xs
xsm
sm
md
lg

“ศุภจี”แจ้งสหรัฐฯ ไม่ควรนำประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา โยงเจรจาภาษี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ศุภจี”ย้ำสหรัฐฯ ไม่ควรนำประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา โยงเจรจาการค้า ยันไทยจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย ความปลอดภัยของประชาชนและทหาร ทำถูกต้องตามหลักการ หากสหรัฐฯ จะทำ ก็ทำอะไรไม่ได้ การเจรจาที่ตั้งเป้าสิ้นปี ก็ไม่จบ สหรัฐฯ ก็ไม่ได้ประโยชน์จากไทยตามที่อยากได้ เผยหากศาลสูงสหรัฐฯ ตัดสิน “ทรัมป์” แพ้คดี ยุติเก็บภาษีตอบโต้ ทุกอย่างก็กลับไปเหมือนเดิม แต่ถ้าชนะ ก็ต้องเจรจาต่อ

นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการตั้งคำถามว่าสหรัฐฯ อาจหยิบยกเหตุปะทะไทย-กัมพูชาล่าสุดมากดดันเรื่องการเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ ว่า การเจรจาระหว่างไทย-สหรัฐฯ เป็นคนละเรื่องกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยความขัดแย้งชายแดน เป็นเรื่องที่ไทยจำเป็นต้องปกป้องอธิปไตย ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและทหาร ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ก็ได้ชี้แจงไปแล้วว่าไทยไม่ใช่ฝ่ายเริ่มต้นเหตุการณ์ และไม่ใช่ผู้กระทำผิด การปฏิบัติการของไทยเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย ข้อมูลเหล่านี้นานาประเทศ รวมถึงสหรัฐฯ ก็ได้รับทราบแล้ว แต่หากสหรัฐฯ จะตัดสินใจนำเหตุการณ์ชายแดนมาเชื่อมโยงกับประเด็นทางการค้า ก็ถือเป็นสิทธิ์ของสหรัฐฯ แต่ไทยเห็นว่า ทั้ง 2 เรื่องไม่ควรเกี่ยวข้องกัน

“เราควบคุมเรื่องนี้ไม่ได้ แต่สหรัฐฯ ไม่ควรนำเรื่องที่เรามีประเด็นกับเพื่อนบ้านมาเชื่อมโยงกัน เพราะเราทำทุกอย่างถูกต้องตามหลักการ และรักษาอธิปไตย ดูแลความปลอดภัยของประชาชนและทหาร ส่วนเรื่องการเจรจาการค้า ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าสหรัฐฯ จะคิดทำ เราก็ทำอะไรไม่ได้”นางศุภจีกล่าว

นางศุภจีกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ส่งสัญญาณไปยังสหรัฐฯ มาโดยตลอดว่าไทยมีความจริงใจและพร้อมเจรจาทุกเมื่อ หากสหรัฐฯ พร้อม ไทยก็พร้อม แต่หากสหรัฐฯ ยังไม่พร้อม ก็ไม่ถือว่าไทยเสียหายใด ๆ เนื่องจากขณะนี้ไทยยังคงถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้ 19% เช่นเดิม และยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอัตราจัดเก็บ โดยขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ รวมถึงทีมเจรจา ก็ยังหารือกับทุกภาคส่วนอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ได้หยุดดำเนินการใด ๆ

ทั้งนี้ หากไม่สามารถปิดการเจรจาได้ตามเป้าหมายภายในสิ้นปีนี้ กระทรวงพาณิชย์และรัฐบาลไม่ได้กังวล เพราะหากการเจรจาล่าช้าออกไป สหรัฐฯ จะไม่ได้ประโยชน์จากไทยอย่างที่เคยยื่นข้อเสนอไว้ในการเจรจากับไทย และจะได้ประโยชน์ล่าช้าออกไป

สำหรับกรณีที่ศาลสูงสุดสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพิจารณาคดีการใช้อำนาจประธานาธิบดีออกคำสั่งฝ่ายบริหารเพื่อใช้มาตรการภาษีกับประเทศต่าง ๆ เป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมายหรือไม่นั้น เห็นว่า หากผลออกมาว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขตของกฎหมาย และอาจจะต้องยกเลิกมาตรการภาษีนั้น ไทยก็ไม่ต้องเจรจากับสหรัฐฯ ต่อ ทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม และไม่ต้องถูกเก็บภาษีตอบโต้ 19% รวมทั้งภาคเอกชน อาจต้องกลับมาคำนวณภาษีที่จ่ายไปแล้ว และดำเนินการขอคืนตามขั้นตอนเท่านั้น แต่หากรัฐบาลสหรัฐฯ ชนะคดี ก็จะต้องเจรจากับสหรัฐฯ เหมือนเดิม

“ไม่กังวลความล่าช้าของการเจรจา เพราะประเทศอื่น ๆ ก็ยังเจรจาไม่เสร็จเหมือนกัน อย่างอินโดนีเซีย ที่สหรัฐฯตั้งเป้าหมายจะจบให้ในเดือน พ.ย.2568 จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่จบ ส่วนไทยไม่น่าจะทันสิ้นปีนี้ แต่ความล่าช้า จะดีตรงที่ทำให้ไทยสามารถรอคำตัดสินของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ได้ และจะได้ใช้เป็นแนวทางการเจรจาต่อไป อีกทั้งยังได้รู้ข้อมูลของประเทศต่าง ๆ ที่เจรจาจบก่อนแล้วด้วย เพื่อที่ไทยจะศึกษาและนำมาใช้ในการเจรจาเพื่อไม่ให้เสียเปรียบคู่แข่ง”


กำลังโหลดความคิดเห็น