สำนนักข่าวทางการจีน ซินหัว รายงาน สมาคมพุทธศาสนาแห่งจีนแถลงการณ์วันนี้ (28 ก.ค.) เรื่องการสอบเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ในข้อกล่าวหายักยอกเงินกองทุนของโปรเจ็ทต่างๆรวมทั้งสินทรัพย์ของวัด และมีสัมพันธ์ชู้สาวกับหญิงหลายคนเป็นเวลานานหลายปี อีกทั้งมีบุตรนอกกฎหมายมากกว่าหนึ่งคน ซึ่งเป็นพฤติกรรมทำผิดวินัยนักบวชในพุทธศาสนาอย่างร้ายแรง
นอกจากนี้ สำนักงานฝ่ายดูแลวัดเส้าหลินก็ได้ออกมาแถลงเมื่อวาน (27 ก.ค.) ยืนยันข่าวเจ้าอาวาสวัด ซื่อหย่งซิ่น ถูกสอบสวนเป็นเรื่องจริง
ขณะนี้หลายหน่วยงานร่วมกันสอบสวนฯซื่อหย่งซิ่น ซึ่งถูกริบใบรับรองสถานภาพนักบวชในพุทธศาสนาจีน หรือ “ถูกสึก” !
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ซื่อหย่งซิ่น ประพฤติตัวเสื่อมเสียศีลธรรมอย่างเลวร้ายมาก ทำลายชื่อเสียงของโลกพุทธศาสนา ทำลายภาพลักษณ์ของนักบวช สมาคมพุทธศาสนาแห่งจีนยืนหยัดสนับสนุนให้มีการจัดการกับซื่อหย่งซิ่นตามกฎหมาย
ข่าวคาวเกี่ยวกับ ซื่อหย่งซิ่น ขึ้นฮอตเสิร์ชในแพลตฟอร์ม เวยปั๋ว เมื่อวันอาทิตย์(27 ก.ค.) โดยก่อนหน้ามีข่าวลือสะพัด อ้างว่าเป็น “ประกาศเหตุการณ์” จากตำรวจเมืองไคเฟิง ระบุว่า ซื่อหย่งซิ่นพยายามพาภรรยา-ลูกๆ และพวกพ้องรวม 34 คนหลบหนีไปสหรัฐอเมริกา แต่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ตำรวจไคเฟิงออกแถลงว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของปลอม พร้อมขอให้ประชาชนหยุดเผยแพร่ภาพดังกล่าวทันที
บัญชีโซเชียลมีเดียส่วนตัวของซื่อหย่งซิ่น ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 880,000 คน ไม่ได้ลงโพสต์ใด ๆ ตั้งแต่เช้าวันที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งผิดจากพฤติกรรมปกติที่มักโพสต์เฉลี่ยวันละ 1.5 ครั้ง
พระซื่อ หย่งซิ่น หรือชื่อเดิม “หลิว อิงเฉิง” เกิดเมื่อปี 2508 ที่มณฑลอานฮุย บวชเป็นหลวงจีนตั้งแต่อายุ 8 ขวบในช่วงที่วัดเส้าหลินยังเป็นเพียงวัดเก่าใกล้พังทลาย มีพระชราจำนวนไม่ถึง 20 รูป วัดเลี้ยงชีพด้วยการทำไร่ ต่อมา ซื่อหย่งซิ่นได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสในปี 2542
เมื่อภาพยนตร์ “เส้าหลิน” นำแสดงโดยหลี่เหลียนเจี๋ย หรือเจ็ท ลี (Jet Li) เข้าฉายในปี 2525 และได้รับความนิยมถล่มทลายทั่วจีน พระซื่อหย่งซิ่น ฉวยโอกาสก่อตั้ง “คณะพระวัดเส้าหลิน” เดินสายแสดงศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศ อีกทั้งมีศูนย์วัฒนธรรมเส้าหลินทั้งในและต่างประเทศราว 60 แห่ง เช่น เยอรมนี ญี่ปุ่น อังกฤษ สร้างรายได้และชื่อเสียงแก่เส้าหลินอย่างล้นหลาม
