การปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบในทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรมการเงินบนแดนมังกร ตั้งแต่ภาคธนาคารไปจนถึงตลาดหลักทรัพย์ ดำเนินไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง
ล่าสุดนาย อี้ ฮุ่ยหมั่น อดีตประธานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศจีน ( CSRC ) กำลังถูกหน่วยงานฝ่ายวินัยของพรรคคอมมิวนิสต์สอบสวนในข้อหาทุจริตซึ่งเป็นการละเมิดวินัยร้ายแรง อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกลางเพื่อการตรวจสอบวินัยมิได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการสอบสวนดังกล่าว
นาย อี้ ดำรงตำแหน่งประธาน CSRCระหว่างเดือนมกราคม 2562 - เดือนกุมภาพันธ์ 2567 นับเป็นผู้คุมตลาดหลักทรัพย์จีนคนที่สองในรอบ 10 ปีที่ถูกสอบสวนเรื่องการทุจริตและเป็นคนที่สามในรอบ 9 ปี ที่ถูกปลดจากตำแหน่งดังกล่าว
ผู้ดำรงตำแหน่งก่อนหน้าคือนาย หลิว ซื่ออี้ว์ ถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี 2562 ก่อนที่เขาจะถูกดำเนินการสอบสวน ซึ่งเปิดโปงให้เห็นพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมหลายอย่าง ตั้งแต่การรับของขวัญ การรับเงินทอง ไปจนถึงการเอื้อประโยชน์ในการขายหุ้นของบริษัทที่อยู่ในมณฑลเจียงซู ซึ่งเป็นบ้านเกิดของเขา
ในปี 2559 นาย เสี่ยว กังถูกปลดจากตำแหน่งประธาน CSRC เนื่องจากบริหารงานผิดพลาดจนเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นจีนและนำไปสู่การเทขายหุ้นอย่างถล่มทลายในปีก่อนหน้า
ตลาดทุนของจีนมีมูลค่า 12 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับเป็นตลาดใหญ่อันดับสองของโลก การปลดผู้กำกับดูแลกันเป็นระนาวนี้ตอกย้ำว่า ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงกำลังพยายามปัดกวาดระบบการเงินของประเทศ หลังจากยกระดับอุตสาหกรรมนี้ให้กลายเป็นภาคส่วนสำคัญเชิงยุทธศาสตร์สำหรับ “มหาอำนาจทางการเงิน” ท่ามกลางความสัมพันธ์ที่ย่ำแย่ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนและมีความเสี่ยงที่จีนจะแยกตัวทางการเงินกับสหรัฐฯมากขึ้น โดยบริษัทจีนเกือบ 300 แห่ง มูลค่า 1.1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ กำลังเตรียมหาช่องทางการจดทะเบียนในตลาดอื่น
สำหรับนายอี้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง หลังจากดัชนีหุ้นกระดานเอร่วงแต่ะระดับต่ำสุดในรอบ 5 ปีเมื่อปี 2567 ซึ่งก่อให้เกิดวิกฤตความเชื่อมั่นในหมู่นักลงทุนรายย่อยกว่า 200 ล้านคน ที่ได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจที่ผันผวนและผลประกอบการของบริษัทที่ตกต่ำ โดยนายอู๋ ชิง อดีตประธานตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้และรองนายกเทศมนตรีเมืองเซี่ยงไฮ้ เจ้าของฉายา “ นักชำแหละโบรเกอร์” เข้ารับตำแหน่งแทน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นของนักลงทุน
นาย ติง ไห่เฟิง ที่ปรึกษาของ Integrity บริษัทให้คำปรึกษาทางการเงินในเซี่ยงไฮ้ระบุว่า CSRC เป็นมากกว่าผู้กำกับดูแลหลักทรัพย์ เพราะต้องมีความรับผิดชอบในการปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนรายย่อย ซึ่งนำเงินออมทั้งชีวิตมาไว้ในตลาดหุ้น การปลดนายอี้แสดงให้เห็นว่าเขาไม่เหมาะสมที่จะอยู๋ในตำแหน่งนี้อีกต่อไป
หลังจากถูกปลดจากตำแหน่งประธาน CSRC นายอี้ วัย 61 ปีได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้อำนวยการคณะกรรมการด้านเศรษฐกิจของสภาที่ปรึกษาการเมืองประชาชนจีน ซึ่งทำหน้าที่ให้คำปรึกษาแก่รัฐบาล จนกระทั่งมีข่าวถูกสอบสวนการละเมิดวินัยดังกล่าว
ที่มา : เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์