษ
ที่มา: กลุ่มสื่อจีน