สถาบันวิจัย Ember ในอังกฤษ ระบุว่า จีนกำลังกลายเป็น “ฐานรากของระบบพลังงานใหม่ทั่วโลก” หลังมูลค่าการส่งออกเทคโนโลยีพลังงานสะอาดของจีนในเดือนสิงหาคม 2568 พุ่งแตะ 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 700,000 ล้านบาท) ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สินค้าหลักที่จีนส่งออก ได้แก่ แบตเตอรี่ลิเธียม แผงโซลาร์เซลล์ และกังหันลม ซึ่งมีราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ละตินอเมริกา แอฟริกา และตะวันออกกลางแห่ซื้อเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ที่ได้รับความนิยมสูงในหมู่ประเทศนอกกลุ่ม OECD คิดเป็น 51% ของการเติบโตในการส่งออก EV ของจีนปีนี้
ข้อมูลในรายงานเผยว่า ช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 การส่งออกสินค้าเทคโนโลยีสะอาดของจีนไปยังประเทศในอาเซียนขยายตัวถึง 75% โดยอินโดนีเซียกลายเป็นประเทศผู้นำเข้ารถ EV จากจีนมากที่สุดในโลก และก้าวขึ้นมาเป็นตลาดใหญ่อันดับ 9 ของจีน
ขณะเดียวกัน การส่งออก EV ไปยังทวีปแอฟริกาเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า โดยมีโมร็อกโกและไนจีเรียเป็นตลาดหลัก ส่วนตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น 72% และภูมิภาคลาตินอเมริกา–แคริบเบียนขยายตัวอีก 11%
นักวิเคราะห์ของ Ember ระบุว่า ความต้องการเทคโนโลยีสะอาด “พุ่งทะยาน” เพราะประเทศต่าง ๆ ต้องการเข้าถึงพลังงานราคาถูกและยานยนต์ประหยัดพลังงาน โดยจีนมีบทบาทสำคัญในการทำให้ต้นทุนเทคโนโลยีเหล่านี้ถูกลงอย่างรวดเร็ว จนนำไปสู่การเติบโตในอัตราที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ที่มา: กลุ่มสื่อต่างประเทศ