ต่อมาในปี 2539 พระซื่อหย่งซิ่นก่อตั้งเว็บไซต์ทางการของวัด ปี 2541 ตั้งบริษัทพัฒนาธุรกิจเส้าหลิน ขยายกิจการไปสู่สื่อสิ่งพิมพ์ สมุนไพร อาหาร ของที่ระลึก เครื่องสักการะบูชาต่างๆ เครื่องรางอิเล็กทรอนิกส์ ฯลฯ เปลี่ยนเส้าหลินให้กลายเป็น “แบรนด์เชิงพาณิชย์” เต็มรูปแบบ รายได้จากบัตรเข้าชมวัดแตะ 200 ล้านหยวนต่อปี (ประมาณ 1,000 ล้านบาท) โดยมีแหล่งข่าวหนึ่งเผยว่า รายได้ต่อปีของวัดเส้นหลิน แตะ 300 ล้านหยวน
เมื่อปี 2558 เขาเคยถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์ลับกับสตรีหลายคนและมีลูกมากกว่าหนึ่งคน รวมถึงใช้เส้นสายข้ามขั้นตอนเพื่อแต่งตั้งตนเองเป็นเจ้าอาวาส ทางการจีนในขณะนั้นได้สอบสวนและยืนยันว่า “ข้อกล่าวหาไม่เป็นความจริง”
อย่างไรก็ตาม ภาพลักษณ์ “พระนักบวช-นักธุรกิจ-นักเดินทางต่างประเทศ” ที่ใช้รถหรู พกสร้อยลูกประคำราคาแพง มีลูกนอก และถือครองทรัพย์สินในต่างประเทศ ก็ยังคงติดตาผู้คนจำนวนมาก จนถูกสื่อขนานนามว่า “พระสายเปย์” หรือ “มหาเถรผู้ร่ำรวย”
สำนักข่าวซินหัวรายงานในปี 2558 เรียกฉายาซื่อหย่งซิ่นเป็น “พระซีอีโอ” และเป็นพระรูปแรกของจีนที่จบการศึกษา เอ็มบีเอ (MBA)
สำหรับวัดเส้นหลิน เมืองเจิ้งโจว ในมณฑลเหอหนัน เป็นวัดโบราณเก่ากว่า 1,500 ปี บางส่วนของหมู่สิ่งก่อสร้างในวัดเส้าหลิน ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกของยูเนสโก (ปี 2553) นักบวชเส้าหลินปฏิบัติธรรมตามหลักพุทธศาสนานิกายเซน เลื่องลือในศิลปะการต่อสู้กังฟู
ทั้งนี้ เรื่องอื้อฉาวของเจ้าอาวาสวัดเส้าหลิน ซื่อหย่งซิ่น เคยเป็นข่าวเมื่อเกือบสิบปีก่อนหน้า แต่ถูกปฏิเสธและเรื่องก็เงียบไป
ทว่า ก็ยังมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากก้บการนำชื่อเสียงวัดเส้นหลินมาหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ เช่น การแสดงกังฟู...มาดูคำถามของสาธารณชน และคำตอบของเจ้าอาวาสซื่อหย่งซิ่น
- ในปี 2011 มีข่าวลือ เกี่ยวกับสัมพันธ์สวาทกับผู้หญิง “เลี้ยงเด็กนักศึกษามหาวิทยาลัย”
คำตอบคือ “ให้เวลาและความว่างตัดสิน”
- การจัดตั้งบริษัทวัดเส้นหลิน เป็นการข้ามเส้นสู่การพาณิชย์หรือไม่?
คำตอบคือ “ในโลกทุนทุกวันนี้ คุณไม่กลืนมัน มันก็กลืนคุณ”
- การวิ่งเต้น 9 ปี เพื่อซื้อที่ดินในออสเตรเลีย ก่อกระแสวิจารณ์อย่างมาก
คำตอบคือ สรรพสิ่งย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามสิ่งภายนอก จงอย่าหลงคล้อยตามกระแสภายนอก
- สาธารณชนตั้งคำถามกันมากว่า ซื่อหย่งซิ่นเป็นสาวกในพุทธศาสนา แต่กลับมาแวะข้องกับ “ทางโลกย์” มากเหลือเกินเช่นนี้
คำตอบคือ “กายเคลื่อนไหว แต่ใจไม่หวั่นไหว”