xs
xsm
sm
md
lg

UTA ดึง ‘มิวนิก’ ร่วมบริหาร”สนามบินอู่ตะเภา”- รอ”บอร์ดอีอีซี”เคาะปรับสเกลลงทุนเฟสแรก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



UTA ดึง ‘มิวนิก’ ร่วมบริหารสนามบินอู่ตะเภา เน้นด้านเทคนิค พร้อมเริ่มงานรอแค่สรุปสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน ด้าน”อีอีซี” ให้ศึกษา ตัวเลขผู้โดยสารตลอดสัมปทาน 50 ปี หลังมีหลายปัจจัยกระทบ เผย ‘พิพัฒน์’ นัดประชุมบอร์ดกพอ.นัดแรก 3 พ.ย.นี้

รายงานข่าวจาก บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จำกัด (UTA) ผู้รับสัมปทานโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 290,000 ล้านบาท เปิดเผยว่า บริษัทฯยืนยันในการลงทุนพัฒนาโครงการฯ แต่เงื่อนไขการรับมอบหนังสือให้เริ่มงาน (NTP) จากกองทัพเรือและสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) ยังไม่เรียบร้อย ซึ่ง ล่าสุดได้ขยายเวลาไปถึงเดือนธ.ค. 2568 เพื่อให้ทาง อีอีซี ดำเนินการเรื่องสิทธิประโยชน์ต่างๆ และนำไปสู่การเสนอขออนุมัติตามขั้นตอนที่ชัดเจน เพื่อให้สามารถนำไปโรดโชว์นักลงทุนได้

สำหรับเงื่อนไขการออก NTP ที่ให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) เริ่มต้นด้วยนั้น จากการหารือกับ อีอีซีตกลงไม่รอเงื่อนไขนี้แล้ว รวมถึงหารือ เรื่องการลดขนาดการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ในระยะแรกรองรับผู้โดยสารเริ่มต้นที่ 3 ล้านคน/ปี จากเดิมที่ 12 ล้านคน/ปี

รายงานข่าวจาก UTA เปิดเผยว่า สำหรับแผนการบริหารสนามบินอู่ตะเภานั้น UTA ได้ว่าจ้างบริษัท นาริตะ อินเตอร์เนชั่นแนล แอร์พอร์ต คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เข้ามาช่วยบริหารไว้แล้ว และล่าสุดได้เพิ่ม Flughafen München GmbH (FMG) บริษัทผู้บริหารท่าอากาศยานมิวนิก หรือที่รู้จักในชื่ออย่างเป็นทางการว่า ท่าอากาศยานฟรันซ์ โยเซฟ ชเตราสส์ (Franz Josef Strauss International Airport) ประเทศเยอรมนี เพื่อมาช่วยดูแลงานทางเทคนิคของสนามบินอีกทางหนึ่งด้วย

@“พิพัฒน์”นั่งหัวโต๊ะครั้งแรก ถกบอร์ดกพอ. 3 พ.ย.

ด้านนายจุฬา สุขมานพ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ทาง UTA ขอสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนในโครงการสนามบินอู่ตะเภามากว่า 10 ข้อ เป็นมาตรการทางภาษีทั้งหมด อาทิ ขอยกเว้นภาษีขาเข้า ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับพื้นที่ปลอดภาษี การให้สิทธิพิเศษผู้ที่ใช้จ่ายใน Free Trade Zone มากกว่า 200,000 บาท/ปี เป็นต้น ซึ่งทาง UTA ต้องการให้เสนอให้บอร์ด อีอีซี และคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาให้ความเห็นชอบโดยเร็ว

ทั้งนี้ ในข้อเสนอที่ต้องการลดขนาดอาคารผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภา เหลือ 3 ล้านคน/ปีนั้น อีอีซี ขอให้ UTA ทำประมาณการผู้โดยสารของสนามบินอู่ตะเภา ใหม่ ว่า ปัจจัยต่างๆ จะมีผลต่ออัตราการเติบโตของผู้โดยสารอย่างไร และ ตลอดระยะเวลาสัมปทาน 50 ปี จำนวนผู้โดยสารจะเป็นอย่างไร ขณะที่ ตามแผนเดิมโครงการได้มีการคาดการณ์จำนวนผู้โดยสาร ตลอดอายุสัมปทานรวมที่ 60 ล้านคน/ปี แต่จากปัจจัยด้านการพัฒนาขีดความสามารถของสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองของ ทอท. อาจจะมีผลต่อการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารสนามบินอู่ตะเภา ที่อาจจะลดลงหรือไม่


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 3 พ.ย.นี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.หรือ บอร์ดอีอีซี)  ได้นัดประชุมบอร์ดอีอีซี นัดแรกภายใต้รัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งวาระการประชุมยังไม่มีอะไรมาก ส่วนใหญ่เป็นการรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานต่างๆ

สำหรับประเด็นโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่ มีนโยบายที่จะให้เอกชนดำเนินการต่อขยายเส้นทางไปถึงจังหวัดตราดนั้น นายจุฬากล่าวว่า เรื่องนี้อาจจะมีการหารือกันในเบื้องต้น ซึ่งต้องรอข้อมูลจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก่อนว่าจะเอาอย่างไรกันแน่


กำลังโหลดความคิดเห็น