ความชัดเจน-ความคิดเห็น-เพื่อน-การแสดงความรู้สึก
Tinder เผยรายงานประจำปี Year In Swipe™ 2568 คนโสดรุ่นใหม่กำลังปรับตัวเรื่องความรัก ด้วยการละทิ้งความสัมพันธ์ที่
ไม่ชัดเจน หันมาทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน และสนุกกับการเชื่อมต่อกันอีกครั้ง
ถ้าปี 2567 เป็นปีแห่งการออกเดทที่มีจุดมุ่งหมาย ปี 2568 ก็เป็นปีที่ทุกอย่างกลับสู่ความสงบ คนโสดปรับจังหวะช้าลง เผยตัวตนมากขึ้น และเริ่มสื่อสารว่าต้องการอะไร ข้อมูลจาก Tinder ชี้ว่า คนโสดนิวเจนกำลังก้าวเข้าสู่ปี 2569 พร้อมเปิดใจกว้าง ซื่อสัตย์ และ
มีความฉลาดทางอารมณ์มากกว่าที่เคย ส่งผลให้ปี 2569 มีแนวโน้มที่จะเป็นปีของความสัมพันธ์ไร้ความคลุมเครือ
กระแสการมีแฟนเป็นเรื่องน่าอาย (Boyfriends Are Embarrassing) ทำให้เรื่องการออกเดทเป็นเรื่องท้าทาย
เทรนด์ไวรัลต่าง ๆ ที่แพร่หลายตลอดทั้งปี ตั้งแต่มีม “การมีแฟนเป็นเรื่องน่าอาย” ไปจนถึงการเปิดตัวความสัมพันธ์แบบเนียน ๆ สะท้อนให้เห็นว่าคนโสดไม่ได้หลีกหนีความรัก แต่กำลังนิยามความสัมพันธ์ใหม่ในแบบของตัวเอง จากเดิมที่ความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานะ แต่ปัจจุบันคือการแสดงออกถึงตัวตนซึ่งเป็นเรื่องใหม่
การออกเดทบน Tinder นั้นได้เปลี่ยนแปลงไปและสะท้อนผ่านเทรนด์ที่ขับเคลื่อนด้วยความมั่นใจ เช่น Clear-Coding, Hot-Take Dating, Friendfluence และ Emotional Vibe Coding ซึ่งเป็นการแสดงอารมณ์อย่างจริงใจ และการสื่อสารอย่างตรงไปตรงมา กลายเป็นคุณสมบัติสำคัญในการพัฒนาความสัมพันธ์ การเดทจึงไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่เป็นเรื่องของความชัดเจน การเชื่อมต่อกัน และการได้กำหนดเรื่องราวของตัวเอง
เมลิสซ่า ฮ็อบลีย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ Tinder กล่าวว่า “คนเรามีเรื่องที่ต้องรับผิดชอบมากมายพอแล้ว ดังนั้นการออกเดทไม่ควรเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกกดดัน ปัจจุบัน คนโสดกำลังมองหาความสัมพันธ์สบาย ๆ ซื่อสัตย์ต่อกัน และสนุกสนาน เลิกคิดมากกับทุกข้อความ และไม่วิเคราะห์คู่เดทเกินความจำเป็น การเดทควรเพิ่มสีสันให้ชีวิต ไม่ใช่ความเครียด ซึ่งในปี 2569 เราจะเห็นพลังงานนี้เด่นชัดที่คนโสดสื่อสารความต้องการของตัวเองชัดเจน ยืนหยัดในสิ่งที่เชื่อ และให้ความสำคัญกับความจริงใจและการเปิดใจ การมีความพร้อมเปิดใจรับความสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องน่าอาย แต่จะทำให้คุณมีความน่าสนใจมากขึ้น”
เทรนด์การออกเดทปี 2569
1. ความชัดเจน (Clear-Coding) เมื่อความสัมพันธ์มาพร้อมกับคำนิยามของความชัดเจน
คนโสดรุ่นใหม่จะไม่นั่งเดา หรือทำตัวลึกลับซับซ้อนอีกต่อไป แต่จะให้ความสำคัญกับความชัดเจน กล้าเปิดเผยในสิ่งที่ตัวเองต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการนัดออกเดทแบบจริงจัง คุยแบบสบาย ๆ หรือคบกันแบบจริงจังระยะยาว
