xs
xsm
sm
md
lg

GULF แจงผลกระทบโครงการซื้อหุ้นคืน KBANK จ่อทยอย COD โรงไฟฟ้าโซลาร์ฯ เพิ่มอีก 6 โครงการ ธ.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กัลฟ์ฯยันการลงทุนหุ้นธนาคารกสิกรไทยเพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นซึ่งโครงการซื้อหุ้นคืนของธนาคารกสิกรไทย โดยบริษัทมีสิทธิซื้อหรือขายหุ้น KBANK แม้ว่าจะได้รับหนังสือขอความร่วมมืออย่าขายหุ้นที่ถืออยู่ก็ตาม เผยโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์ม “อีสาน คลีน เทค” กำลังผลิต 37.8 เมกะวัตต์จ่ายไฟเข้าระบบแล้ว ยังเหลืออีก 6 โครงการรวม 316.5 เมกะวัตต์ที่จะทยอย COD ในเดือนธันวาคมนี้

นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทฯ ได้รับข้อชักถามจากผู้ลงทุนและผู้ถือหุ้นเกี่ยวกับผลกระทบต่อบริษัทฯ จากกรณีที่คณะกรรมการธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อการบริหารทางการเงิน และได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2568 โดยกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืนระหว่างวันที่ 14 พฤศจิกายน 2568 ถึงวันที่ 13 พฤษภาคม 2569

อนึ่ง ในวันเดียวกัน ธนาคารฯ ได้มีหนังสือขอความร่วมมือมายังบริษัทฯ เพื่อขอความร่วมมือมิให้บริษัทฯ จำหน่ายหุ้นของ
ธนาคารฯ ในช่วงเวลาดังกล่าว

ดังนั้นบริษัทฯ ขอชี้แจงว่า การลงทุนในหุ้นของธนาคารกสิกรไทยของบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดให้แก่บริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มิได้มีการแต่งตั้งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการหรือฝ่ายบริหารของธนาคารฯ และมิได้มีส่วนในการบริหารจัดการหรือกำหนดนโยบายของธนาคารฯ รวมถึงนโยบายการซื้อหุ้นคืนดังกล่าว

ดังนั้น การประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนของธนาคารฯ มิได้เป็นการจำกัดสิทธิของบริษัทฯ ในการซื้อหรือขายหุ้นของธนาคารฯแต่อย่างใด โดยธนาคารฯ ต้องดำเนินการภายใต้กฎระเบียบของหน่วยงานกำกับดูแลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง บริษัทฯ ในฐานะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีหน้าที่ดำเนินการเพื่อประโยชน์สูงสุดของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น

นางสาวยุพาพินกล่าวว่า บริษัท อีสาน
คลีน เทค จำกัด (ICT) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทฯ ถือหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 100 ผ่านบริษัท กัลฟ์ รีนิวเอเบิล เอ็นเนอร์จี จำกัด ("GRE") และเป็นผู้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดิน (solar farms) ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 37.8 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้ง 49.8 เมกะวัตต์) ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD)ไปเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามกำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โครงการดังกล่าวเป็นหนึ่งในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในประเทศไทยภายใต้กลุ่ม GRE ซึ่งได้รับการคัดเลือกตามระเบียบคณะกรรมการกํากับกิจการพลังงานว่าด้วยการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tarrif (FiT)ปี 2565-2573 สำหรับกลุ่มที่ไม่มีต้นทุนเชื้อเพลิง พ.ศ. 2565 มีกำหนดทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ระหว่างปี 2567-2573

โดยในปี 2567 มีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ได้เปิดดำนินการเชิงพาณิซย์แล้วจำนวน 5 โครงการ ขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญารวม 295.0 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติตติดตั้ง 531.8 เมกะวัตต์) สำหรับปี 2568 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์มีกำหนดทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์เพิ่มเติมอีก 7 โครงการ รวมกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญา 354.3 เมกะวัตต์ (กำลังการผลิตติดตั้ง 596.8 เมกะวัตต์) โดยที่เหลืออีก 6 โครงการจะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในช่วงเดือนธันวาคมของปีนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น