นายไพโรจน์ อภิรักษ์นุสิทธิ์ ผู้อำนวยการใหญ่ ธุรกิจสัตว์น้ำครบวงจรเขตประเทศไทย บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เปิดเผยในโอกาสเข้าร่วมจัดนิทรรศการ ให้ความรู้ในการ ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์น้ำคาร์บอนต่ำ ร่วมกับกรมประมง ณ โรงแรมทีเค. พาเลซ แอนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพ ว่า บริษัทมีบทบาทการพัฒนาระบบเลี้ยงกุ้งยั่งยืนตลอดห่วงโซ่ซัพพลาย เพื่อสนับสนุนการมุ่งสู่เป้าหมาย NET-ZERO ภายในปี 2050 ทำให้บริษัทเป็นผู้ผลิตอาหารแห่งแรกของโลกที่ได้รับการอนุมัติเป้าหมายจาก the Science Based Targets initiative (SBTi) ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อรักษาอุณหภูมิของโลกไม่ให้สูงขึ้นกว่า 1.5 องศาเซลเซียส
“การวางระบบการเลี้ยงกุ้งคาร์บอนต่ำเป็นส่วนหนึ่งของการเลี้ยงกุ้งแบบยั่งยืน ซึ่งบริษัทได้ตระหนักถึงความสำคัญและให้การดูแลตั้งแต่ต้นน้ำ-ปลายน้ำ จากการเลือกวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ปลาป่นตรวจสอบย้อนกลับได้ ไม่ใช้แรงงานที่ผิดต่อกฎหมาย IUU ทั้งยังมีการจัดการพลังงาน ยกเลิกการใช้ถ่านหิน 100% หันมาใช้พลังงานชีวมวลแทน และมีการบริหารจัดการน้ำ ประยุกต์หลัก 3Rs (Reduce–Reuse–Recycle) นำน้ำที่ใช้แล้ว หมุนเวียนกลับมาใช้ใหม่ ลดการใช้น้ำได้กว่า 70% โดยผ่านกระบวนการกรองและบำบัดตามมาตรฐานเยอรมนี ตลอดจนการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ในการเลี้ยง”
ปัจจุบันซีพีเอฟได้รับการรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มกุ้ง ทั้งหมด 40 ผลิตภัณฑ์ ทั้งกลุ่มอาหารกุ้ง ผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ผลิตภัณฑ์จากฟาร์มกุ้ง และอาหารแปรรูปจากกุ้ง คือ บะหมี่เกี๊ยวกุ้ง เกี๊ยวกุ้ง กุ้ขาวแกะเปลือก และกุ้งขาวแกะเปลือก ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่มองหาผู้ผลิตที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
สำหรับนิทรรศการนี้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมาในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เรื่อง “การเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลคาร์บอนต่ำ: ความร่วมมือเพื่ออนาคตยั่งยืน” เป็นการดำเนินการขึ้นสุดท้ายภายใต้โครงการ “การพัฒนาการรับรองการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำคาร์บอนต่ำ ในประเทศไทย” ซึ่งเป็นความร่วมมือที่กรมประมงได้รับการสนับสนุนจากองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประจำภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก
ดร. ฐิติพร หลาวประเสริฐ อธิบดีกรมประมงเป็นประธานเปิดงาน และเยี่ยมชมบูธ ซีพีเอฟ โดยมีนายธีรพงศ์ บ้านกล้วย รองผู้อำนวยการสำนัก SHE&En และ CSR ธุรกิจสัตว์น้ำครบวงจร เขตประเทศไทย ซีพีเอฟ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ พร้อมอธิบายถึงเป้าหมายซีพีเอฟมุ่งมั่นสู่ลดก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ ในปี 2050 จากการใช้พลังงาน 42% ในปี 2030 เป็น 90% ในปี 2050 และจากการเปลี่ยนแปลงการจัดการที่ดิน 30.3% ในปี 2030 เพิ่มเป็น 72% ในปี 2050


