เทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เทคโนโลยีเอไอ ต่อยอดการพัฒนาสู่เมืองสมาร์ทซิตี้ โดยเน้นการแก้ปัญหาจราจร ยกระดับสาธารณสุข และการศึกษา ลดปัญหาอาชญากรรม เร่งพัฒนา City Data Platform จัดทำฐานข้อมูลขนาดใหญ่แก้ปัญหาเมือง เพิ่มศักยภาพด้านเศรษฐกิจ ตั้งเป้าเข้าร่วมงาน Thailand Smart City Expo 2025 เพื่ออัพเดทเทคโนโลยีใหม่ ต่อยอดพัฒนาเมือง
นายวรรณรัตน์ ชาญนุกูล นายกเทศมนตรีนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการเปลี่ยนแปลงของการใช้ชีวิตในสังคมเมืองที่ต้องการโครงสร้างพื้นฐานที่ตอบโจทย์โลกยุคใหม่ที่ต้องใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในทุก ๆ ด้าน ดังนั้นเทศบาลนครนครราชสีมา จึงมุ่งมั่นในการยกระดับ “เมืองโคราช” ไปสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้ที่อำนวยความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต การทำงาน และการดำเนินธุรกิจ รวมไปถึงการเพิ่มความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
โดยเป้าหมายในการเข้าร่วมงาน Thailand Smart City Expo 2025 ในปีนี้ จะเข้ามาเรียนรู้สถานการณ์การพัฒนาสมาร์ทซิตี้ในปัจจุบัน ทั้งการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ของไทยในพื้นที่ต่าง ๆ และความก้าวหน้าของสมาร์ทซิตี้ในต่างประเทศ รวมทั้งอัพเดทเทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อนำมาประยุกต์ใช้ในสมาร์ทซิตี้เมืองโคราช ให้ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนให้ได้มากที่สุด และยังเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับผู้ที่มีประสบการณ์จริงในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ ซึ่งในการจัดงาน Thailand Smart City Expo 2025 ได้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Activating Smart Cities, Elevating Smart Living การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 5 – 7 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งเป็นธีมงานที่เหมาะสมในการพัฒนาเมืองโคราชให้เติบโตอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเทศบาลนครนครราชสีมาได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับเมืองไปสู่การเป็นสมาร์ทซิตี้มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของ e-government เข้ามาปรับปรุงการทำงานของหน่วยราชการ การใช้ E-Service เข้ามาปรับปรุงการให้บริการกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้นำร่องในการให้บริการขอจ่ายน้ำประปา การจ่ายค่าบริการ การรับเรื่องร้องเรียนผ่านระบบออนไลน์ และยังได้นำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการภายในเทศบาล เพื่อความรวดเร็ว คล่องตัว และลดการใช้กระดาษ ซึ่งในระยะต่อไปจะนำระบบดิจิทัลเข้ามาใช้ในการอนุมัติ อนุญาตผ่านระบบออนไลน์ เพื่อลดความยุ่งยาก ลดเวลาการดำเนินงาน เพิ่มความโปร่งใส และเพิ่มความสะดวกให้กับประชาชน