จำนวน 64% ของคนโสดระบุว่า ความซื่อสัตย์ทางอารมณ์ คือสิ่งที่ให้ความสำคัญมากที่สุดในการเดทยุคนี้ และ 60% ต้องการการสื่อสารที่แสดงเจตนาชัดเจน ผู้ที่ออกเดทในปัจจุบันจึงเลือกสื่อสารง่าย ๆ และพูดตรงไปตรงมา ในขณะเดียวกัน 73% ยอมรับว่า รู้ตัวว่าชอบใครสักคนเมื่อสามารถเป็นตัวของตัวเองได้เมื่ออยู่กับคนนั้น
เมื่อพูดถึงการแสดงด้านที่ดีที่สุดของตนเอง 76% กล่าวว่า ใช้ AI ในการออกแบบการออกเดทของตัวเอง ซึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ให้ AI แนะนำไอเดียการออกเดท (39%) เลือกรูปที่ดีที่สุด (28%) และช่วยคิดประวัติส่วนตัวแนะนำตัว (28%)
2. การแสดงความคิดเห็น (Hot-Take Dating) เมื่อความคิดเห็นเป็นเสน่ห์อีกหนึ่งอย่าง
คนโสดรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการมีจุดยืนในสิ่งที่เชื่อ โดย 37% ของคนโสด ระบุว่าการมีค่านิยมร่วมกัน เป็นสิ่งที่จำเป็นในการออกเดท ส่วนอีก 41% จะไม่ออกเดทกับคนที่มีมุมมองทางการเมืองที่แตกต่างกัน แต่เกือบครึ่งหนึ่ง (ประมาณ 46%) บอกว่ายังพอเปิดใจได้ แต่ผู้หญิงจะมีสัดส่วนน้อยกว่า (35%) ผู้ชาย (60%)
เรื่องนี้ไม่ใช่การแบ่งแยก แต่เป็นเรื่องของการเป็นตัวของตัวเอง คนโสดมองหาคู่เดทที่เชื่อในหลักการเดียวกัน ตั้งแต่ความเท่าเทียมไปจนถึงความเห็นอกเห็นใจ ส่วนเรื่องที่ทำให้ความสัมพันธ์ไปต่อไม่ได้คือ การเหยียดเชื้อชาติ (37%), มุมมองเรื่องครอบครัว (36%), และสิทธิของกลุ่มเพศหลากหลาย (32%) และเมื่อพูดถึงสิ่งที่ใคร ๆ ให้ความสำคัญคือความใจดียังครองอันดับหนึ่ง ขณะที่ 54% บอกว่าพฤติกรรมที่รับไม่ได้ที่สุดคือ การพูดจาหยาบคายหรือเหวี่ยงใส่พนักงานบริการ
3. อิทธิพลของเพื่อนสนิท (Friendfluence) เมื่อเพื่อนสนิทมีอิทธิพลต่อการเลือกคู่เดท
แมตช์เมกเกอร์ตัวจริงแห่งปี 2569 คือ…กรุ๊ปแชท ของเพื่อน! 42% ของคนโสดรุ่นใหม่บอกว่าเพื่อนมีอิทธิพลต่อการออกเดท และ 37% วางแผนที่จะออกเดทแบบกลุ่มหรือแบบเป็นคู่ในปีหน้า เพื่อนจึงกลายเป็นเหมือนผู้ช่วยด้านอารมณ์ของการเดทยุคปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้น 34% บอกว่าความสัมพันธ์ของเพื่อนทำให้พวกเขามีหวังกับความสัมพันธ์ในอนาคต
ในปี 2569 ถ้าคู่ Match ไม่ผ่านด่านกรุ๊ปแชท ทุกอย่างจบทันที เกือบ 85% ของผู้ใช้ฟีเจอร์ Double Date อายุต่ำกว่า 30 ปี และผู้ใช้หลัก ๆ เป็นผู้หญิง เพราะมีโอกาสที่จะ 'Like' และ Match กับโปรไฟล์คู่มากกว่าโปรไฟล์เดี่ยว9ถึงเกือบ 3 เท่า และผู้ใช้ฟีเจอร์ Double Date มีการส่งข้อความมากขึ้นเฉลี่ย 25% เมื่อเทียบกับแชทเดี่ยวตัวต่อตัว10
4. การแสดงอารมณ์และความรู้สึก (Emotional Vibe Coding) ความพร้อมทางอารมณ์คือเสน่ห์ และคนโสดไม่ปิดกั้นทางอารมณ์อีกต่อไป
