ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กล่าวว่า แอปพลิเคชัน Life Dee ถือเป็นหนึ่งในความก้าวหน้าสำคัญของ GISTDA ในการนําเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศเข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับข้อมูลด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ หรือ Geo-Health โดย Life Dee Version 2 ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากเวอร์ชันแรก เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงข้อมูลสุขภาพเข้ากับข้อมูลเชิงพื้นที่ได้อย่างครอบคลุมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
.
GISTDA ได้เพิ่มขีดความสามารถของแอปพลิเคชัน คือ 1.การวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงของโรคไข้เลือดออก ซึ่งเป็นการบูรณาการข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมที่สกัดจากข้อมูลจากดาวเทียมและข้อมูลด้านสาธารณสุข เพื่อให้ประชาชนสามารถติดตามและป้องกันความเสี่ยงด้านสุขภาพที่เกิดจากสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ รวมถึงไข้เลือดออก 2.การติดตามดัชนีความร้อนเพื่อแจ้งเตือนประชาชน ที่เป็นการบูรณาการข้อมูลจากเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศร่วมกับข้อมูลจากสถานีตรวจวัดอากาศภาคพื้นดิน พัฒนาระบบแจ้งเตือนดัชนีความร้อน (Heat Index) เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบจากสภาพอากาศร้อน โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวเนื่องกับความร้อน
.
โดยในปี 2569 Life Dee จะต่อยอดการพัฒนาเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตในการเข้าถึงบริการสาธารณะให้แก่ผู้สูงอายุ และผู้พิการให้สามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสมและปลอดภัยในที่สาธารณะ ตามมาตรฐานสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับคนพิการขั้นพื้นฐาน ได้แก่ ที่จอดรถ ทางลาด ป้ายและสัญลักษณ์ การให้บริการข้อมูล และห้องน้ำ
.
การเปิดตัวแอปพลิเคชันครั้งนี้มีทั้งการบรรยายพิเศษ ตลอดจนการนำเสนอผลงานและตัวอย่างการประยุกต์ใช้จริงของ Life Dee Version 2 พร้อมการเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิสารสนเทศและด้านสาธารณสุข เพื่อร่วมกันผลักดันการใช้ประโยชน์จาก Geo-Health ให้เป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางสุขภาพและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยในทุกภูมิภาคต่อไป ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าว
.
ด้าน นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวเพิ่มเติมว่า “การพัฒนา Life Dee Version 2 เป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการเฝ้าระวัง ป้องกัน และตอบสนองต่อภัยสุขภาพจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับพื้นที่ โดยเฉพาะดัชนีความร้อนและโรคไข้เลือดออกที่จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงข้อมูล มีความรู้ในการป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และผู้ป่วยโรคเรื้อรัง ถือเป็นการเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพระดับบุคคล และเพิ่มศักยภาพของระบบสาธารณสุขของประเทศไทยให้เข้มแข็งและพร้อมรับมือกับสถานการณ์ในอนาคต”
.
นวัตกรรมภูมิสารสนเทศเพื่อสุขภาพ (Geo-Health) เป็นการบูรณาการเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ เพื่อพัฒนางานด้านสาธารณสุขเชิงพื้นที่ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและการเข้าถึงบริการสาธารณะของประชาชนไทย พร้อมการรับมือภัยสุขภาพจากสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ผ่านแอปพลิเคชัน Life Dee ภายใต้แนวคิด “สุขภาพดี เริ่มต้นที่แอปไลฟ์ดี” ซึ่งเป็นการผลักดันการใช้ข้อมูลเชิงพื้นที่ร่วมกับข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเฝ้าระวัง ป้องกัน และรับมือกับโรคภัยต่าง ๆ โดยเฉพาะในยุคที่การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพประชาชน “Life Dee” คือ ก้าวสำคัญของประเทศไทยในการก้าวสู่ยุค GeoHealth ซึ่งเป็นการผสานองค์ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศเข้ากับข้อมูลทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างพื้นที่ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชนในเชิงลึก ข้อมูลดังกล่าวช่วยสะท้อนให้เห็นถึงการกระจายตัวของโรค ปัจจัยเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงบริการสุขภาพ ซึ่งสามารถนำไปใช้วิเคราะห์และกำหนดนโยบายที่ตอบโจทย์พื้นที่ได้อย่างตรงจุด