การประชุมสุดยอดสหภาพยุโรป-จีน ครั้งที่ 25 ในโอกาสครบรอบ 50 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกัน ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันพฤหัสฯ ( 24 ก.ค. ) มีการคาดหวังผลสำเร็จค่อนข้างต่ำ เนื่องจากเกิดการโต้เถียงกันรุนแรงขึ้นมาอีกก่อนหน้าการประชุม ส่งผลให้ปักกิ่งเจ้าภาพขอลดเวลาการประชุมจาก 2 วันเหลือวันเดียวอย่างกะทันหัน
ในการพบปะกับนายอันโตนิโอ คอสตา ประธานคณะมนตรียุโรป และนางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอินประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่มหาศาลาประชาชนเมื่อเช้าวันพฤหัสฯ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิงกล่าวว่า การพึ่งพากันไม่ใช่ความเสี่ยง และผลประโยชน์ที่บรรจบกันก็ไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่การแยกและตัดขาดห่วงโซ่อุปทานต่างหากจะส่งผลให้เกิดการโดดเดี่ยวตัวเอง จีนและสหภาพยุโรป ( อียู ) ควรสนับสนุนส่งเสริมการเปิดกว้างและความร่วมมือ รวมถึงการจัดการกับข้อขัดแย้งต่าง ๆ อย่างเหมาะสม
ผู้นำจีนแสดงความหวังว่า อียูจะยังคงเปิดกว้างในตลาดการค้าและการลงทุน หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องมือทางเศรษฐกิจและการค้าที่เข้มงวด และส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ดีสำหรับบริษัทของจีนที่ลงทุนและดำเนินธุรกิจในอียู
นอกจากนั้น ในการกล่าวเปิดการประชุมสุดยอด ประธานาธิบดีสี จิ้นผิงยังเรียกร้องให้อียู “เลือกยุทธศาสตร์ที่ถูกต้อง” และขยายความร่วมมือกับจีนเพื่อ “เสถียรภาพในโลก” ท่ามกลางความปั่นป่วนวุ่นวายทางการค้าระหว่างประเทศ โดยที่มิได้เอ่ยถึงสงครามการค้าทรัมป์โดยตรง
แต่นาง ฟ็อน แดร์ ไลเอิน กล่าวกับผู้นำจีนว่า ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับจีน ซึ่งอียูขาดดุลการค้า 300,000 ล้านยูโร (350,000 ล้านดอลลาร์) เมื่อปีที่แล้ว ได้มาถึง "จุดเปลี่ยน" แล้ว การปรับสมดุลความสัมพันธ์เป็นสิ่งสำคัญ จีนและยุโรปจำเป็นต้องยอมรับข้อกังวลของทั้งสองฝ่าย และร่วมกันหาทางออกที่แท้จริง
หลายฝ่ายมองว่าการประชุมสุดยอดครั้งนี้จะยิ่งเกิดรอยร้าวลึกมากขึ้น แม้ทั้งสองฝ่ายเคยส่งสัญญาณที่จะรีเซ็ตความสัมพันธ์ เมื่อต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกันคือถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกาขู่ขึ้นภาษีศุลกากร
อียูมีปัญหากับปักกิ่งในหลายเรื่อง เช่น สินค้าราคาถูกจากจีน “ทะลักท่วมตลาด” ในยุโรป การควบคุมการส่งออกแร่ธาตุหายาก และการให้การสนับสนุนรัสเซียในสงครามยูเครน
ขณะที่ปักกิ่งไม่พอใจที่อียูขึ้นภาษีนำเข้ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากจีนเมื่อปีที่แล้ว จนนำไปสู่การขึ้นภาษีนำเข้าบรั่นดีจากอียูเป็นการตอบโต้ การห้ามบริษัทจีนเข้าร่วมการประมูลโครงการจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ของหน่วยงานภาครัฐ ซึ่งปักกิ่งได้ตอบโต้ด้วยมาตรการเดียวกัน และล่าสุดการใส่ชื่อธนาคารจีนสองแห่งกับบริษัทอีกจำนวนหนึ่งในมาตรการคว่ำบาตรรัสเซียล่าสุด กรณีรุกรานยูเครน กระทรวงพาณิชย์จีนโวยเมื่อไม่กี่วันก่อนการประชุมสุดยอดเปิดฉากว่า มาตรการดังกล่าวจะ "ส่งผลกระทบทางลบอย่างรุนแรงต่อความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนและสหภาพยุโรป"
ที่มา : โกลบอลไทมส์ / ซีเอ็นเอ็น / รอยเตอร์