นอกจากนี้ ยังได้นำเทคโนโลยีกล้องซีซีทีวีเข้ามาใช้ในการบริหารจัดการระบบจราจร และการขนส่ง เพื่อแก้ปัญหารถติด ลดการเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งล่าสุดได้นำระบบเอไอ เข้ามาใช้วิเคราะห์ภาพที่ได้จากกล้องซีซีทีวีที่ติดตั้งในตัวเมืองทั้งหมด ทำให้มีความแม่นยำสูง ช่วยให้การแก้ปัญหาจราจรเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยลดภาระงานของพนักงาน อีกทั้งยังเพิ่มประสิทธิภาพในด้านการปราบปรามอาชญากรรม ซึ่งที่ผ่านมาได้เกิดเหตุนักโทษแหกคุก ก็ได้ระบบกล้องซีซีทีวีอัจฉริยะมาติดตามคนร้ายจับกุมได้อย่างรวดเร็ว รวมทั้งการบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม โดยติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ และน้ำ เพื่อให้ได้ผลการตรวจสอบที่รวดเร็ว และมีฐานข้อมูลขนาดใหญ่ นำมาใช้ในการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และการป้องกันก่อนเกิดปัญหา
รวมทั้งจะนำระบบเอไอ มายกระดับการให้บริการด้านสาธารณสุข เช่น การจัดทำฐานข้อมูลประวัติของผู้ป่วย การทำคิวนัดหมาย เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างรวดเร็วไม่ต้องมาต่อคิวนานเหมือนในอดีต และการนำเอไอมาใช้ในระบบการเสียภาษี เช่น ภาษีที่ดินสิ่งปลูกสร้าง ภาษีป้าย และภาษีอื่น ๆ ผ่านระบบออนไลน์ รวมทั้งการนำระบบเอไอ มาใช้ในโรงเรียนของเทศบาลฯ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเรียนการสอนให้กับครูและนักเรียน
ตลอดจนการบูรณาการระบบแอพพลิเคชั่นต่าง ๆ ของเมือง ที่มีเป็นจำนวนมาก ทั้งของส่วนราชการ และการให้บริการสาธารณะต่าง ๆ ให้มีความเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกัน และลดความยุ่งยากในการใช้งาน โดยแผนงานทั้งหมดนี้จะอยู่ภายใต้ศูนย์บริหารจัดการสมาร์ทซิตี้ ซึ่งได้ก่อสร้างสร้างอาคารเสร็จแล้ว อยู่ระหว่างการติดตั้งระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ต่าง ๆ
สำหรับแผนการดำเนินงานในขั้นต่อไป ได้ร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเข้ามาทำแผนพัฒนาระบบสมาร์ทซิตี้ของเทศบาลนครราชสีมา จัดทำระบบ City Data Platform คาดว่าจะส่งมอบงานได้ภายในเดือนพ.ย.นี้ ซึ่งจะทำให้เกิดฐานข้อมูลขนาดใหญ่นำไปใช้พัฒนาเมืองในด้านต่าง ๆ รวมไปถึงด้านเศรษฐกิจ ซึ่งภาคเอกชนสามารถมาใช้ข้อมูลเหล่านี้ในการวางแผนการทำธุรกิจ การลงทุน การพัฒนาการท่องเที่ยว เป็นต้น ส่งผลให้เกิดการพัฒนาอย่างสมดุลรอบด้านทั้งความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อม การดำเนินชีวิต และด้านเศรษฐกิจ
นายวรรณรัตน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเทศบาลนครนครราชสีมา ยังได้ขยายร่วมมือถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์จากสถาบัน KDI ของเกาหลีใต้ ร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน ในการพัฒนาระบบการบูรณาการข้อมูลให้ทุกหน่วยราชการใช้ข้อมูลร่วมกัน มีแพลตฟอร์มเดียวกัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชนชน ตลอดจนการร่วมมือกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในการพัฒนาบุคลากรของเทศบาลให้มีจำนวนที่เพียงพอ และสามารถรองรับเทคโนโลยีสมาร์ทซิตี้สมัยใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“ในการพัฒนาสมาร์ทซิตี้ที่ผ่านมาประชาชนให้การตอบรับดีมาก เข้ามาใช้บริการผ่านระบบออนไลน์ต่าง ๆ ของเทศบาลฯ โดยเฉพาะใช้ในการจ่ายค่าน้ำประปา ที่มีสัดส่วนการจ่ายระบบออนไลน์เพิ่มขึ้นเป็น 60% และการส่งเรื่องเรียนต่าง ๆ ผ่านโคราชซิตี้แอพพลิเคชั่นเป็นจำนวนมาก ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนได้เร็วขึ้น และประชาชนเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ของเทศบาลฯได้มากขึ้น” นายวรรณรัตน์ กล่าว


