กลายเป็นข่าวฮือฮาที่ทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นระหว่างสหรัฐอเมริกากับไต้หวันดูไม่ดี เมื่อไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวใกล้ชิด 3 คนเมื่อวันอังคาร ( 29 ก.ค. ) ว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่อนุญาตให้ประธานาธิบดี ไล่ ชิงเต๋อแห่งไต้หวันเข้านครนิวยอร์ก หลังจากรัฐบาลจีนออกมาคัดค้าน
ตามรายงานของไฟแนนเชียลไทม์ ประธานาธิบดีไล่วางแผนแวะพักเพื่อต่อเครื่องบินที่นิวยอร์กในเดือนสิงหาคมระหว่างการเดินทางไปเยือนปารากวัย กัวเตมาลา และเบลิซ สามชาติในทวีปอเมริกาใต้ผู้ให้การยอมรับเอกราชของไต้หวัน เมื่อถูกปฏิเสธ ผู้นำเกาะมังกรน้อยจึงต้องยกเลิกแผนการเยือนครั้งนี้
การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์ตามที่เป็นข่าวเกิดขึ้นในเวลาเดียวกับที่สหรัฐฯ และจีนกำลังเจรจาการค้ากันที่กรุงสต็อกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เพื่อหาทางขยายเวลาการพักรบสงครามขึ้นภาษีนำเข้าตอบโต้กัน
แหล่งข่าวมองว่า ทรัมป์พยายามหลีกเลี่ยงไม่ทำให้รัฐบาลจีนโกรธ โดยที่กำลังหาทางจัดการประชุมสุดยอดกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิงอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงต่างประเทศไต้หวันยืนกรานว่า ผู้นำไม่มีแผนเยือนต่างประเทศ “ในอนาคตอันใกล้” เมื่อพิจารณาจากภารกิจที่ผู้นำไต้หวันต้องจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการฟื้นฟูภัยพิบัติจากพายุไต้ฝุ่น การเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรตอบโต้กับสหรัฐฯ และสถานการณ์ระหว่างประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
“ไม่มีการเลื่อน ยกเลิก หรือปฏิเสธการอนุญาตให้ผ่านแดนโดยฝ่ายสหรัฐฯ” โฆษกกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงไทเป
สำนักงานของประธานาธิบดีไล่ไม่เคยยืนยันเกี่ยวกับแผนการเดินทาง แต่ปารากวัยระบุช่วงกลางเดือนกรกฎาคมว่า ผู้นำไต้หวันจะมาเยือนปารากวัยภายใน 30 วัน
ด้านนางแนนซี เพโลซี แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กโดยหวังว่าสหรัฐฯจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายต่อไต้หวันและชี้ว่า การห้ามประธานาธิบดีไต้หวัน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยเดินทางผ่านนิวยอร์กเพื่อการเยือนทางการทูตนั้นถือเป็นชัยชนะของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง
นางเพโลซีผู้นี้เคยท้าทายจีนด้วยการไปเยือนกรุงไทเปสมัยเป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ปี 2565 ทำให้จีนซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันตอบโต้
นับตั้งแต่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคม ประธานาธิบดีไล่ยังไม่เคยเดินทางไปแผ่นดินใหญ่ของสหรัฐฯ เลย นอกจากแวะพักที่เกาะฮาวายและเกาะกวมของสหรัฐฯ ระหว่างเยือนย่านแปซิฟิกเมื่อปีที่แล้ว
จีนคัดค้านการยุ่งเกี่ยวอย่างเป็นทางการใดๆ ของสหรัฐฯ กับผู้นำไต้หวัน เพราะไต้หวันเป็นของจีน
ด้านสหรัฐฯแม้ให้การยอมรับหลักการจีนเดียว แต่ก็ยังคงเป็นพันธมิตรและผู้ขายอาวุธรายใหญ่ที่สุดของเกาะแห่งนี้
ปัจจุบันเหลือชาติที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับไต้หวันเพียง 12 ชาติ