จีนแต่งตั้งพระภิกษุ “ ซื่อ อิ้นเล่อ” เจ้าอาวาสวัดม้าขาวและรองหัวหน้าสมาคมพระพุทธศาสนาแห่งมณฑลเหอหนัน วัย 59 ปี ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดเส้าหลินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจาก“ซื่อหย่งซิ่น” อดีตเจ้าอาวาสถูก “จับสึก” และถูกทางการดำเนินการสอบสวนในข้อกล่าวหายักยอกทรัพย์สินของวัดและ “มั่วสีกา”
วัดเส้าหลินประกาศการแต่งตั้งเมื่อวันอังคาร ( 29 ก.ค. ) ว่า การแต่งตั้งดำเนินไปตามกฎระเบียบการแต่งตั้งเจ้าอาวาสในวัดพระพุทธศาสนาของจีน โดยที่ทางวัดได้มีการประเมินและอนุมัติตามหลักการประชาธิปไตย
ท่าน“ ซื่อ อิ้นเล่อ” เกิดที่อำเภอถงไป๋ มณฑลเหอหนันเมื่อปี พ.ศ. 2509 บวชที่วัดบนภูเขาถงไป๋เมื่ออายุ 16 ปี หลังจากได้รับการฝึกอบรมที่วัดชีเซียทางตะวันออกของจีนแล้ว ท่านได้เข้าเรียนที่สถาบันพุทธศาสนาจีนในปี พ.ศ. 2529 และสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2533 จากนั้น เข้าสังกัดสมาคมพุทธศาสนามณฑลเหอหนัน โดยได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่รับใช้พระศาสนาที่วัดม้าขาวในปี พ.ศ. 2546 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสในอีกสองปีต่อมา
สำหรับ“ซื่อหย่งซิน” อดีตเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ซึ่งครองตำแหน่งมานานกว่า 25 ปี เกิดเมื่อปีพ.ศ. 2508 ที่มณฑลอันฮุย บวชเป็นหลวงจีนที่วัดเส้าหลินตั้งแต่อายุ 8 ขวบและได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสในปีพ.ศ. 2542 หลังจากนั้นได้พัฒนาวัดเส้าหลินจากวัดที่ทรุดโทรมให้กลายเป็นแบรนด์ระดับโลกมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ในรูปของบริษัทพัฒนาธุรกิจเส้าหลินและ “คณะพระวัดเส้าหลิน” ซึ่งเดินสายแสดงศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศ จนวันเส้าหลินกลายเป็น “พุทธพาณิชย์” โดยแหล่งข่าวหนึ่งเผยว่า วัดเส้าหลินมีรายได้ แตะ 300 ล้านหยวนต่อปี
นอกจากนั้น “ซื่อหย่งซิน” ยังได้รับฉายาว่า “พระซีอีโอ” จากการเป็นเจ้าอาวาสของจีนรูปแรกที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจและฉายา “ พระเพลย์บอย”จากพฤติกรรมมีความสัมพันธ์ชู้สาวกับหญิงหลายคนเป็นเวลานานหลายปี จนมีบุตรนอกกฎหมายมากกว่าหนึ่งคน
วัดเส้าหลิน เมืองเจิ้งโจว มณฑลเหอหนันทางภาคกลาง ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 1,500 กว่าปีก่อน เป็นต้นกำเนิดของพุทธศาสนานิกายเซนและองค์การยูเนสโกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก นอกจากนั้นยังเลื่องชื่อด้านศิลปะการต่อสู้กังฟู
ขณะที่วัดม้าขาวถือเป็นวัดพุทธแห่งแรกในประเทศจีน ก่อตั้งขึ้นภายใต้การอุปถัมภ์ของจักรพรรดิหมิงในราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงเพิ่งมาเยือนเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาในระหว่างการเดินทางตรวจเยี่ยมมณฑลเหอหนัน
ที่มา : เซาท์ไชน่ามอร์นิงโพสต์ / Wionews
