xs
xsm
sm
md
lg

ราเชนทร์ โวส่งออกตามเป้า 12.5% เดือน พ.ค.ขยายตัวสูงสุด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พาณิชย์โวลั่น ส่งออกปีนี้โต 12.5% ตามเป้า เผยยอดเดือน พ.ค.โตสูงถึง 20.9% คาดปีนี้เกินดุล 9 พันล้านเหรียญ พร้อมลดเป้าหมายเงินเฟ้อเหลือ 1.5-2.5%

นายเกริกไกร จีระแพทย์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกไทยเดือนพ.ค. มีมูลค่า 13,049.1 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 20.9% ขยายตัวสูงสุดในรอบปี เป็นการส่งออกเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในทุกหมวดสินค้า เช่น สินค้าเกษตร เพิ่มขึ้น 15.5% สินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 21.4% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 12,248.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 6.7% โดยสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 2.4% สินค้าวัตถุดิบกึ่งสำเร็จรูป เพิ่มขึ้น 11.3% สินค้าอุปโภคบริโภค เพิ่มขึ้น 20% ขณะที่นำเข้าสินค้าเชื้อเพลิง ลดลง 1.8% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 800.2 ล้านเหรียญสหรัฐ

ส่วนการส่งออกรวม 5 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ค.) มีมูลค่ารวม 58,747.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18.8% คิดเป็น 40.25% ของเป้าหมายการส่งออก ขณะที่การนำเข้ามีมูลค่ารวม 53,420.7 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4.4% ส่งผลให้เกินดุลการค้า 5,326.9 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งขาดดุล การค้าสูงถึง 1,753 ล้านเหรียญสหรัฐ และมั่นใจว่ายอดการส่งออกทั้งปีจะเป็นไปตามเป้าหมาย 12.5% มูลค่า 145,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และปีนี้อาจจะเกินดุลการค้าสูงถึง 8,000-9,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

สำหรับเงินเฟ้อปีนี้กระทรวง พาณิชย์คาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะขยายตัว 2-2.5% โดยครึ่งปีหลังคาดว่าจะเฉลี่ย 2.4% จากเฉลี่ย 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ปีนี้ที่ 2.2% ทั้งนี้ เงินเฟ้อในปีนี้อยู่ในระดับที่ไม่สูงเมื่อเทียบกับปี 48 และ 49 ที่สูงขึ้น 4.5% และ 4.7% ตามลำดับ

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรม การค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ได้มีการหารือร่วมกับผู้ส่งออกเพื่อประเมินสถานการณ์การส่งออกล่าสุดเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทุกฝ่ายมีความเชื่อมั่นว่าการส่งออกจะเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย และจะขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 12.5% แม้ว่าการส่งออกไปตลาดสหรัฐ จะชะลอตัวลงตามภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐ แต่การส่งออกไปยังตลาดหลักอื่นๆ ได้แก่ ญี่ปุ่น อาเซียน และยุโรปเพิ่มขึ้น รวมถึงการส่งออกไปยังตลาดใหม่ เช่น อินเดีย ยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง แอฟริกา ลาตินอเมริกา และจีน ก็เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ตามการนำเข้าในเดือนมิ.ย. คาดว่า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์เหล็ก จะนำเข้า 1.36% ล้านตัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยตามความต้องการใช้ในการผลิตเพื่อการส่งออกและทดแทนสต๊อกเดิมที่ใช้ไป ทองคำคาดว่าจะนำเข้า 13.37 ตัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากค่าเงินเหรียญสหรัฐอ่อนตัวลง และราคาน้ำมันสูงขึ้น
กำลังโหลดความคิดเห็น