คนโสดที่กำลังมองหาคนรู้ใจในปี 2569 จะต้องบาลานซ์ระหว่างการพูดคุยและความรู้สึก โดยแสดงให้เห็นว่าต้องการเคมีที่มีความหมายแต่ไม่ซับซ้อนเกินไป 56% ให้ความสำคัญกับบทสนทนาที่จริงใจมากที่สุด 45% ต้องการความเห็นอกเห็นใจมากขึ้นหลังจากโดนปฏิเสธ และคำที่ใช้นิยามการเดทปี 256911 มากที่สุดคือ "มีความหวัง" เรียกได้ว่า ความหวังเป็นสิ่งที่กำลังมาแรง และคนโสดก็ไม่กลัวที่จะแสดงออกมา
เดทแรกควรมีบรรยากาศสนุก ๆ ไม่กดดัน เช่น การเดินเล่นหรือการดื่มกาแฟ เพราะคนโสดมองหาความสัมพันธ์ที่เข้ากับจังหวะชีวิตตัวเอง โดย 35% ยังมองหาคนรักที่ "ค่อย ๆ พัฒนาความสัมพันธ์แบบชิล ๆ" (ผู้หญิง 33%, ผู้ชาย 38%) คนที่ทำให้เกิดความรู้สึกสบาย ๆ ไม่ดราม่า และให้พลังงานดี ๆ นอกจากนี้ บางคนไม่กลัวที่จะรู้สึกผิดหวัง 28% บอกว่าชอบความรู้สึกที่ได้แอบชอบ ถึงแม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้ไปต่อ12 สิ่งนี้เป็นข้อพิสูจน์ว่า คนรุ่นใหม่ยังคงใช้การเดทเพื่อเขียนเรื่องราวในชีวิตให้กับตัวเอง (dating for the plot)
อิโมจิยอดนิยมบน Tinder ทั่วโลก
1. 🫦 “สัญลักษณ์ที่บอกว่าปิ๊ง”
อิโมจิ 🫦 ที่นิยมใช้ในปีนี้ และมักใช้ปิดท้ายหลังข้อความทุก ๆ ครั้งเวลาจีบใครสักคน ซึ่งหมายถึง “สนใจแล้วนะ” แสดงถึงความขี้เล่นมั่นใจ และแอบโปรยเสน่ห์เล็ก ๆ
2. 🕯 “ชีวิตละมุน ๆ ฟีลใต้แสงเทียน”
คนโสดรุ่นใหม่กำลังหนีความดราม่า และมองหาความสงบ อิโมจินี้สะท้อนว่า 50% ให้ความสำคัญกับเวลาและความอบอุ่นสบาย ๆ เมื่อออกเดท อิโมจิ 🕯 ยังสื่อถึงความสัมพันธ์ที่พัฒนาไปอย่างช้า ๆ มีสติ และให้ความรู้สึกอบอุ่นมากกว่าความว้าวุ่น ที่กำลังจะกลายเป็นเคมี และอนาคตของการออกเดท “แบบชิล ๆ ไม่เร่งรีบ”
3. 🪶“แค่เบา ๆ แต่ความหมายลึกซึ้ง”
คนโสดใช้อิโมจิ 🪶 บนประวัติส่วนตัวเพิ่มมากขึ้นและบ่งบอกถึงการไม่คิดมาก 56% ของคนโสดนิวเจนต้องการบทสนทนาที่จริงใจมากขึ้น และมากไปกว่านั้น 64% ระบุว่าต้องการความเปิดเผยทางด้านอารมณ์มากที่สุดในระหว่างการออกเดท อิโมจิ 🪶จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงความเข้าใจด้านอารมณ์และความรู้สึก
4. 🪽“‘Angel energy’ ความสำคัญของพลังบวก”
อิโมจิ 🪽 กลายเป็นสัญลักษณ์ของความมั่นใจที่ปังที่สุดในปีนี้ คนโสดนิวเจนออกเดทด้วยความหวังและความเข้าใจในตัวเอง โดยคำว่า "ความหวัง" ถูกใช้มากที่สุดในการเล่าถึงชีวิตการออกเดทในปี 2568 ขณะที่ 52% กล่าวว่าการเติบโตมีผลต่อการกำหนดสไตล์การออกเดท 🪽ยังแสดงถึงการดูแล ความสมดุล และวุฒิภาวะทางอารมณ์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้พร้อมที่จะพาคนโสดเข้าสู่ปี 2569 อย่างมั่นใจ
5. ⚧ “ความรักแบบไม่มีป้ายกํากับ”
อิโมจิ ⚧ แสดงถึงการไม่แบ่งแยก เมื่อคนโสดเปิดรับความลื่นไหลและเปิดกว้างในการออกเดทมากขึ้น 32% กล่าวว่าคู่เดทจะต้องตระหนักถึงสิทธิและความเท่าเทียมกันของกลุ่มเพศหลากหลาย นอกจากนี้ อิโมจินี้ยังหมายถึงการเชื่อมต่อที่ไร้ขอบเขตอีกด้วย


