"สุริยะ" เผย"สุวรรณภูมิ" ขึ้นแท่นเบอร์ 1 "สนามบินที่มีสายการบินให้บริการมากที่สุดในโลก" 105 สายการบิน แซงหน้า ชาร์ล เดอโกลล์ ปารีส และ ดูไบ สำรวจโดย Brilliant Maps ลุยเพิ่มศักยภาพรับ 120 ล้านคน สั่ง ทอท. เร่งพัฒนาทุกสนามบิน เป้าติด 20 สนามบินที่ดีที่สุดในโลก
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ผลสำรวจล่าสุดโดย Brilliant Maps ให้ "ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ” ได้อันดับ 1 ของสนามบินที่มีสายการบินให้บริการมากที่สุดในโลก โดยมีจำนวน 113 สายการบิน ส่วนอันดับ 2 ท่าอากาศยานปารีส ชาร์ล เดอโกลล์ ปารีส จำนวน 105 สายการบิน อันดับ 3 ท่าอากาศยานนานาชาติดูไบ จำนวน 97 สายการบิน อันดับ 4 ท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล จำนวน 93 สายการบิน อันดับ 5 ท่าอากาศยานโรม ลีโอนาร์โด ดาวินชี-ฟิอุมมิชิโน จำนวน 92 สายการบิน อันดับ 6 ท่าอากาศยานมิลาโน มัลเปนซา จำนวน 86 สายการบิน อันดับ 7 ท่าอากาศยานนานาชาติเซี่ยงไฮ้ ผู่ตง จำนวน 83 สายการบิน อันดับ 8 ท่าอากาศยานนานาชาตินาริตะ จำนวน 83 สายการบิน อันดับ 9 ท่าอากาศยานสิงคโปร์ชางงี จำนวน 82 สายการบิน และ อันดับ 10 ท่าอากาศยานแฟรงก์เฟิร์ต จำนวน 80 สายการบิน
ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะเร่งผลักดันและพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของประเทศไทย ให้มีมีประสิทธิภาพและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งรวมถึงเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร โดยเฉพาะท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) โดยในช่วงที่ผ่านมานั้น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ติดอันดับ 39 ของสนามบินได้ประกาศสนามบินที่ดีที่สุดในโลก จากเดิมที่อยู่อันดับ 58 พร้อมกับตั้งเป้าให้ติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายในระยะ 5 ปี
นายสุริยะ กล่าวว่า ได้ตั้งเป้าหมายในช่วงระยะสั้น ให้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีความสามารถในการรองรับผู้โดยสารที่ 120 ล้านคนต่อปี พร้อมทั้งจะขยายเทอร์มินัล 1 ด้านทิศตะวันออก เพื่อให้รองรับผู้โดยสารได้มากยิ่งขึ้น ประกอบกับ เร่งก่อสร้างเทอร์มินัล 2 ทางทิศใต้ ใกล้ถนนบางนา-ตราด อีกด้วย นอกจากนั้นแล้ว ได้สั่งการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ให้เข้าบริหารจัดการอย่างเร่งด่วนในกรณีการเคลื่อนย้ายผู้โดยสารและสัมภาระในจุดที่เป็นคอขวด เพื่อเพิ่มความรวดเร็วในการใช้บริการ พร้อมกับนำเทคโนโลยีและระบบดิจิทัล เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการสนามบินอย่างเต็มรูปแบบ พร้อมกับปรับทัศนียภาพโดยรวมเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใช้เวลาอยู่ที่สนามบินได้อย่างมีความสุขตลอดการใช้บริการ
นอกจากนี้ นายสุริยะ ยังได้ สั่งการ ให้ ทอท. ดำเนินการโครงการพัฒนาท่าอากาศยานทั้ง 6 แห่ง โดยมุ่งเน้นการรองรับผู้โดยสารได้ตามปริมาณการเติบโตของผู้โดยสาร โดยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ให้เร่งรัดก่อสร้างส่วนต่อขยายด้านทิศตะวันออก (East Expansion) ให้แล้วเสร็จในปี 2573 เพื่อเพิ่มขีดความสามารถจากปัจจุบัน 60ล้านคนต่อปี เป็น 80 ล้านคนต่อปี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาแผนแม่บทท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ควบคู่กับการดำเนินโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้านทิศใต้ ประกอบด้วย อาคารผู้โดยสารด้านทิศใต้ (South Terminal) และทางวิ่งเส้นที่ 4 (4th Runway)
รวมถึง ท่าอากาศยานดอนเมืองที่คาดว่าจะเริ่มก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 ได้ภายในปี 2569 และเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารอาคาร 3 เพื่อรองรับผู้โดยสารระหว่างประเทศในปี 2573 และการปรับปรุงอาคารผู้โดยสารอาคาร 1 เพื่อรองรับผู้โดยสารภายในประเทศในปี 2575 พร้อมกับการดำเนินการปรับปรุงท่าอากาศยานเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จในปี 2576 เพื่อให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ 20 ล้านคนต่อปี และการก่อสร้างส่วนต่อขยายอาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ
ท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของท่าอากาศยานภูเก็ตเป็น 18 ล้านคนต่อปี ที่ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2573 รวมทั้ง แผนจะพัฒนา ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย เพื่อรองรับผู้โดยสารจาก 3 ล้านคนต่อปี เป็น 6 ล้านคนต่อปี ที่คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2576