ผู้จัดการรายวัน 360 - วันสยาม ผนึกกำลังโกลบอลเดสติเนชั่นใจกลางกรุงเทพฯ ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ตอบรับมาตรการ “มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว” 29 ตุลาคม – 15 ธันวาคม 2568 มั่นใจช่วยกระตุ้นการการจับจ่าย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจในภาพรวม โดย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวไทยมาใช้สิทธิในร้านอาหารชั้นนำ โดยเฉพาะที่สยามพารากอนซึ่งล่าสุดมีร้านอาหารใหม่ๆ มาเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง เป็น Siam Paragon Dining Phenomenon ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับ ที่ผสานความยิ่งใหญ่ของกว่า 700 ร้านอาหารและคาเฟ่ระดับโลก ครอบคลุมทุกประเภทในที่เดียว
นางธณพร ตันติยานนท์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจศูนย์การค้า ONESIAM กล่าวว่า “ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยจัดทำมาตรการกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวไทยมาเที่ยวในประเทศเพิ่มขึ้นในช่วงปลายปี 2568 ครอบคลุมทั้งมาตรการที่ให้กับบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยมุ่งเน้นให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น แต่ส่งผลกระทบเพิ่มขีดความสามารถของผู้ประกอบการในระยะยาว และเกิดการกระจายตัวอย่างทั่วถึง สอดคล้องกับนโยบาย Quick Big Win ของรัฐบาล นั้น
ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ซึ่งประกอบด้วย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมสนับสนุนมาตรการของภาครัฐเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การบริโภค และการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสามารถช่วยดึงดูดและกระตุ้นให้ผู้บริโภคจับจ่าย และส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนเม็ดเงินที่เกิดขึ้นจริงในระบบเศรษฐกิจ
เพื่อสนับสนุนมาตรการดังกล่าว ศูนย์การค้ากลุ่มวันสยาม ทั้ง สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ พร้อมให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยที่สามารถใช้สิทธิตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว โดยเฉพาะในการใช้สิทธิค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป โดยมีร้านอาหารภายในกลุ่มวันสยามที่สามารถใช้สิทธิดังกล่าวมากมายทั้งที่ สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ ซึ่งลูกค้าสามารถสอบถาม ณ ร้านอาหารที่สนใจได้ก่อนการใช้บริการ
ล่าสุด สยามพารากอน ได้เปิดตัว Siam Paragon Dining Phenomenon ปรากฏการณ์การกินดื่มเหนือระดับที่ผสานความยิ่งใหญ่ของกว่า 700 ร้านอาหารและคาเฟ่ระดับโลก ครอบคลุมทุกประเภทโดยมีร้านอาหารใหม่ๆ เข้ามาเปิดตัวที่สยามพารากอนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ Michelin-Star Restaurants, Chef’s Tables, ร้านอาหาร Flagship จากแบรนด์ชั้นนำของโลก ไปจนถึงคาเฟ่สุดหรูและร้านเชฟชื่อดังระดับโลก นอกจากนี้ ยังรวบรวมร้านอาหารไทยร่วมสมัย
ระดับตำนาน และ Street Food ชื่อดังที่ได้รับการรีดีไซน์ใหม่ให้ร่วมสมัยและครบครันยิ่งขึ้น ยกระดับเสน่ห์อาหารไทยให้กลายเป็นศิลปะแห่งรสชาติที่สื่อสารกับผู้คนทั่วโลก รวมถึงคาเฟ่และร้านขนมชื่อดังที่นำเสนอเมนูสุดครีเอทีฟจากเชฟแถวหน้า
ไฮไลท์ คือโซนใหม่ “EATELIER” Dining Entertainment แห่งแรกของประเทศไทย ที่ผสานศิลปะ ดนตรี แฟชั่น และวัฒนธรรมการกินเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ นับเป็นการปฏิวัติประสบการณ์การกินดื่มให้กลายเป็น “Eat–Drink–Chill Hub” ใจกลางกรุงเทพฯ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ภายใต้แนวคิด “Curation & Co-Creation” เป็นแพลตฟอร์มแห่งแรงบันดาลใจที่รวมพลังของเชฟระดับดาวมิชลิน ศิลปิน นักแสดง และไอคอนในวงการบันเทิงทั้งไทยและต่างประเทศ มาร่วมกันรังสรรค์ประสบการณ์แห่งรสชาติแบบเอ็กซ์คลูซีฟที่เชื่อมโยงศิลปะ ดนตรี และการออกแบบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว สร้างบรรยากาศแห่งความสนุกและชีวิตชีวา ทั้งกลางวันและกลางคืน
นอกจากนี้ เพื่อกระตุ้นการจับจ่าย สยามพารากอน สยามเซ็นเตอร์ และสยามดิสคัฟเวอรี่ จะจัดโปรโมชั่นพิเศษอย่างต่อเนื่อง ด้วยโปรโมชั่น “SIAM PARAGON อร่อยดี(ล) TASTEAHOLIC” รับทันที SIAM DINING GIFT CARD มูลค่า 100 บาท เมื่อรับประทานอาหารในร้านที่ร่วมรายการครบ 1,000 บาทขึ้นไป และ รับทันที SIAM DINING GIFT CARD มูลค่า 200 บาท เมื่อรับประทานอาหารในร้านที่ร่วมรายการโซน EATELIER สยามพารากอน ครบ 2,000 บาทขึ้นไป หรือครบ 1,500 เมื่อใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตกสิกรไทยระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2568 – 31 ธันวาคม 2568
ต่อด้วย “SIAM CENTER - SIAM DISCOVERY STARVING HACK DEALS” รับทันที SIAM GIFT CARD มูลค่า 100 บาท เมื่อรับประทานอาหารในร้านที่ร่วมรายการครบ 1,000 บาทขึ้นไป และ รับทันที SIAM GIFT CARD มูลค่า 300 บาท เมื่อรับประทานอาหารในร้านที่ร่วมรายการครบ 2,500 บาทขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2568 – 30 พฤศจิกายน 2568 ลูกค้าที่สนใจสามารถแลกรับสิทธิ์ ตรวจสอบเงื่อนไข และจำนวนสิทธิคงเหลือได้ที่จุดรีเดมชั่น
ทั้งนี้ มาตรการภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยว ตามประกาศฯ ซึ่งให้บุคคลธรรมดา นำค่าที่พักในโรงแรม ค่าที่พักโฮมสเตย์ไทย หรือค่าที่พักในสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม และค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2568 ในการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ สามารถนำมาหักลดหย่อนค่าใช้จ่ายจำนวนไม่เกิน 20,000 บาท ตามจำนวนที่จ่ายจริง ดังนี้
1. ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่อยู่ในรูปแบบกระดาษหรือในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) ไม่เกิน 10,000 บาท
2. ค่าที่พักหรือค่าบริการของร้านอาหารที่จ่ายให้แก่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม และได้รับใบกำกับภาษีแบบเต็มรูป ที่อยู่ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) เท่านั้น เพิ่มจากข้อ 1 ได้อีกจำนวนไม่เกิน 10,000 บาท
ทั้งนี้ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขอื่นๆ เป็นไปตามที่กรมสรรพากรกำหนด


