กรมการค้าต่างประเทศแจ้งข่าวดี ตลาดสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) สนใจซื้อมันสำปะหลังจากไทยไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ กระดาษ และบรรจุภัณฑ์ หลังนำคณะผู้แทนการค้าภาครัฐและเอกชนบุกไปเจรจาถึงที่ เผยหลังจากนี้จะมีการเจรจาเพิ่มเติมในรายละเอียดสินค้าและการซื้อขายต่อไป คาดช่วยหนุนยอดส่งออก สร้างความมั่นใจเกษตรกรมีตลาดรองรับ และผลักดันให้ราคาปรับตัวดีขึ้น
นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการนำคณะผู้แทนภาครัฐและเอกชนไปขยายตลาดส่งออกผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังของไทย ที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ระหว่างวันที่ 19-21 พ.ย. 2568 ที่ผ่านมา ว่า คณะได้เข้าพบและหารือกับผู้นำเข้าชั้นนำของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แก่ บริษัท IFFCO Animal Nutrition (IAN) บริษัท Aldahra และ Al Ain farms ซึ่งเป็นผู้ผลิตและผู้ใช้อาหารสัตว์รายใหญ่ของประเทศ โดยกรมได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการใช้มันสำปะหลังในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ เข้าร่วมชี้แจงคุณค่าทางโภชนาการและประโยชน์ของการใช้มันสำปะหลังเป็นวัตถุดิบในสูตรอาหารสัตว์ ส่งผลให้หลายบริษัทมีความสนใจที่จะนำเข้ามันสำปะหลังของไทยเพื่อทดลองใช้ในสูตรอาหารสัตว์ โดยจะมีการเจรจาเพิ่มเติมในรายละเอียดของสินค้าและการซื้อขายกับผู้ส่งออกไทยต่อไป
ทั้งนี้ คณะผู้แทนยังได้เข้าพบ บริษัท Ittihad Paper Mill (IPM) ผู้ผลิตกระดาษรายใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ได้แสดงความสนใจในการใช้แป้งมันสำปะหลังแปรรูปจากไทยในกระบวนการเคลือบกระดาษ (Paper coating) และบรรจุภัณฑ์จากมันสำปะหลังที่ย่อยสลายได้ ซึ่งเป็นสินค้านวัตกรรมที่มีมูลค่าสูง โดยจะมีการหารือเพิ่มเติมในรายละเอียดด้านคุณสมบัติของสินค้าที่สอดคล้องกับความต้องการของ IPM เพื่อพัฒนาความร่วมมือเชิงพาณิชย์ในอนาคตด้วย
นางอารดากล่าวว่า การแสดงความสนใจจากผู้ประกอบการรายใหญ่ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณบวกที่สะท้อนถึงประสิทธิผลของการดำเนินงานตามนโยบายของนางศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้เร่งขยายตลาดส่งออกมันสำปะหลัง รักษาเสถียรภาพราคาผลผลิต และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรไทย เพราะหากสามารถขยายตลาดมันสำปะหลังไปยังตะวันออกกลางได้ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรว่าผลผลิตของตนมีตลาดรองรับที่มั่นคง ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมในระยะยาว
“จากนี้ไปกรมจะติดตามผลการเจรจาครั้งนี้อย่างใกล้ชิด เพื่อขยายผลให้เกิดการนำเข้ามันสำปะหลังของไทยในปริมาณมากขึ้น โดยอาศัยจุดแข็งด้านคุณภาพมาตรฐาน ความเชี่ยวชาญในการผลิต และคุณค่าทางโภชนาการที่เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ซึ่งทำให้สินค้ามันสำปะหลังไทยสามารถตอบโจทย์ทั้งอุตสาหกรรมอาหารสัตว์และอุตสาหกรรมต่อเนื่องในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สามารถผลักดันขายเข้าสู่ตลาดซาอุดิอาระเบียได้แล้ว” นางอารดากล่าว


